ไมโครซอฟท์-กูเกิลชิงดำบริการค้นหาหนังสือออนไลน์
สองยักษ์คู่แข่งบนโลกค้นหาหนังสือออนไลน์เร่งขยายช่องทางจูงใจผู้ใช้อินเตอร์เน็ต ไมโครซอฟท์เพิ่มบริการค้นหาหนังสือที่มีลิขสิทธิ์เป็นครั้งแรกโดยได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือแล้วทั้งหมด ขณะที่กูเกิลเร่งขยายความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำภายใต้โครงการสแกนหนังสือดิจิตอล ล่าสุดจีบเพิ่มได้อีก 12 ราย
การแข่งขันเพื่อให้บริการประเภทค้นหาหนังสือบนอินเตอร์เน็ตเพิ่มอุณหภูมิร้อนแรงขึ้น เมื่อล่าสุดไมโครซอฟท์ประกาศขยายบริการค้นหาในไลฟ์ เสิร์ช บุ๊กครอบคลุมถึงงานที่มีลิขสิทธิ์ในดัชนีค้นหาของตนแล้วเป็นครั้งแรก โดยชูจุดเด่นเหนือคู่แข่งที่งานทั้งหมดจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือแล้วทั้งสิ้น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความขัดแย้งด้านการละเมิดลิขสิทธิ์กับผู้แต่งหรือผู้พิมพ์หนังสือ ดังที่เกิดกับกูเกิล คู่แข่งสำคัญที่กำลังเผชิญคดีฟ้องร้องละเมิดลิขสิทธิ์หนังสือถึงสองคดีในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากสแกนหนังสือที่มีลิขสิทธิ์โดยไม่ขออนุญาตจากเจ้าของสิทธิ์ก่อน
ดาเนียลเล ทิดท์ ผู้จัดการทั่วไปของกลุ่มทำงานไลฟ์ เสิร์ชของไมโครซอฟท์ยอมรับว่าฐานข้อมูลหนังสือลิขสิทธิ์ที่กูเกิลสแกนไว้ในคลังห้องสมุดของตนช่วยเพิ่มฐานข้อมูลหนังสือให้กับกูเกิลได้เป็นจำนวนมากก็จริง แต่การทำงานร่วมกับผู้พิมพ์หรือเจ้าของสิทธิ์หนังสือก่อนเช่นที่ไมโครซอฟท์ทำย่อมให้ประโยชน์กับผู้ใช้บริการได้ดีกว่า
โดยดัชนีข้อมูลหนังสือลิขสิทธิ์ในความครอบครองของไมโครซอฟท์มาจากผู้พิมพ์ เช่น แมคกรอว์-ฮิลล์ คอมพานี ไซมอนแอนด์ชูสเตอร์ และเยล ยูนิเวอร์ซิตี้ เพรส ซึ่งผู้พิมพ์หนังสือจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะให้แสดงเนื้อหาในหนังสือบนหน้าจออินเตอร์เน็ตได้ในสัดส่วนเท่าใด ขณะเดียวกันไมโครซอฟท์ยังแสดงรายละเอียดของหนังสือ เช่น ความยาว ชื่อผู้พิมพ์ ผู้แต่ง วันที่ตีพิมพ์ สารบัญ และอารัมภบทให้ด้วย และหากผู้ใช้ตัดสินใจที่จะซื้อหนังสือเล่มดังกล่าว ไมโครซอฟท์ยังอำนวยความสะดวกด้วยการเชื่อมลิงค์ไปยังเว็บไซต์อื่นที่ขายหนังสือเล่นนั้น เช่น ร้านค้าออนไลน์อเมซอนดอตคอม หรือร้านออนไลน์ของบริษัทผู้พิมพ์หนังสือเอง
สำหรับบริการไลฟ์ เสิร์ช บุ๊กส์ (books.live.com) ไมโครซอฟท์เริ่มเปิดดำเนินการมาตั้งแต่เดือนธ.ค. ปีที่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้จะเป็นหนังสือที่เผยแพร่ตามสาธารณะทั่วไป ขณะที่บริการค้นหาหนังสือของกูเกิลเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งแต่เดิมมีทั้งหนังสือที่เผยแพร่ตามสาธารณะทั่วไป และหนังสือมีลิขสิทธิ์แต่ใช้วิธีขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อนสแกนหนังสือดังกล่าว แต่ในเวลาต่อมาตัดสินใจสแกนหนังสือที่มีลิขสิทธิ์แต่ไม่ขออนุญาตด้วย ซึ่งกูเกิลอ้างว่าตนได้รับความคุ้มครองการกฎการใช้งานที่ยุติธรรม เนื่องจากกูเกิลเพียงแสดงข้อมูลของหนังสือเพียงสั้นๆ จากหนังสือที่มีลิขสิทธิ์ที่ตนสแกนโดยไม่ได้ขออนุญาต ขณะที่กลุ่มไม่เห็นด้วยคัดค้านว่าเพียงแค่สแกนและบันทึกเนื้อหาหนังสือโดยไม่ได้ขออนุญาตก็ถือว่าทำการละเมิดลิขสิทธิ์แล้ว
ในส่วนของกูเกิลในเวลาเดียวกันก็ประกาศความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐอเมริกาอีก 12 แห่งภายใต้โครงการสแกนหนังสือของกูเกิลโดยมีเป้าหมายเพื่อแบ่งปันความรู้ที่เป็นดิจิตอลให้สถานศึกษา นักเรียน และสาธารณชนเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งกลุ่มความร่วมมือในครั้งนี้อยู่ในชุดคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างสถาบันประกอบด้วยมหาวิทยาลัยชิคาโก อิลินอยส์ อินเดียนา ไอโอวา มิชิแกน มิชิแกนสเตท มินเนสโซตา นอร์ธเวสเทิร์น โอไฮโอสเตท เพนสเตท เพอร์ดู และวิสคอนซิน ทั้งนี้คาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการจนแล้วเสร็จ 6 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้กูเกิลได้เคยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างๆ มาบ้างแล้วเช่น ฮาร์วาร์ด สแตนฟอร์ด พรินซ์ตัน อ๊อกฟอร์ด เท็กซัส และเวอร์จิเนีย