Results 1 to 4 of 4

Thread: หลังเรียนจบแล้วทำยังไงดีครับ

  1. #1
    Junior Member
    Join Date
    Mar 2007
    Posts
    3


    คือตอนนี้ผมเรียนจบในปีนี้ เรียนหลักสูตรเน้นด้านการเขียนซอฟต์แวร์ แต่ไม่ค่อยถนัดด้านการเขียนโปรแกรมเท่าไร ถึงตอนนี้เวลาไปสมัครงานในบริษัทต่างๆ โดนสัมภาษณ์ว่าจะเข้าทำงานงานในตำปหน่งอะไรก็บอกไม่ได้ครับไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอะไร

    ขอคำชี้แนะด้วยครับ

  2. #2
    Member
    Join Date
    Mar 2007
    Location
    SIT KMUTT
    Posts
    62


    อืม น่าคิดครับ
    แสดงว่ายังไม่รู้จักตัวเองหรือเปล่าครับ ว่าตัวเองชอบอะไร

    สิ่งที่เป็นปัญหาในการวาง อนาคตของเรา

    เมื่อตอนเลือกที่เรียน ในสขาวิชาต่างๆ คุณคิดยังไง
    เมื่อตอนที่คุณเรียนอยู่ คุณได้เรียนรู้เรื่องอะไรบ้าง
    และคุณให้ความสำคัญกับอะไร มากที่สุด

    จริงอยู่ ที่ว่าเราก็ทำนั้น ทำนี่ เต็มไปหมด
    แต่คุณใช่ชวิตกับ สิ่งไหนมากที่สุด และคุณก็สนุก และชอบกับมัน

    ผมว่าไม่ยากนะครับที่เราตัดสิ่งใจว่า
    เราจะทำอะไร
    ทำไมถึงทำ



    ตอบไม่ตรงประเด็นก็ขออภัยครับ เพราะคงไม่มีใครบอกคุณได้ว่าคุณจะเดินไปทางไหนดี
    นอกจากตัวคุณเอง ตัดสินใจ เพราะคุณจะรู้ดีกว่าคนอื่นว่า
    ทำไม คุณถึงเดินไปทางนั้น

    แว็บ....
    ------------------------------------------------------------------------------------------------
    คนเราไม่ได้โง่
    คนโง่ คือคนที่ไม่รู้จักแก้ไขข้อบกพร่องของตัวเอง
    mail : [email]free_flash_design@hotmail.com[/email]
    web personal : [url="http://wannapong.wordpress.com"]http://wannapong.wordpress.com[/url]

  3. #3
    Senior Member
    Join Date
    Jul 2004
    Location
    Thailand
    Posts
    211


    บทความดีๆ เอามาจาก บอร์ดเนี่ยแหละ ถ้าจำไม่ผิด หากผิดขออภัยด้วย a$ylu3(root admin) เป็นคนเขียน



    การสมัครงานที่ดี
    หาตำแหน่งงานหลาย ๆ วิธีควรพิจารณาหาตำแหน่งที่ตรงกับความรู้ความสามารถและความสนใจของตนเอง
    และมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาชีพนั้น ๆ ลักษณะของงานอาชีพ ความก้าวหน้าและความมั่นคงของงาน
    สอบถามแหล่งงานจากเพื่อน ญาติสนิท ประกาศโฆษณาต่าง ๆ
    การส่งจดหมาย เขียนจดหมายปะหน้าใบประวัติการทำงาน
    ประวัติส่วนตัว พร้อมทั้งลงชื่อในจดหมายให้เรียบร้อย หรือเดินทางไปสมัครด้วยตนเอง
    ติดต่อขอนัดหมายเวลาเพื่อการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ หรือด้วยตนเอง
    ฝึกซ้อมการสัมภาษณ์ก่อนเข้าสัมภาษณ์จริง
    แต่งกายไปสัมภาษณ์ด้วยเสื้อผ้าที่สะอาดเรียบร้อย และถูกกาลเทศะ
    ไปถึงสถานที่นัดสัมภาษณ์ให้ตรงหรือก่อนเวลา
    พยายามสร้างความประทับใจครั้งแรก และไม่สร้างภาพลักษณ์ในแง่ลบให้กับตนเอง
    ตอบปัญหาในระหว่างสัมภาษณ์อย่างเชื่อมั่น ชัดเจน สุภาพ มีความฉลาด
    ไหวพริบ ความคิดริเริ่ม กระตือรือร้น ขยัน ความสามารถในการสื่อความ และจุดมุ่งหมายของชีวิต
    โดยแสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติ
    ควรหาข้อมูลเบื้องต้นของบริษัท เพื่อใช้ในการตอบสัมภาษณ์ ซึ่งแสดงถึงความสนใจ
    และตั้งใจที่จะมาทำงานกับบริษัท
    หากถูกสอบถามเรื่องเงินเดือนที่ต้องการควรตั้งคำถามกลับว่า ความรู้ความสามารถ และ
    ในระดับตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับคุณเห็นสมควรจ่ายเท่าใด
    อย่าเรียกร้องเงินเดือน หรือค่าจ้างก่อนที่บริษัทจะตอบตกลงจ้างคุณ
    หรือแสดงความสนใจว่าจะรับคุณเข้าทำงาน
    อย่าเป็นคนเลือกงานมากนัก เพราะจะทำให้กลายเป็นคนว่างงานตลอดไป
    อย่าลืมว่า ใบสมัครงาน คือ ปราการด่านแรกถือว่าเป็นข้อสอบที่ต้องทำก่อนการสัมภาษณ์
    และเป็นเสมือนหน้าตาของเราที่นายจ้างจะได้เห็นก่อนพบตัว ดังนั้น จำเป็นต้องกรอกอย่างถูกต้อง
    สะอาด และเป็นระเบียบเรียบร้อยน่าประทับใจ จะได้สอบผ่านและได้งานทำตามความประสงค์
    ขอฝากว่าก่อนจะเลือกอาชีพใดควรทำความเข้าใจตัวเองเสียก่อนว่า สนใจ
    และมีทัศนคติต่ออาชีพนั้นอย่างไร พอที่จะมีความอดทนต่องานอาชีพนั้นหรือไม่
    -------------------------------------------------------
    คำศัพท์ที่อาจจะเจอในเรซูมเม
    Application Form =
    แบบฟอร์มใบสมัครงาน
    Application Letter = จดหมายสมัครงาน
    Applicant / Candidate = ผู้สมัคร (งาน)
    To be completed in own handwriting. = เขียนใบสมัครด้วยลายมือตนเอง
    Confidential = เป็นความลับ
    Photo attached here = ติดรูปถ่ายตรงนี้
    Position applied for / Position sought / Position desired = ตำแหน่งที่สมัคร / ตำแหน่งที่ต้องการ
    Salary expected = เงินเดือนที่ต้องการ
    Personal data = (อเมริกา) ประวัติส่วนตัว คำนี้ในประเทศอังกฤษใช้ (CV), bio-data หรือ data sheet และทั้งหมดนี้ก็มีความหมายอย่างเดียว
    กับคำว่า Rèsumè
    Sex = เพศ (ชาย ใช้ Male หญิง ใช้ Female)
    Present address = ที่อยู่ปัจจุบัน
    Permanent address = ที่อยู่ถาวร
    Date of birth = วันเดือนปีเกิด
    Age = อายุ
    Nationality = สัญชาติ
    Race = เชื้อชาติ
    Religion = ศาสนา (Buddhism = พุทธ Christian = คริสต์ Islam = อิสลาม)
    Height = ความสูง
    Weight = น้ำหนัก
    Identification Card (ID Card) = บัตรประจำตัวประชาชน
    Issued by = ออกให้โดย
    Marital status = สถานภาพการสมรส (Single = โสด Married = แต่งงานแล้ว Widowed = เป็นหม้าย Divorce = หย่าร้าง)
    Person of notify in case of emergency = ผู้ที่จะติดต่อในกรณีเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน
    Certificate degree obtained = ประกาศนียบัตรหรือปริญญาที่ได้รับ
    Military status = สถานภาพทางทหาร
    Experience / Previous employment = ประวัติการทำงาน
    Reasons for leaving = เหตุผลที่ออกจากงาน
    References = บุคคลอ้างอิง บางแห่งใช้ Referees
    Applicant signature = ลายเซ็นผู้สมัคร
    Reserved Officers’ Training Corps Course (ROTC) = หลักสูตร ร.ด.
    No Military Service Obligation = ไม่มีพันธะทางทหาร
    Self-employed = ทำงานส่วนตัว
    Equivalent qualification = คุณวุฒิเทียบเท่า
    Income = รายได้
    Letter of Recommendation = จดหมายรับรองการทำงาน บางครั้งใช้ Employment Certificate ใบรับรองการผ่านงาน หรือ Testimonial
    Marriage Certificate = ทะเบียนสมรส
    Birth Certificate = สูติบัตร
    Occupation / Profession = อาชีพ
    Related Field = สาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง
    Rèsumè = ประวัติย่อ
    Vocational Certificate = ปวช.
    Higher Vocational Certificate = ปวส.
    Home Registration Certificate = ทะเบียนบ้าน
    Dependent = ผู้อยู่ในอุปการะ
    Extra-curricular Activities = กิจกรรมนอกหลักสูตร
    Special skills = ความชำนาญพิเศษ
    Expert in = เชี่ยวชาญ
    Employment record = ประวัติการทำงาน
    Negotiable = ต่อรองได้
    Guarantor = ผู้ค้ำประกัน
    Fringe benefits = ผลประโยชน์ที่ลูกจ้างได้รับนอกจากค่าจ้างประจำ
    Seminars and special training courses = การสัมมนาและการฝึกอบรมหลักสูตรพิเศษ
    Spouse = คู่สมรส (สามีหรือภรรยาก็เรียกได้)
    Domicile = ภูมิลำเนา
    Transcript = ใบแสดงผลการเรียน บางครั้งใช้ Statement of Marks หรือ Mark Sheet ก็มีเรียก
    Degree Certificate = ใบปริญญาบัตร
    Full-time job = งานทำเต็มเวลา (งานทำไม่เต็มเวลาใช้ Part-time job)
    Date of attended = วันที่เข้าเรียน
    Military Discharge Letter = ใบปลดทหารประจำการ หรืออาจเรียกว่า Certificate of exemption from military service[/b]

  4. #4
    Junior Member
    Join Date
    Mar 2007
    Location
    แพร่,เชียงราย
    Posts
    0


    ผมก็เป็นเหมือนคุณนี่แหละแต่ตอนนี้ผมกำลังจะขึ้นปีสอง
    ด้านprogramingผมด้อยกว่าเพื่อนๆในห้องมาก พยายามแล้วพยายามอีกแต่ก็ไม่ดีขึ้นเท่าไหร่
    ผมก็เลยแสวงความรู้ด้านอื่นๆดู ก็เลยพบว่าตนเองมีความสามารถทางด้านnetworkและgraphic
    ผมเคยไปปรึกษาอาจารย์ท่านก็บอกว่าถ้าถนัดทางไหนให้เอาทางนั้นให้เก่งไปเลย
    ตอนนี้ปิดเทอมแล้วก็ยังไม่หยุดเรียนรู้ พยายามฝึกฝนในด้านที่เราถนัด
    เป็นการเอาด้านดีมาลบด้านที่ด้อยลงไปครับ
    เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่เป็นแบบนี้
    ลองค้นหาตัวเองดูว่าอะไรที่ตัวเองทำแล้วทำได้ดีที่สุด
    อะไรที่ดีที่สุดสำหรับคนอื่น สำหรับเรามันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดก็ได้ครับ
    ผมคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา คือการได้ทำอะไรที่เราถนัด ชื่นชอบ หลงไหล และมีความสุขกับมันครับ

    ยังไงถ้าคุณคิดว่าเรียนจบมาแล้วทำอะไรไม่ได้ ก็ลองไปเรียนอย่างอื่นดูครับ เสียเวลาแต่ได้ประสบการณ์ครับ

    ป.ล. ผมเปลี่ยนที่เรียนมาแล้ว4ครั้งคับ แต่ก็ไม่เคยท้อถอย อย่าให้เวลามากดดันเรานะครับ สู้ๆคับ V(^-^)

Members who have read this thread : 0

Actions : (View-Readers)

There are no names to display.

Tags for this Thread

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •