ในยุคปัจจุบัน โลกแห่งการแข่งขัน ถือได้ว่า การคิดสร้างสรรค์นั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ไม่ว่าจะประกอบอาชีพในสายงานใดก็ตาม วันนี้ ผมมีหลักการเล็กๆ น้อยๆ จากที่อบรม มาฝากครับ

หลักการสู่การเป็น Creative

1.สิ่งแรก ที่ขาดไม่ได้ก็คือ เรา ต้องเป็นคนที่มีความรู้ ความรู้ที่ว่า ไม่ได้จำกัดว่า ต้องเป็นความรู้เชิงวิชาการ หรือ ความรู้ทางด้านการออกแบบ แต่ความรู้ที่หมายถึง ก็คือ ความรู้รอบตัว สิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวเรา สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้มาก ยิ่งเราเป็นผู้ที่รู้รอบ รู้เยอะ รู้มาก รู้จริง (อย่างที่เรารู้ๆกัน ก็คือ รู้เรื่องชาวบ้านไปทั่ว นั่นแหละ) ก็ยิ่งเป็นประโยชน์แก่ตัวเรามาก

2.เมื่อมีความรู้แล้ว หลายคนก็คงเกิดอาการสงสัยในความรู้ที่มี ว่า “มันจริงไหม” “ใช่เหรอ” “ทำไมมันต้องเป็นแบบนั้น” ฯลฯ ดังนั้น จึงกลายมาเป็นคำถามในที่สุด ขั้นตอนนี้ จึงเป็นการตั้งคำถาม เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในความรู้นั้น

3.เมื่อเราเกิดข้อสงสัยแล้ว ต่อมา ก็คงเดากันได้ นั่นก็คือ เราต้องมาหาคำตอบของคำถามนั้น คำตอบที่เราได้รับ อาจมีมากมายจนนับไม่ถ้วน อาจมีถูกบ้าง ผิดบ้าง ปนๆ กันไป แต่ทั้งหมดนั้น ถือเป็นคำตอบที่สำคัญทุกคำตอบ

4.เมื่อได้คำตอบแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลา ที่เราจะถอยออกมา เดินขึ้นไปอยู่บนที่สูง แล้วก้มลงมอง คำถามที่เราตั้งไว้ และมองคำตอบทั้งหมดในหลายๆ มุม (ที่เราเคยได้ยินกัน คือ “คิดนอกกรอบ”) เมื่อได้ข้อสรุป หาทางออกที่ตอบโจทย์กับปัญหานั้นได้แล้ว คราวนี้ก็วิ่งใส่มันเลย ลุยให้เต็มที่

การเป็น Creative ที่ดี

- ต้องมองอะไรในแง่บวก

- กล้าทำลายของเก่า เพื่อสร้างสิ่งใหม่ที่ดีกว่า

- ยอมรับในการเปลี่ยนแปลง และยอมรับในความคิดที่แตกต่าง





งาน Creative ที่ดี

- งานนั้นต้องดูรู้เรื่อง (แบบว่า มองแล้วรู้เรื่องเลย ไม่ใช่ต้องผ่านไปซะ 10 ปี ก่อน แล้วค่อยเข้าใจ)

- ต้องมีความรู้สึกดีกับมัน ประทับใจกับมัน (เหมือนดูละครหลังข่าว แล้ว IN แนวๆ นั้นเลย)

- ควรรู้กาลเทศะ หรือ In-trend (รู้แนวโน้มว่า ปัจจุบันนี้ ภาษาเราใช้แบบไหนกัน เช่น ช่วงนี้ฮิตคำว่า “แอ๊บแบ้ว” เราจะไปใช้ “จุ๋มจิ๋ม” คงจะไม่ได้ อีกอย่าง เราต้องรู้ว่า อะไรควร ไม่ควร เช่น ช่วงนี้ ประเด็นทางการเมืองกำลังรุนแรง ดังนั้น ผลงาน ก็ไม่ควรสื่อให้ผู้รับเกิดการขัดแย้งกัน)

- ทำให้ผู้รับนั้น รู้แจ้งเห็นจริง (แบบว่าดูเสร็จ แล้วเชื่อและเข้าใจในสิ่งนั้นอย่างแท้จริง แล้วนำไปปฏิบัติ เช่น เราทำโฆษณา “จน เครียด กินเหล้า” พอออกอากาศแล้ว คนไทยทั้งประเทศ เลิกเหล้ากันหมด นั้นแหละ ถือว่า ผลงานเรานั้น ประสบผลสำเร็จ)





การรวมกลุ่มกันคิดงาน (Brainstorm)

- ถ้าในกลุ่ม มีคนคิดแตกต่างกันมากเพียงใด ยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น แบบว่าทะเลาะกันเลยยิ่งดี เพราะนั่น เป็นชนวนให้เกิดผลงาน และข้อคิดที่ดี

- เวลาเราคิดอะไรได้ ควรมีการจดบันทึกไว้ เพื่อเป็นประโยชน์ในอนาคต

- เมื่อเกิดเหตุการณ์ เจอทางตัน ความคิดตัน เวลานั้น เราควรหยุดคิดไปก่อน เลิกคิด แล้วไปหาอะไรทำอย่างอื่นดีกว่า ในช่วงระหว่างที่เราพัก อาจเจอทางดีๆ ก็ได้

- เมื่อเรารวบรวมความคิดไว้พอแล้ว เราก็เริ่มมาตัดสิ่งที่คนในกลุ่มเห็นตรงกันว่า “ไม่ดี” “ไม่ควรทำ” “ตัดออกไปเหอะ” เราก็ค่อยๆ ตัดมันออกไป อีกไม่นาน ก็คงจะได้ข้อสรุปอย่างแน่นอน





ความคิดสร้างสรรค์ ไม่ได้จำกัดเพียงแค่งานเพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่เราสามารถประยุกต์ใช้ได้ในทุกๆ งาน ไม่ว่า การเรียน การคิดค้นโปรแกรมใหม่ๆ ก็ย่อมเกิดจากการคิดสร้างสรรค์ทั้งนั้น





ความคิดสร้างสรรค์ ไม่มีวันสิ้นสุด

ความรู้อยู่รอบตัวเรา อยู่ที่ว่าเราจะดึงมันมาใช้ให้เกิดความคิดสร้างสรรค์หรือเปล่า??