Page 1 of 6 123 ... LastLast
Results 1 to 10 of 51

Thread: รวมสาระโพสเรื่อยๆ

  1. #1


    กระทู้นี้นะครับจารวมสาระเกร็ดความรู้ต่างๆที่ผมมีอยู๋ในเครื่องนะครับใครชอบไม่ชอบยังไงก็ช่วย กด thanks ให้ด้วยนะครับ

    **Hidden Content: To see this hidden content your post count must be 1 or greater.**


    วาซาบิ เพื่อสุขภาพ

    ถ้าบอกว่ามีสีเขียวทั้งเผ็ดและฉุนขึ้นจมูก ใช้รับประทานคู่กับปลาดิบ คุณคงต้องนึกถึงวาซาบิเป็นแน่ บางคนอาจจะร้องยี้ด้วยไม่ชอบรสชาติของมัน แต่รู้หรือไม่ว่าในความฉุนหรือเผ็ดนั้นมีคุณประโยชน์แฝงอยู่มากมาย สารในวาซาบิที่ให้รสเผ็ดและกลิ่นฉุนนั้น มีสรรพคุณในการยับยั้งการเจริญเติบโต ของจุลินทรีย์ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุ และยังพบสาร Isothiocyanate (ITCs) ซึ่งมีส่วนช่วยการยับยั้งการเจริญเติบโตของเอ็นไซม์ ที่ก่อให้เกิดหินปูนบนฟัน และยังมีฤทธิ์ต้านมะเร็งที่ปอด ลำไส้ใหญ่ ตับ หลอดอาหารและเต้านม อีกด้วย


    กาแฟ : เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพหรือไม่

    ผลการศึกษาหลายฉบับเมื่อไม่นานมานี้แนะว่า การบริโภคกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะให้ผลดี ดังตัวอย่างเช่น.. งานวิจัยซึ่งตีพิมพ์ในวารสารสมาคมแพทย์อเมริกาพบว่าคนที่ดื่มกาแฟวันละ 3 แก้ว มีโอกาสเกิดโรคพาร์คินสันน้อยลงถึง 5 เท่า การศึกษาของวิทยาลัยสาธารณสุขฮาร์วาร์ดพบว่า ผู้ชายที่ดื่มกาแฟเกินวันละ 6 แก้วลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ราวร้อยละ 50 ขณะความเสี่ยงนี้ในผู้หญิงลดลงเกือบร้อยละ 30 สถาบันมะเร็งของญี่ปุ่นกล่าวว่าการดื่มกาแฟวันละ 3 - 4 แก้ว อาจลดความเสี่ยง
    ต่อโรคมะเร็งตับลงถึงครึ่งหนึ่ง แต่สมาคมโรคเบาหวานอังกฤษเตือนว่าอย่าดื่มเกินกว่านี้เพราะการดื่มมากเกินไปอาจทำให้คุณรู้สึกกระวนกระวาย นอนไม่หลับและหญิงตั้งครรภ์ไม่ควรดื่มเกินวันละ 2 แก้ว

  2. #2


    6 ข้อดีดื่มน้ำบรรเทาหวัด

    อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวแดดออก ทำให้หลายคนที่ไม่ค่อยได้ดูแล
    สุขภาพเป็นพิเศษมักเป็นหวัดได้ง่าย "โรคหวัด" เกิดขึ้นได้กับทุกคน แม้จะเป็นโรค
    ที่ไม่ร้ายแรง แต่ทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่สบายเนื้อสบายตัว ทำให้มีอาการ
    ปวดศรีษะ ตัวร้อน น้ำมูกไหล ไอ จาม มีเสมหะ ถ้าไม่ดูแลรักษาตัวให้ดีอาจก่อให้เกิด
    โรคแทรกซ้อนตามมาได้
    เมื่อเป็นหวัดแนะนำว่าควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร
    เพราะน้ำสามารถช่วยเยียวยาร่างกายให้หายจากหวัดได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุที่ว่า..
    1. น้ำช่วยละลายเสมหะไม่ให้เหนียว โดยเฉพาะการดื่มน้ำอุ่น
    2. ช่วยลดไข้หากไข้ขึ้นสูง น้ำนี่แหล่ะที่จะช่วยทำให้ร่างกายเย็นลงได้
    3. ช่วยให้ร่างกายมีความชุ่มชื้นเพียงพอ ซึ่งส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี
    4. ช่วยให้เยื้อบุจมูกที่บุช่องทางเดินหายใจส่วนบนทำหน้าที่ได้ดีขึ้น จึงช่วยลดอาการคัดจมูก
    5. ช่วยป้องกันการติดเชื้อ และอักเสบ
    6. ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย ทำให้ร่างกายฟื้นจากอาการไข้ได้เร็วขึ้น
    นอกจากนั้น หากอยากดื่มเครื่องดื่มที่มีรสชาติมากขึ้น แนะนำให้ลองดื่มน้ำผลไม้
    ที่มีวิตามินซีสูง เช่น น้ำส้ม น้ำฝรั่ง น้ำกีวี น้ำมะเขือเทศ ฯลฯ เพราะวิตามินซีช่วยให้อาการหวัดหายเร็วขึ้น
    ส่วนคนที่มีอาการเจ็บคอสามารถบรรเทาอาการโดยใช้เกลือ
    ละลายน้ำอุ่นกลั้วคอ 2-3 วันติดต่อกัน
    อาการจะทุเลาลงโดยไม่ต้องใช้ยาค่ะ

  3. #3


    ชาร้อนยับยั้งอัลไซเมอร์

    ข่าวดีสำหรับผู้ป่วยอัลไซเมอร์ทุกท่าน ที่ต่อไปไม่ต้องทานยาเยอะๆ อีกต่อไปแล้วเพราะแค่คุณดื่มชาวันละแก้ว ก็สามารถยับยั้งการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ ดร. เอ็ด โอเคลโล่ แห่งศูนย์วิจัยสมุนไพร มหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ ได้รายงานผลการวิจัยว่า การที่คุณดื่มชาเขียวหรือชาดำวันละ 1 ถ้วยทุกวัน สามารถยับยั้งการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ เพราะในชาเขียว และชาดำ มีสารที่ช่วยยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาของเอ็นไซม์ที่ก่อให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ นอกจากนี้การดื่มชาเขียวยังสามารถป้องกันการเกิดปฏิกิริยาเบต้า-ซีเครเทส (Beta-secretase) ที่เป็นขั้นตอนในการผลิตตะกอนโปรตีนในสมองอันเป็นสาเหตุของการป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์ แต่คุณจะต้องดื่มชาเขียวอย่างน้อย 1 อาทิตย์ถึงจะเห็นผลดี แต่หากคุณดื่มชาดำเพียงแค่ 1 วันคุณก็สามารถเห็นผลได้เร็วกว่าการดื่มชาเขียวหลายเท่า ถึงแม้ว่าแพทย์จะไม่สามารถรักษาโรคอัลไซเมอร์ให้หายได้ แต่จากการวิจัยเรื่องการดื่มชา ก็สามารถยับยั้งและลดภาวะเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ ราคาถูกผลข้างเคียงก็ไม่เกิด "ดื่มชาย่อมดีกว่าการรับประทานยานะคะ"


    เรียนรู้วิธีตรวจเช็คสภาพรถยนตร์เบื้องต้น

    บทเรียนที่ 1 : ตรวจสอบระดับน้ำในแบตเตอรี่
    ควรเช็คทุกเดือน เพื่อยืดอายุการใช้งานของรถ และป้องกันรถดับกลางทางด้วย
    • เปิดจุกสีแดง หรือเหลือง (แล้วแต่รุ่น) ทุกจุกบนแบตเตอรี่ ให้ดูระดับน้ำว่าท่วมแผ่นเซลล์สีเทาที่อยู่ด้านในหรือไม่ ถ้าไม่ท่วมให้เติมน้ำกลั่นลงไปซึ่งสามารถหาซื้อได้จากปั๊มน้ำมัน หรือร้านขายอะไหล่รถยนตร์
    บทเรียนที่ 2 : ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง
    • ดึงสายวัดน้ำมันเครื่องขึ้นมา (ส่วนใหญ่จะอยู่ด้านข้างของเครื่องยนตร์) แล้วให้เอาผ้าเช็ดก้านวัดให้สะอาดก่อน จากนั้นจุ่มกลับลงไปอีกครั้ง ให้ดูน้ำมันที่ติดก้านขึ้นมาว่าอยู่ที่ขีด H หรือ L อย่าให้เกินตำแหน่ง H และ L จะดีที่สุด แนะนำว่าให้เช็คในช่วงเช้าจะเป็นช่วงที่เช็คระดับได้แม่นยำที่สุด
    บทเรียนที่ 3 : ตรวจสอบแรงดันของยาง
    • ควรเช็คดูมาตรฐานแรงดันโดยดูจากสติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่แถวๆ ด้านข้างของคนขับ ส่วนใหญ่มาตรฐานจะอยู่ที่ 30 ถ้าเป็นคนที่ขับรถเร็วอาจจะเป็น 36 ก็ได้
    • ควรเช็คทุก 2 อาทิตย์เพื่อความปลอดภัย และช่วยประหยัดน้ำมันด้วย วิธีเช็คก็ง่ายแสนง่าย เวลาเลี้ยวเข้าปั๊มก็บอกพนักงานเลยว่าช่วยเช็คลมยางให้ด้วย
    บทเรียนที่ 4 : เติมน้ำในหม้อน้ำ
    ควรเช็คทุกๆ เดือนเพื่อป้องกันน้ำแห้งแล้วจะทำหม้อน้ำรถพังได้
    • เปิดจุกถังน้ำของหม้อน้ำ ส่วนใหญ่จะเป็นถังสีขาว เติมน้ำลงไปให้ถึงขีดที่เขากำหนดไว้ ควรเช็คในช่วงเช้าก่อนออกจากบ้านจะดีที่สุด


    เนื้อวัวที่แพงที่สุดในโลก..เนื้อมัทสึซากะ (Mutsuzaka beef)

    เนื้อวัวที่แพงที่สุดในโลกไม่ใช่เนื้อวัวที่เลี้ยงด้วยข้าวโพดจากรัฐวิสคอนซินในสหรัฐอเมริกา แต่เป็นเนื้อวัวพิเศษสุดจากเมืองมัทสึซากะในประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะเนื้อตรงที่มีไขมันแทรกเป็นริ้วสีขาวนวลเหมือนเนย สลับสีชมพูสดของส่วนที่เป็นเนื้อแท้ เปรียบได้ดังหินอ่อนชั้นดีจากรัสเซีย ความอร่อยของเนื้อมัทสึซากะอยู่ที่ความนุ่มและมีกลิ่นหอมโดยเฉพาะเมื่อนำมาทอดบนกระทะเหล็กแผ่นขัดเงา ร้อนจัด ที่เรียกว่า เทปันยากิ หรือเอามาฝานบางๆเป็นแผ่นใหญ่โดยมิให้ขาดรุ่งริ่ง แล้วเอามาทำสุกียากี้หรือชาบุ-ชาบุ ใช้ตะเกียบคีบจุ่มลงในน้ำแกงจืดร้อนจัดเพียงครึ่งนาที ก็เอามาจิ้มลงในซอสงาบด หรือปอนสุแล้วใส่ปาก จะรู้สึกอร่อยจนบอกไม่ถูก เจ้าของวัวจะดูแลวัวอย่างพิถีพิถันถึง 3 ปี (วัวที่เลี้ยงเพื่อขายปกติจะมีอายุไม่เกิน 2 ปี)โดยขุนให้อ้วนที่สุด และเลี้ยงในคอกไม้ตอกสลักไม้ประมาณ 2 ต.ร.ม. พอดีตัววัว
    ท่อน้ำก็ทำด้วยพลาสติก เพราะเกรงโลหะจะขีดข่วนให้วัวเกิดตำหนิและเจ้าของคอกทุกแห่งหวังจะเลี้ยงวัวให้ได้ชนะเลิศแชมเปี้ยน
    เพราะจะทำให้ขายวัวได้ราคาสูงเป็นหมื่นๆ ดอลลาร์เลยทีเดียว

  4. #4


    ทำไมคุณถึงต้องการการกอด

    มือของคุณที่ยื่นออกไปกอดผู้อื่นเมื่อเวลาที่มีปัญหานั้น มีพลังมากกว่าที่คุณคาดคิดมากการค้นพบใหม่จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเวอร์จิเนีย และมหาวิทยาลัยแห่งรัฐวิสคอนซินระบุว่า มันช่วยทำให้สมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับการตื่นตัวมีความเยือกเย็นลง นักประสาทวิทยาได้ให้สตรีที่สมรสแล้ว 16 คน มาอยู่ในสถานการณ์ที่มีความเครียด (พวกเธอทราบดีว่าได้รับการช๊อคด้วยไฟฟ้าอ่อนๆ)พอให้อาสาสมัครชายที่มีความเป็นเพื่อนเข้ามาจับมือสตรีเหล่านั้นแล้วผลสแกนพบว่าส่วนของสมองที่ตอบสนองต่ออันตรายนั้นมีกิจกรรมลดน้อยลงและผลยิ่งมากขึ้นไปอีกเมื่อผู้ที่ยื่นมือให้จับเป็นคู่สมรสของสตรีเหล่านี้เอง ด๊อกเตอร์ เจมส์ โคแอน, Ph.D. หัวหน้านักวิจัย และศาสตราจารย์ภาควิชาจิตวิทยาและวิทยาศาสตร์ด้านประสาทจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเวอร์จิเนียระบุว่า"ที่จิตใจผ่อนคลายลงอาจเป็นเพราะมีใครบางคนอยู่ที่นั่นคอยช่วยเหลืออยู่"ส่วนการสัมผัสในรูปแบบอื่น เช่น การกอด, โอบไหล่ ก็ยังอาจช่วยลดความกระวนกระวาย และลดปริมาณฮอร์โมนความเครียดที่สมองผลิตลงได้

  5. #5


    โพสต์อิทโน้ต( Post-it Notes) ปิ๊งจากความผิดพลาด

    กระดาษโน้ตแผ่นเล็กพร้อมแถบกาวอย่างอ่อน มีคุณสมบัติแปะที่ไหนติดที่นั่นเมื่อดึงกระดาษออกไม่เหลือร่องรอยของกาวติดอยู่ ณ ที่นั้น เป็นนวัตกรรมโดนใจชาวชนสำนักงานทั่วโลก มีการใช้แพร่หลายตามเอกสาร จอคอมพิวเตอร์ ประตูหน้าต่าง ตู้เย็น เขียนโน้ตบนกระดาษแปะทิ้งไว้เตือนความจำ โพสต์อิทโน้ตเป็นสินค้าของ 3M ซึ่งเป็นผู้คิดค้นและผู้ผลิตออกจำหน่าย นายสเปนเซอร์ ซิลเวอร์(Spencer Silver ) เป็นหนึ่งในทีมนักวิจัยของบริษัท 3 Mในปี ค.ศ. 1968 เขาได้รับมอบหมายให้พัฒนากาวให้มีประสิทธิภาพสูง ติดได้แน่นทนทาน ถาวร แต่ผลของการพัฒนา เขากลับได้กาวออกมาที่ตรงกันข้ามกับเป้าหมายโดยสิ้นเชิง คือเป็นกาวอย่างอ่อน ติดง่าย ลอกได้ไม่ทิ้งร่องรอย ต่อมาในปี ค.ศ. 1974 นายอาร์เธอร์ ฟราย( Arthur Fry )นักวิจัยอีกคนนำกาวนี้มาใช้ติดกระดาษไว้คั่นคัมภีร์ไบเบิล ในหน้าสวดมนต์ที่เขาต้องการเวลาไปโบสถ์ ก็เพราะคุณสมบัติติดง่าย ลอกได้ไม่ทิ้งร่องรอยนี้เอง 3M จึงนำไปพัฒนาออกมาเป็นกระดาษโน้ตสีเหลือง ที่มีแถบกาวชนิดนี้ออกจำหน่าย โดยให้ชื่อว่า"โพสต์อิทโน้ต"( Post-it Notes) ปรากฎว่าเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในหมู่คนทำงานในสำนักงาน กระดาษโน้ตสีเหลืองจึงพัฒนาเป็นหลายสี หลายขนาด หลายรูปเล่มเอาใจผู้ใช้ทั่วโลก

  6. #6


    มะเขือเทศกับนมสดสูตรสวยจากธรรมชาติ

    ไม่เพียงแต่อร่อยและเป็นแหล่งสำคัญของวิตามินเอ และบี รวมทั้งแร่ธาตุสำคัญ
    ต่อร่างกาย อย่างแมกนีเซียม และโพแทสเซียม กรดผลไม้ในมะเขือเทศ สามารถทำโลชั่นทำความสะอาดผิวได้ เพราะมีฤทธิ์ช่วยในการขัดลอกเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน โดยเฉพาะเมื่อนำมาผสมกับนมจะมีกรดแล็กติกช่วยในการขัดลอกเซลล์ผิว วิธีทำ บดมะเขือเทศสุกให้ละเอียด เทลงในผ้าขาวบาง และบีบน้ำออก
    นำน้ำมะเขือเทศผสมกับนมเท่าๆกัน แล้วใช้เช็ดทำความสะอาดผิวหน้าวันละ 1
    หรือ 2 ครั้ง แล้วล้างออกด้วยน้ำแร่ หรือน้ำสะอาด เหมาะสำหรับผิวมัน หรือผิวผสม

  7. #7


    โหระพา บรรเทาโรคเข่าเสื่อม

    คนโดยทั่วไปอาจรู้สรรพคุณของโหระพาแค่เรื่องช่วยย่อยอาหาร แก้อาการจุกเสียดแน่นท้อง หรือนำมาเป็นน้ำมันหอมระเหย แต่ถ้าเปิดตำราหนังสือแพทย์จะพบว่าโหระพามีสรรพคุณมากกว่านั้นคือ สามารถรักษาโรคเข่าเสื่อมได้ โดยการนำโหระพาทั้งต้นไม่ต้องเด็ดรากทิ้ง กะพอประมาณใช้พอกเข่าได้มิดจากนั้นนำไปล้างให้สะอาด ตำพอละเอียดใส่เหล้าขาว 40 ดีกรีเล็กน้อยคนให้เข้ากันก่อนนำไปตั้งไฟแค่พอร้อน (ไม่ต้องถึงกับเดือด) ทิ้งไว้ให้อุ่น นำไปพอกเข่าประมาณ10-15 นาที ทำวันละ 1-2 ครั้ง

  8. #8


    แข็งแรงได้... เริ่มต้นง่ายๆ จาก 1 ก้าวเดิน

    บางครั้งการเดินออกกำลังกายก็ไม่ใช่สักแต่ว่าเดินๆๆ เพราะหนึ่งก้าวของคุณ
    มีความหมายมาก เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะก้าวออกไปแบบไหน
    ให้ร่างกายแข็งแรง แต่เรามีเคล็ดลับมาบอก
    1. เริ่มจากหารองเท้าที่ใส่สบาย เดินนานๆ แล้วไม่เจ็บ เวลาซื้อก็อาจจะซื้อรองเท้า
    สำหรับวิ่ง แล้วหาสถานที่กว้างๆ อย่าง สวนสาธารณะ หรือพื้นที่ในหมู่บ้าน
    2. เดินได้เลย ทุกๆ 30 วินาทีให้เพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนถึงระดับความเร็ว
    ที่คุณคิดว่าพอสำหรับการเดินเร็ว
    3. เมื่อคุณเดินเร็วจนถึงจุดสูงสุด คอยรักษาระดับนี้ไปเรื่อยประมาณ 30 นาที
    แต่ต้องมั่นใจว่าเดินไม่ใช่การวิ่งจนเหนื่อยหอบ แต่ในครั้งแรกๆ คุณอาจใช้เวลา
    ประมาณ 10 นาทีก็ได้ แล้วค่อยๆ เพิ่มเวลาให้นานขึ้นทุกๆ สัปดาห์ และจะสังเกตุได้ว่า
    ร่างกายคุณจะแข็งแรงมากขึ้น
    4. นึกไว้อยู่เสมอว่าคุณเดินอย่างไร ต้องรู้ว่าตัวเองเดินอย่างถูกต้องหรือยัง เพราะถ้าไม่
    คุณจะเจ็บข้อเท้าได้และปวดเมื่อยได้ วิธีเดินให้ถูกต้องคือ ให้ส้นเท้าแตะพื้นก่อน
    แล้วค่อยๆ วางฝ่าเท้า และนิ้วเท้าหลังสุด เดินต่อไปด้วยฝ่าเท้าทั้งหมด

  9. #9


    ลักษณะของเบญจกัลยาณี
    ลักษณะของเบญจกัลยาณีอธิบายตามความคิดเห็นของท่านผู้รู้แต่โบราณว่า

    ผมงาม หมายถึง เรือนผมเป็นเงางามดุจกับหางนกยูง
    ทรงผมสตรีแต่ก่อนคงจะนิยมดัดปลายงอน ท่านจึงพรรณาว่า เมื่อปล่อยย้อยยาวถึงชายผ้านุ่ง แล้วกลับมีปลายงอนขึ้นตั้งอยู่ สมัยนี้เห็ยจะกำหนดตามนี้ไม่สำเร็จ จะให้ดำเป็นเงางามหรืองอนขึ้นหรุบลงทำไม่ยาก ถึงไม่มีผมจะงามเลย ก็หาผมปลอมใส่ได้งามทันใจในพริบตา

    เนื้องาม หมายถึง ริมฝีปากงาม เช่นกับผลตำลึง
    คงหมายความว่ามีสีแดงดุจผลตำลึงสุก สาวยุคนี้อย่าว่าแต่สีผลตำลึงสุกเลย จะให้เป็นสีผลอะไรก็ได้ สีทาปากทำไว้พร้อมเสร็จ สีมะละกอ สีลิ้นจี่ หรือสีทับทิมออกคล้ำ ออกม่วง ออกเหลือง มีให้เลือกตามใจชอบ

    กระดูกงามหมายถึง มีฟันขาวเรียบดุจสังข์ที่ขัดดีแล้ว
    ฝรั่งไม่เคยเห็นสังข์และไม่รู้ค่า จึงเปลี่ยนให้เป็นไข่มุกแทนฟันเป็นอย่างเดียวที่ขัดสีปานใด ก็ไม่อาจขาวเงางามเรียบได้ถ้าสุขภาพฟันไม่มีเป็นปฐม ยาเคลือบฟันให้ขาวพอใช้ได้ชั่วครั้งชั่วคราว

    ผิวงาม คือละเอียดอ่อน
    สีผิวไม่สำคัญ ผิวดำก็สวยได้ ถ้าเกลี้ยงเกลามีเลือดฝาดสมบูรณ์

    วัยงาม หมายถึง เนื้อหนังเต่งตึงอยู่จนแก่
    ตำนานเรื่องนางวิสาขา ผู้สร้างปุพพรามปราสาทถวายเป็นวัดครั้งพุทธกาลชมนางวิสาขาว่าวัยงามนักหนา นางมีบุตรชาย 10 บุตรหญิง 10 บุตรชายหญิงมีบุตรชายหญิงอีกคนละ 10 ตลอดชีวิตของนางมีบุตรหลายถึง 8,420 คน นางวิสาขาไปที่ใด บุตรหลานห้อมล้อมไปเป็นหมู่ ผู้คนดูไม่ออกว่าคนไหนคือนางวิสาขา เพราะเห็นเป็นหนุ่มเป็นสาวเสมอเหมือนกันหมด นางวิสาขามีอายุยืนถึง 120 ปี และเป็นลูกสาวเศรษฐี ได้กินอิ่ม นอนหลับเต็มที่ ประกอบกับใจบุญด้วย จึงงามทั้งกายใจ
    ความงาม 5 ประการนั้น ต้องการรากฐานจากธรรมชาติ งาม 4 ประการแรก ทำให้เกิดความงามประการสุดท้าย จะให้งามนอกต้องทำให้งามในได้ก่อน ^^
    เครื่องสำอางโปะปะไว้เสริมสวยได้ชั่วครู่ชั่วยาม สู้กินให้สวยไม่ได้ ประจวบกับอาหารหลักของคนไทย ก็มี 5 หมู่ ตรงตัวเลขกันเลยจำได้ง่ายว่า กินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เพื่อความเป็นเบญจกัลยาณี

  10. #10


    ป้องกันเส้นเลือดอุดตันด้วย ช็อกโกแลตดำ


    นักวิจัยพบว่าช๊อกโกแลตดำเพียงวันละสองช้อนโต๊ะ หรือจะแปรรูปเป็นโกโก้ร้อน
    1 แก้ว ช่วยป้องกันการอุดตันของเส้นเลือดได้พอๆ กับการกินยาแอสไพริน
    โครงการศึกษาผลจากยาแอสไพรินที่มีผลต่อเกร็ดเลือด โดยศาสตราจารย์ไดแอนน์
    เบกเกอร์ ผู้นำการวิจัยของมหาวิทยาลัย จอห์น ฮอปกินส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
    กำหนดให้กลุ่มตัวอย่างออกกำลังกาย งดบุหรี่ และอาหารบางอย่าง เช่น ไวน์ ชา
    กาแฟ และช๊อกโกแลตก่อนเข้ารับการทดลอง หลังจากนั้นนักวิจัยทำการเปรียบเทียบ ระยะเวลาที่เกล็ดเลือดจับตัวกันเป็นก้อน พบว่าเกล็ดเลือดของกลุ่มตัวอย่าง
    ที่ไม่งดช๊อกโกแลต มีเกล็ดเลือดจับตัวกันช้ากว่า

    กลุ่มนักวิจัยจึงศึกษาเพิ่มเติมคุณสมบัติของเมล็ดโกโก้ และพบว่าในเมล็ดโกโก้
    มีสารเคมีชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า ฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญที่มีผลทางชีวเคมีที่
    ออกฤทธิ์คล้ายกับยาแอสไพรินที่ช่วยลดการจับตัวของเกล็ดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญ
    ที่ทำให้เส้นเลือด และหลอดเลือดอุดตันที่อาจส่งผลรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตในที่สุด

    ก่อนหน้านี้ก็ได้มีรายงานการวิจัยที่ออกมา
    สนับสนุนประโยชน์ของช๊อกโกแลตอย่างต่อเนื่อง
    อาทิ พบว่าในช๊อกโกแลตมีสารเพนเทเมอร์
    ที่ช่วยยับยั้งการลุกลามของเซลล์มะเร็งได้
    และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วย
    ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ

    แม้ว่าสารเคมีที่อยู่ในเมล็ดโกโก้จะมีผลดี
    ต่อการไหลเวียนของโลหิตได้ดี แต่หากว่า
    ร่างกายได้รับไขมันและน้ำตาลที่มากเกินไป
    ก็อาจจะเพิ่มความเสี่ยงต่อหัวใจของคุณได้เช่นกัน



    ผิวสวยด้วยคอลลาเจน


    คอลลาเจน คือ โปรตีนที่เป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนังของร่างกาย
    ซึ่งสานกันเป็นเครือข่ายชั้นผิวหนัง และเป็นโปรตีนสำคัญต่อความแข็งแรง
    ของผนังหลอดเลือด และช่วยสร้างความตึงกระชับให้ผิว โดยจะทำงานร่วมกับ
    โปรตีนอีกชนิดหนึ่งที่เรียกว่า อีลาสติน
    ปัจจัยที่ทำให้เกิดการสลายตัวของคอลลาเจน คือ อนุมูลอิสระที่เกิดจากมลพิษต่างๆ
    เช่น บุหรี่ แสงแดด สารปนเปื้อนในอาหาร และจากการเผาผลาญอาหารในร่างกาย
    ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย และเมื่ออายุ 20 ปีขึ้นไป
    การผลิตคอลลาเจนในร่างกายจะลดลงเรื่อยๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้น เมื่อขาดคอลลาเจน
    ผิวพรรณที่เคยเต่งตึงจะเริ่มหย่อนคล้อย มีริ้วรอยเพิ่มมากขึ้น ความยืดหยุ่น
    และความชุ่มชื้นของผิวลดลง

    การเติมคอลลาเจนให้กับผิวเพื่อหวังผลในการชะลอริ้วรอย ในวงการแพทย์สามารถ
    ทำได้โดยการฉีดคอลลาเจนโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ส่วนในเครื่องสำอางก็มีการนำ
    คอลลาเจนไปผสม สังเกตได้จากฉลากที่ระบุส่วนผสมของ ไฮโดรไลซ์
    คอลลาเจนไฮโดรไลซ์ อีลาสติน โปรคอลลาเจน เอเอชเอ

    นอกจากนั้นการรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ
    ซึ่งจะช่วยชะลอการสลายตัวของคอลลาเจน
    และช่วยลดการเกิดมะเร็งในร่างกายอีกด้วย
    สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ก็ได้แก่ เบต้าแคโรทีน วิตามินซี วิตามินอี ซึ่งเป็นสารที่มีประสิทธิภาพสูง
    ในการกำจัดอนุมูลอิสระมีคุณสมบัติเพิ่มความแข็งแรง
    ของเนื้อเยื่อคอลลาเจนและอีลาสติน



Page 1 of 6 123 ... LastLast

Members who have read this thread : 0

Actions : (View-Readers)

There are no names to display.

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •