ไฟล์​เพลงที่ฟังๆ​ ​กัน​อยู่​มีมากมายหลายประ​เภทนะครับ​ ​แม้ว่าปัจจุบันโปรแกรมแปลงต่างๆ​ ​จะ​มีมากมาย​ ​แต่​ผู้​ใช้​ก็ควรรู้​เรื่องเกี่ยว​กับ​ไฟล์ประ​เภทต่างๆ​ ​ไว้​ซักนิดนะครับ

ไฟล์​เพลง​สามารถ​แยก​เป็น​ประ​เภท​ใหญ่ๆ​ ​ได้​ 2 ​ประ​เภทนะครับ
ประ​เภทแรก​ Lossless file
คือไฟล์ที่​ไม่​มีการเสียข้อมูล​ใดๆ​ ​ไปเลย​ ​เช่น​ Wav, WavPack, FLAC, Monkey

ประ​เภทที่สองคือ​ Lossy file
คือไฟล์ที่มีการบีบอัด​แล้ว​เสียข้อมูลไปบ้าง​ ​เช่น​ MP3, MP4, AAC, OGG, WMA

จะ​ขออธิบายเรื่องเกี่ยว​กับ​การบีบอัดนิดหน่อยนะครับ
เสียงที่คนเราฟัง​ได้​จะ​อยู่​ใน​ช่วง​ 20 - 20000 Hz ​ครับ
เด็กทารก​จะ​ได้​ยินเสียงเหล่านี้ครบถ้วน​ ​พอโตๆ​ ​ขึ้น​ ​ความ​สามารถ​ใน​การรับเสียง​จะ​ค่อยๆ​ ​ลดลง
คน​ทั่วๆ​ ​ไป​ส่วน​ใหญ่​จะ​รับเสียง​ได้​ถึง​ประมาณ​ 15000 Hz ​หลัง​จาก​นั้น​จะ​ค่อยๆ​ ​เบาลงครับ
ส่วน​เสียง​ความ​ถี่ต่ำ​ ​ผมจำ​ค่า​ไม่​ได้​แล้ว
ปล​. ​ส่วน​นี้​เกี่ยว​กับ​ลำ​โพง​ด้วย​ ​ว่า​สามารถ​เล่นเสียง​ได้​แค่​ไหน​ ​ลำ​โพง​ทั่วๆ​ ​ไป​จะ​เล่น​ได้​ไม่​ถึง​ 20 - 20000 Hz

Lossy file ​จะ​ใช้​ความ​รู้​เรื่องนี้​ใน​การบีบอัดเสียง​ด้วย​ ​คือมัน​จะ​ลดปริมาณข้อมูล​ (ก็คือทิ้งข้อมูลไปบ้าง) ​ใน​ช่วงประมาณ​ 15000 Hz (จุดนี้​แล้ว​แต่​ kbps ​ที่บีบอัด​ด้วย​ ​ถ้า​ใช้​ bit rate ​มาก​ ​ก็​จะ​ทิ้งข้อมูลน้อย) ​ซึ่ง​ทำ​งาน​โดย​ใช้​ Model ​ของเสียงที่​เป้นมาตรฐานของไฟล์​ format ​ต่างๆ
แล้ว​ก็​จะ​ลดข้อมูล​ใน​เสียงที่​ไม่​ค่อย​ได้​ยิน​ ​เช่นเสียงที่​โดนเสียง​อื่น​กลบทับ



เรามาว่า​ด้วย​รายละ​เอียดคร่าวๆ​ ​ของ​ lossy file ​ต่างๆ​ ​ดีก่าคับ​ (ผมก็รู้​ไม่​ค่อยละ​เอียดเชิงลึก)

MP3
ใช้​กัน​มาสิบกว่าปี​แล้ว​ ​พัฒนา​โดย​สถาบันวิจัยของเยอรมัน​ ​เป็น​ลักษณะการบับอัดเสียงชนิดแรกที่​ได้​รับ​ความ​นิยมอย่างสูง​ทั่ว​โลก
ปัจจุบัน​ ​ความ​สามารถ​น้อยกว่า​ไฟล์​อื่นๆ​ ​ที่​เกิดที่หลัง​ ​แต่​ยัง​นิยม​ ​เพราะ​อุปกรณ์​ส่วน​ใหญ่​เล่น​ได้
ต่อมาพัฒนา​เป็น​ MP3pro ​แต่​ไม่​ได้​รับ​ความ​นิยม​ ​เพราะ​ค่า​ใช้​สิทธิ์​แพง
ปล​. mp3 ​เป็น​ไฟล์ที่มีค่า​ใช้​จ่าย​ใน​การ​ใช้​สิทธ์นะครับ
โปรแกรม​เข้า​รหัสไฟล์​ MP3 ​ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ​ LAME
โปรแกรมหลายๆ​ ​ตัว​ ​ใช้​ LAME ​เป็น​โปรแกรม​เข้า​รหัส​ MP3 ​ให้​ ​เช่น​ flash, dB poweramp

OGG
ไฟล์​เพลงที่ผม​ใช้​เป้นหลัก​ ​เหอๆ​ ​กว่าพันเพลง​ใน​เครื่อง​เป็น​ไฟล์นี้
พัฒนา​โดย​กลุ่มพัฒนาอิสระ​ ​ใน​นาม​ Vorbis ​เกิดขึ้นเมื่อ​ไม่​กี่ปีมานี้
ลักษณะพิ​เศษคือ​เป็น​ไฟล์ที่​เปิด​ให้​ใช้​ได้​อย่างฟรีจริงๆ​ ​ใครเอา​ไป​ใช้​ก็​ได้​ ​(​จะ​ให้​ได้​ว่า​เกม​ส่วน​ใหญ่​ใช้​ไฟล์นี้​เป้นเพลง​ใน​เกม) ​และ​ให้​คุณภาพเสียงที่ดี​ ​ใน​ bit rate ​ที่ต่ำ​กว่า​ mp3
เครื่องเล่น​ mp3 ​บางชนิด​จะ​เล่นไฟล์นี้​ได้

ตอนนี้ก็​ยัง​พัฒนาต่อเรื่อยๆ​ ​โดย​ได้​รับการปรับปรุงโค้ดตอนนี้​โดย​นักพัฒนาชาวญี่ปุ่น​ใน​นาม
Ogg aoTuV (ตอนนี้​ถึง​ Beta5 ​แล้ว)​ ​ซึ่ง​ทำ​ให้​เสียงดียิ่งขึ้น​ใน​ bit rate ​ต่ำ​ๆ

WMA
Windows Media Audio
พัฒนา​โดย​ microsoft ​ตอนนี้มา​ถึง​รุ่น​ 9.2 ​ที่มา​ใน​ Windows media player 11 ​ครับ
จุดเด่นคือเสียงดีกว่า​ mp3 ​และ​มีระบบป้อง​กัน​ลิขสิทธิ์​ (DRM) ​จาก​ microsoft
แต่ผม​ไม่​ชอบ​ ​เพราะ​มัน​ไม่​ฟรี​ ​และ​เล่นอะ​ไร​ไม่​ค่อย​ได้​ ​เพราะ​มัก​จะ​ถูกล็อก​อยู่

AAC
Advance Audio Codec
หรือ​ MP4 ​ครับ​ ​เป้นาตรฐานที่ผม​ยัง​งงๆ​ ​เพราะ​มีมาตรฐานย่อยๆ​ ​เยอะ​ ​มี​ทั้ง​ HC ​และ​ LC ​ฯลฯ
Apple ​ใช้​กับ​ iPod ​ครับ​ ​เพราะ​ทางร้านขายเพลง​ iTune
เสียงดีครับ​ (รู้​แค่นี้)




ไฟล์​ Lossless ​บ้าง

WAV
ไฟล์มาตรฐาน​ ​ตั้งเดิม​ ​เก็บข้อมูลทุกอย่างของเสียง​ไว้​ ​ไม่​มีการบีบอัด​ ​ทำ​ให้​เสียงดี​ ​และ​ไฟล์​ใหญ่​มากกกกกก

FLAC
Free Lossless Audio Codec
เป้นไฟล์​ lossless ​ฟรี​ ​ชั้นดีตัวหนึ่ง​ ​ทำ​งาน​ได้​รวด​เร็ว​ ​บีบอัดข้อมูล​ได้​เยอะพอสมควร
บับเพลง​จาก​ CD ​จะ​ได้​ bitrate ​ราวๆ​ 400 kbps ​กว่าๆ​ ​(​ถ้า​ wav ​ใช้​ที่ราวๆ​ 1411 kbps)
เสียงสมบูรณ์​เหมือนเดิม​ ​แต่ขนาด​เล็ก​ลงมาก
ผมแนะนำ​ให้​ใช้​แทนบีบ​เป็น​ MP3 ​ที่​ 320 kbps ​ครับ​ ​เหอๆ

WavPack (.wv)
คล้ายๆ​ ​กับ​ FLAC ​แต่มี​ความ​สามารถ​ต่าง​กัน​นิดหน่อย​ ​เช่น​ hybrid file, lossy with correction
ผม​จะ​ไม่​อธิบายนะครับ​ ​เพราะ​ความ​สามารถ​ใกล้ๆ​ ​กับ​ FLAC




อธิบายคำ​ศัพท์

kbps
kilobit per second
จำ​นวนบิตที่ส่งต่อ​ 1 ​วินาที
ยิ่งมาก​ ​ไฟล์ยิ่ง​ใหญ่​ ​เสียงยิ่งดี

CBR
Constant bit rate
จะ​เห็น​ได้​ตอนแปลงไฟล์ครับ​ ​ก็คือ​ใช้​ bit rate ​คงที่ตลอดเวลา​ ​ไม่​ว่า​เสียง​จะ​มี​ความ​ซับซ้อนแค่​ไหน
ข้อดีคือ​ ​ทำ​ให้​คำ​นวณพื้นที่ที่​จะ​ใช้​ได้​ง่ายครับ

VBR
Variable bit rate
bit rate ​แปรผัน​ ​ตรงข้าม​กับ​ CBR ​ครับ
bit rate ​จะ​แปรผัน​กับ​ความ​ซับซ้อนของเสียง​ ​เช่นช่วงที่​ไม่​มี​เสียง​ ​ก็​จะ​ใช้​ bit rate ​ต่ำ​สุด
ผลก็คือ​ใช้​ bit rate ​ได้​คุ้มค่ากว่าครับ
ไฟล์อย่าง​ ogg ​จะ​ไม่​มี​ CBR ​ให้​เลือก​ ​เพราะ​มันรู้ดีกว่า​ VBR ​ดีกว่า​ ​เหอๆ

ReplayGain
เทคโนโลยีที่​ช่วย​ปรับเสียงของทุกเพลง​ให้​เท่า​กัน





การ​จะ​เล่นไฟล์ต่างๆ​ ​ที่ว่ามา​ ​ถ้า​ใช้​ windows media player ​ก็​จะ​เล่น​ได้​แค่​ mp3, wma ​และ​อื่นๆ​ ​อีกนิดหน่อย
ถ้า​อยาก​ใช้​ Media player ​เล่นไฟล์พวกนี้​ ​ก็​ต้อง​ลงพวก​ k-lite codec pack ​ครับ

แต่มีทางเลือกที่ดีกว่า​นั้น​เช่น​ foobar2000 ​โปรแกรมเล่นเพลงหน้าตา​เรียบๆ​ ​ที่มี​ความ​สามารถ​ที่​ผู้​คลั่งเสียงเพลง​ต้อง​หันมองเช่น
ReplayGain , ​แก้​ไข​ tag ​เพลง​ได้​หลายเพลง​, ​แปลงไฟล์​, ​เล่นไฟล์​เพลง​ได้​สารพัด
www.foobar2000.org

ถ้า​อยาก​ได้​ตัว​ encoder ​ไฟล์​เป็น​แบบต่างๆ​ ​ก็​ไปดูที่
http://www.rarewares.org/
ครับ

Credit : Eka-X