ชี้พฤติกรรม "การเปิดคอมพิวเตอร์ข้ามคืน" ของบริษัทห้างร้านต่าง ๆ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยของการเพิ่มปัญหาให้กับภาวะโลกร้อนอย่างมาก เพราะตามหลักการทำงาน แม้คอมพิวเตอร์จะไม่ได้มีการประมวลผลงานใด ๆ แต่ก็ยังปล่อยก๊าซ CO2 ออกมาเหมือนเดิม แถมยังสิ้นเปลืองกระแสไฟฟ้าคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 1.72 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี คิดเป็นเงินไทยประมาณ 55,000 ล้านบาทด้วย
รายงานฉบับดังกล่าวจัดทำขึ้นภายใต้ชื่อว่า PC Energy Report 2007 ซึ่งรายงานการใช้พลังงานของคอมพิวเตอร์พีซีในสหรัฐอเมริกา โดยเปิดเผยข้อมูลว่า ในกลุ่มบริษัทขนาดกลาง ถ้าหากปิดคอมพิวเตอร์ในช่วงกลางคืน จะสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากกว่า 165,000 เหรียญสหรัฐต่อปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศได้ 1,381 ตันต่อปีเลยทีเดียว ซึ่งปริมาณดังกล่าวนี้เทียบเท่ากับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของรถยนต์ในรัฐแมรี่แลนด์ทั้งรัฐ และถ้าหากนำมาคูณกับจำนวนบริษัทห้างร้านทั้งหมดทั่วประเทศแล้ว อาจคิดเป็นความเสียหายมากกว่า 1.72 พันล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นการเพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 14.4 ล้านตันต่อปีเลยทีเดียว
แนวทางแก้ไขปัญหานี้ไม่ยาก เพียงแค่รณรงค์ให้พนักงานปิดคอมพิวเตอร์ทุกครั้งหลังเลิกงาน แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ผู้ทำแบบสอบถามกลับพบปัญหาบางประการ โดยพบว่าพนักงานส่วนหนึ่งมักชอบทึกทักว่า ไม่จำเป็นต้องปิดคอมพิวเตอร์ เพราะในช่วงกลางคืน ทีมไอทีของบริษัทอาจมีการอัปเดตแพทช์ป้องกันไวรัส หรือการอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่านระบบเครือข่าย ขณะที่บางคนเลือกใช้โหมด "Sleep" หรือ โหมด "Hibernation" ของคอมพิวเตอร์แทน โดยให้เหตุผลว่าการปิดโดยใช้วิธี shut down นั้นใช้เวลานานกว่า
อ้างอิงตัวเลขจาก Harris Interactive ในเดือนเมษายน 2007 สหรัฐอเมริกามีพนักงานที่ทำงานแบบเต็มเวลาอยู่ประมาณ 145,800,000 คน และเป็นกลุ่มคนทำงานวัยผู้ใหญ่ถึง 72 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้มีพฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการทำงานเป็นหลัก คิดเป็นจำนวน 104 ล้านคน ในจำนวนนี้ มีพนักงานประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ หรือ 20.8 ล้านคน ไม่เคยปิดคอมพิวเตอร์หลังเลิกงานเลย และประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ หรือ 62.4 ล้านคนที่อาจจะปิดบ้างไม่ปิดบ้าง
สำหรับคอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่องที่ถูกเปิดทิ้งไว้ข้ามคืนจะปล่อยก๊าซ CO2 ออกมาประมาณ 920 ปอนด์ ซึ่งนั่นหมายความว่า หากพนักงานจำนวน 60 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานที่มีทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาพร้อมใจไม่ปิดคอมพิวเตอร์ พวกเขาจะสร้างมลภาวะทางอากาศด้วยการปล่อยก๊าซ CO2 สูงถึง 14.4 ล้านตันต่อปีเลยทีเดียว
ในแง่ของทรัพยากรป่าไม้ เราจำเป็นต้องใช้ต้นไม้ตั้งแต่ 60 - 300 ต้นในการลดก๊าซ CO2 ที่ถูกปล่อยออกมาจากคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องที่ทำงานทั้งวันทั้งคืน ซึ่งนั่นหมายความว่า เราจำเป็นต้องใช้ต้นไม้ 1.24 - 6.24 พันล้านต้นในการดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กลับไปฟอกใหม่ให้ได้เป็นก๊าซออกซิเจนกลับมา
รายงาน PC Energy Report 2007 ยังเชื่อว่า ผู้ที่ไม่ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์หลังเลิกมักหยิบยกประเด็นที่ว่าเป็นนโยบายของแผนกไอทีภายในองค์กรมาอ้างด้วย
หากเปรียบเทียบกับประเทศอังกฤษ จะพบว่ามีจำนวนผู้ที่เปิดคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้ข้ามคืนน้อยกว่า ประมาณ 18 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดเป็นปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 700,000 ตันต่อปี
การสำรวจครั้งนี้จัดทำขึ้นในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีผู้ตอบแบบสอบถาม 2,915 คน (อายุ 18 ปีขึ้นไป)
แหล่งที่มา : www.manager.co.th
Date : 2007-06-28 10:03:24