พอ ดี ว่า ผมเปิดคอม แล้ว น่ะครับ พอ เล่น ไปสักพักคอม มัน ก็ ดับ เองเลย ครัฟ ผมเปิดแค่ MSN กับ hi5 เอง ผม โดน ไวรัส หลอ ครับ
แล้ว มีวิธีแก้ ยังไง ขอบคุณ ครับ![]()
พอ ดี ว่า ผมเปิดคอม แล้ว น่ะครับ พอ เล่น ไปสักพักคอม มัน ก็ ดับ เองเลย ครัฟ ผมเปิดแค่ MSN กับ hi5 เอง ผม โดน ไวรัส หลอ ครับ
แล้ว มีวิธีแก้ ยังไง ขอบคุณ ครับ![]()
ไม่ทราบว่าเพิ่งจะเป็น หรือว่า เป็นมานานแล้วคัฟผม
ถ้ามันดับไปเองแบบดื้อๆ ส่วนใหญ่ ปัณหาจะเป็นที่พาวเวอร์ซัฟฟาย มันจ่ายไฟไม่พออะคัฟ
แต่ไม่รู้จะใช่รึป่าว ต้อง อธิบายอาการ ให้ละเอียดกว่านี้ นิดคัฟ
โดนไวรัสหรือเปล่าไม่แน่ใจนะครับ ต้องดูรายละเอียดอื่นเพิ่มเติมด้วยว่าก่อนดับมีอาการอย่างไรบ้าง เบื้องต้นนะครับ อาจจะเป็นที่ power supply แบบที่ parktobo1 บอกอาจจะจ่ายไปไม่พอ
กับอีกปัญหานึง คอมมีอาการร้อนเกินไป แล้วการตั้งค่าอุณหภูมิใน bios ตั้งเอาไว้ไม่สูงมาก เมื่อมันถึงจุดนั้นมันก็จะดับเอง ยังไงลองดูที่ 2 ตัวนี้ก่อนนะครับ ถ้าไม่หายก็บอกอาการอื่นๆ เพิ่มเติมก็ดีครับ
ท่านอื่นจะได้เข้ามาช่วยกันตอบ
อาการแบบนี้ผมก็เคยเป็น อาจจะเป็นทีเพาเวอร์ซัฟพลายอาจจะจ่ายไปไม่พอ คอมร้อนเกินไปเนื่องจากเล่นอยู่ในห้องที่ร้อน อากาศไม่ถ่ายเท การตั้งค่าอุณหภูมิใน bios ตั้งเอาไว้ไม่สูงมาก ควรตั้งไว้ัที่ 80 องศาเซลเซียส หากตั้งตำ่กว่านั้นคอมอาจจะดับได้ เเต่ถ้าตั้งสูงกว่านั้น Intel/AMD (ชิฟประมวลผล) อาจพังได้ การตั้งค่าขึ้นอยู่กับสเปคคอม เเต่ส่วนมากอยู่ที่ 80 องศาเซลเซียส คอมได้เเต่งหรือเปล่า เช่น พัดลมมากับเครื่องมีสองตัวเอาใส่เข้าไปอีกหนึ่งตัว เป็นสามตัว เเล้วไม่ได้คำนวณ เรื่องสเปคก็มีส่วน เเต่ไม่มาก อาจเป็นเพราะเเรมตำ่เกินไป เเต่ในกรณีนี้เรื่องแรมไม่เกี่ยว เเค่เเรม 128 MB ก็เล่น MSN กับ hi5 ได้แล้ว ไวรัสก็มีส่วนครับ หากเกิดเพราะไวัส ไวรัสจะเขียนคำสั่งชนิดหนึ่งให้เครื่องอ่านวนไปวนมาจนกว่าเครื่องจะดับ เเต่ถ้าสปายเเวร์จะก๊อปปี้ตัวเองไปเรื่อย ๆ เเล้วก็ให้เครื่องอ่านวนไปวนมาจนเครื่องดับหรือพัง เเต่ถ้าคอมไม่ได้เเต่งจะไม่เกี่ยวกับเพาเวอร์ซัฟฟลาย เเต่ถ้าคอมประกอบเองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งน่ะครับ ถ้าคอมประกอบเองไม่ได้มาจากร้านตัวแทนจำหน่าย ก็ต้องดูว่าคนที่เราให้ประกอบให้น่ะมีความรู้ด้านคอมเเค่ไหน หรือไว้ใจได้หรือเปล่า เบื้องต้นให้ลองเช็คการตั้งค่า bios นะครับ ว่าตั้งไว้ Auto Shutdown เท่าไหร่ (Auto Shutdown คือ การสั่งให้คอมพิวเตอร์ปิดเครื่องอัตโนมัติ เมื่ออุณหภุมิความร้อนถึงที่เราตั้งไว้) ตั้งไว้ที่ 80 องศาเซลเซียส หรือเปล่า ถ้าหากตั้งไว้ที่ 80 องศาเซลเซียส เเล้วคอมยังดับอีก ให้ลองเปลี่ยนเ็ป็น 90 องศาเซลเซียส เเต่ถ้าหากตั้งไว้ที่ 90 เเล้วคอมยังดับอีก ให้ลองดูว่าคอมได้ปรับแต่งเปล่า เเต่ถ้าไม่ได้ปรับแต่ง ก็อาจเป็นเพราะไวรัส ลองหาแผ่นที่สแกนไวรัสที่บูตจากเเผ่น โดยไม่ต้องเข้าเดสทอปมาสแกนไวรัสดูว่ามีหรือเปล่า เเต่ถ้าสแกนเเล้วไม่มีไวรัส หรือเปิดมาเเล้วคอมยังดับอีก น่าจะเป็นเพราะเพาเวอร์ซัฟพลาย ถ้าบอกสเปคคอมมาจะดีมากเลยนะครับ
นี้ครับลิงค์ดาวโหลดเเผ่นบูตสแกนไวรัส ก่อนอื่นให้หาเครื่องคอมที่ไม่ติดไวรัส เเล้วโหลดไปสี่ตัวนี้ไปครับ
BitDefender Rescue CD
http://download.bitdefender.com/rescue_cd/BitDefender-Rescue-CD.iso
Kaspersky Rescue Disk
http://devbuilds.kaspersky-labs.com/devbuilds/11.0.1.400/MasterCD/master.iso
Avira AntiVir Rescue System อันดับของโลกจาก AV-Comparatives เช่นกันครับ
http://dlpro.antivir.com/package/rescue_system/common/en/rescue_system-common-en.exe
PC Tools' Alternate Operating System Scanner
http://www.pctools.com/mirror/AOSS.iso
G Data BootCD เอาให้อีกตัวนะครับ แอนตี้ไวรัสอันดับหนึ่งของโลกจาก AV-Comparatives ครับ หน่วยงานทดสอบคุณภาพของแอนตี้ไวรัส
http://qsmirror.gdatasecurity.de/pus...d500d89ef1f3fe
เป็นไฟล์ .ISO นะครับ ใช้โปรแกรม ImgBurn ไรท์ซีดี หรือโปรแกรมที่ไรท์ไฟล์ .ISO ได้ ไรท์ซีดีก็ได้ครับ ยกเว้น Avira AntiVir Rescue System เป็นไฟล์ .exe วิธีไรท์Avira AntiVir Rescue System ให้คลิกขวาที่ตัวโปรเเกรม เเล้วเลือก open จากนั้นใส่แผ่นซีดีเข้าไป เลือกเครื่องอ่านซีดี ถ้ามีเครื่องเดียวไม่ต้อง คลิก Start รอจนกว่าจะขึ้นคำสั่ง Finish จากนั้นปิดโปรแกรมเเล้วนำเเผ่นออก
ปล. ถ้า open ขึ้นมากกว่า 1 open ไวรัสชัวร์ 100%
นี่ครับลิงค์ ImgBurn
http://www.imgburn.com/index.php?act=download
Last edited by Security; 05-08-2010 at 09:44 AM.
คืน มัน แปปว่า พอเล่นคอมไปสักพัก นึง คอมมันก็ ดับแล้วรีสตาร์ เอง ครับ มัน เป้น ที่ power supply หลอครับ หรือ ไวรัส หรือมีคน ยิงเครื่องผม
ขอบคุณ
parktobo1
razor
Security
แต่ ตอน นี้ มัน ก็ยังดับ อ่ะ ครับ ช่วย ผม หน่อย ครับ
ผมว่าเป็นส่วนของ Hardware มากกว่านะ
เท่าที่เห็นมายังไม่เคยไวรัสที่มันบูตไปได้
ส่วนคนยิงอย่างมากถ้าใช้เซิฟยิงก็น่าจะแค่เน็ตหลุด เพราะลำพังแค่เน็ตบ้านคงทำได้แค่ process overload ยกเว้นแต่ใช้ dos ยิงเข้ามาเลย
ลองดูนี่นะครับ คลิกขวาที่ My Computer > Properties > แท็บ Advanced > box ของ Startup and Recovery คลิกเข้าไปแล้วเอาตัวเลือก Automatically Restart ออกครับ แล้วกด OK ออกมาให้หมด ลองดูครับว่าจะหายหรือเปล่า
![]()
ไวรัส คือ โปรแกรมชนิดหนึ่ง ทีถูกสร้างขึ้นโดย มีวัตถุ ประสงค์เพื่อการก่อกวน ทำให้เกิด ความ เสียหาย เ่ช่น ทำลายข้อมูล ไม่สามารถเปิดใช้ งานคอมพิวเตอร์ หรืออาจทำให้คอมพิวเตอร์ ทำงานช้าลง ปัจจุบันการใช้งานอีเมล์เป็นที่แพร่หลายมาก ทำให้มีผู้ไม่ประสงค์ดี สร้างไวรัสผ่านมาทางอีเมล์ เป็นต้น
- ชนิดของไวรัส
- แบ่งตามแหล่งที่ซ่อน
- ไวรัสบูตเซ็กเตอร์
- ไวรัสติดที่ตารางพาร์ทิชั่น
- ไวรัสที่ติดแฟ้ม- แบ่งตามลักษณะการทำงาน
- ไวรัสประเภทก่อกวน
- ไวรัสประเภททำลาย
ทั้ง นี้การแบ่งประเภทไวรัสของแต่ละคน อาจมีการแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย สำหรับตัวอย่างรายชื่อไวรัสว่ามีอะไรบ้าง เราจะสามารถดูได้จากในตัวโปรแกรมแอนตี้ไวรัสเอง เช่น Mcafee VirusScan, Norton Anti-Virus, PC-Cillin, Dr. Solomon Anti-Virus, F-Prot Anti-Virus, Panda Anti-Virus ดูในหัวข้อ Virus List
- วิธีการป้องกันไวรัส
- ติดตั้งโปรแกรมกำจัดไวรัส และตรวจสอบเป็นประจำ
- ปรับปรุง หรืออัปเดทโปรแกรมกำจัดไวรัส *
- ปรับปรุง หรืออัปเดท O.S. เช่น Windows, Linux เป็นต้น
- ปรับปรุง หรืออัปเดทโปรแกรมในการตรวจรับ Mail
- ปรับปรุง หรืออัปเดทโปรแกรม Browser เช่น Internet Explorer เป็นต้น
- ตรวจสอบแแผ่นดิสก์จากการใช้งานร่วมกับผู้อื่น
- สังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน
- หลีกเลี่ยงการ ก๊อปปี้โปรแกรมจากภายนอก
- จัดทำแผ่น Boot เพื่อใช้สำหรับกรณีมีปัญหาไม่สามารถเข้า Windows ได้
ประเภทของไวรัสคอมพิวเตอร์
บูตไวรัส
บูตไวรัส (Boot Virus) คือไวรัสคอมพิวเตอร์ที่แพร่เข้าสู่เป้าหมายใน ระหว่างเริ่มบูตเครื่อง ส่วนมากมันจะติดต่อเข้าสู่แผ่นฟลอปปี้ดิสก์ระหว่างกำลังสั่งปิดเครื่อง เมื่อนำแผ่นที่ติดไวรัสนี้ไปใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ไวรัสก็จะเข้าสู้เครื่องคอมพิวเตอร์ตอนเริ่มทำงานทันที
บูตไวรัสจะติดต่อ เข้าไปอยู่ส่วนหัวสุดของฮาร์ดดิสก์ ที่มาสเตอร์บูตเรคอร์ด (Master Boot Record ) และก็จะโหลดตัวเองเข้าไปสู่หน่วยความจำก่อนที่ระบบปฏิบัติการจะเริ่มทำงาน ทำให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ไฟล์ไวรัส
ไฟล์ไวรัส (File Virus) ใช้เรียกไวรัสที่ติดไฟล์โปรแกรม
ไวรัสมาโคร
ไวรัส มาโคร (Macro Virus) คือไวรัสที่ติดไฟล์เอกสารชนิดต่างๆ ซึ่งมีความสามารถในการใส่คำสั่งมาโครสำหรับทำงานอัตโนมัติในไฟล์เอกสารด้วย ตัวอย่างเอกสารที่สามารติดไวรัสได้ เช่น ไฟล์ไมโครซอฟท์เวิร์ด ไมโครซอฟท์เอ็กเซล เป็นต้น
โทรจัน
มา โทรจัน (Trojan) คือโปรแกรมจำพวกหนึ่งที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อแอบแฝง การะทำการบางอย่างในเครื่องของเรา จากผู้ที่ไม่หวังดี ชื่อเรียกของโปรแกรมจำพวกนี้ มาจากตำนานของมาไม้แห่งเมืองทรอยนั่นเอง ซึ่งการติดตั้ง ไม่เหมือนกับไวรัส และหนอน ที่จะกระจายตัวได้ด้วยตัวมันเอง แต่โทรจันจุถูกแนบมากับอีการ์ด อีเมล์ หรือโปรแกรมที่มีให้ดาวน์โหลดตามอินเทอร์เน็ตในเว็บไซต์ใต้ดิน และสุดท้ายที่มันต่างกับไวรัสและเวิร์ม คือ มันจะสามารถเข้ามาในเครื่องของเรา โดยที่เราเป็นผู้รับมันมาโดยไม่รู้ตัวนั่นเอง
หนอน
หนอน (Worm) เป็นรูปแบบ หนึ่งของไวรัส มีความสามารถในการทำลายระบบในเครื่องคอมพิวเตอร์สูงที่สุดในบรรดาไวรัสทั้ง หมด สามารถกระจายตัวได้รวดเร็ว ผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งสาเหตุที่เรียกว่าหนอนนั้น คงจะเป็นลักษณะของการกระจายและทำลาย ที่คล้ายกับหนอนกินผลไม้ ที่สามารถกระจายตัวได้มากมาย รวดเร็ว และเมื่อยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น ระดับการทำลายล้างยิ่งสูงขึ้น
บูตเซกเตอร์ไวรัส (Boot Sector or Boot Infector Viruses)คือไวรัสที่เก็บตัวเองอยู่ในบูตเซกเตอร์ของดิสก์ เมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์เริ่มทำงานขึ้นมาตอนแรก เครื่องจะเข้าไปอ่านโปรแกรมบูตระบบที่อยู่ในบูตเซกเตอร์ก่อน ถ้ามีไวรัสเข้าไปฝังตัวอยู่ในบูตเซกเตอร์ในบริเวณที่เรียกว่า Master Boot Record (MBR)
ในทุกครั้งที่เราเปิดเครื่อง ก็เท่ากับว่าเราไปปลุกให้ไวรัสขึ้นมาทำงานทุกครั้งก่อนการเรียกใช้โปรแกรมอื่นๆ
การป้องกันและกำจัดไวรัสคอมพิวเตอร์
โปรแกรมไวรัสเป็นโปรแกรมที่สามารถสร้างได้ง่าย แต่ตรวจจับได้ยาก เปรียบเหมือนเชื้อโรคร้ายที่คอยทำลายบรรดาโปรแกรมและข้อมูลสำคัญบนเครื่องคอมพิวเตอร์ เนื่องจากความสามรถในการสำเนาตัวเอง แฝงตัวและแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เราต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากในการใช้งานคอมพิวเตอร์เพื่อความปลอดภัยของบรรดาข้อมูลต่างๆ ไวรัสคอมพิวเตอร์ได้ถูกพัฒนาให้สร้างความเสียหายสูงขึ้นไปทุกขณะ และแฝงตัวไปกับไฟล์ได้ทุกชนิดไม่เว้นแม้แต่
่ไฟล์รูปภาพ การ์ดอวยพร เพลง และภาพยนตร์ ในอนาคตสิ่งที่น่ากลัวคือผ่านทางระบบเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ (เทคโนโลยีโทรศัพท์ปัจจุบันนี้ไม่ต่างจากเครื่องคอมพิวเตอร์แต่อย่างใด เพราะสามารถรับส่งภาพ เพลง เกมและเล่นอินเทอร์เน็ตได้) จึงเป็นเป้าหมายใหม่สำหรับแฮกเกอร์และบรรดาผู้ที่พัฒนาไวรัสคอมพิวเตอร์ทั้งหลาย การรับมือกับไวรัสคอมพิวเตอร์
ควรจะระวังป้องกันอย่างไร
เพื่อไม่ให้เข้าไปทำลายระบบและไฟล์ข้อมูลอันสำคัญของเรา ง่ายๆ ถ้าคุณทำได้โอกาสที่ไวรัสจะสร้างความเสียหาย
ให้ก็น้อยลง วิธีการมีดังนี้
- ทุกครั้งที่ได้รับซอฟท์แวร์ที่ไม่ทราบแหล่งผลิต หรือได้รับแจกฟรี หรือดาวน์โหลดมาใช้ฟรีๆ ต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนนำมาใช้งาน
- การทำสำเนาแลกเปลี่ยนไฟล์ระหว่างเครื่องต้องตรวจสอบก่อนทุกครั้ง อย่ามั่นใจแม้จะมีโปรแกรมป้องกันไวรัสติดตั้ง
อยู่ในเครื่องแล้วก็ตาม ควรสำรองข้อมูลที่สำคัญไว้เสมอๆ
- ไม่อนุญาตให้คนอื่นมาใช้เครื่องของท่าน โดยปราศจากการควบคุมอย่างใกล้ชิด (โดยเฉพาะการนำโปรแกรมต่างๆ มาติดตั้งในเครื่อง)
- พยายามสังเกตสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเครื่องอย่างสม่ำเสมอ เช่น การทำงานที่ช้าลง ขนาดไฟล์โตขึ้นหรือเนื้อที่ฮาร์ดดิสก์ลดลงมากผิดปกติ หน้าจอแสดงผลแปลกๆ ไฟฮาร์ดดิสก์ติดสว่างไม่ยอมดับ
- ควรหาโปรแกรมป้องกันไวรัสติดตั้งไว้ในเครื่องและหมั่นอัพเดทซิกเนเจอร์ไวรัสอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไวรัส
ชนิดใหม่ๆ (ปกติจะมีการอัพเดททุกๆ สัปดาห์) เช่น Avira, Norton,Trend Micro, Panda, ESET NOD32, Kaspersky เเละอื่น ๆเลือกใช้กันเองนะครับ
- สำหรับนักท่องเน็ตทั้งหลาย ต้องระมัดระวังเพิ่มขึ้น ด้วย ไม่เปิดไฟล์ที่แนบมากับอีเมล์จากคนที่คุณไม่เคยรู้จักมาก่อน
ส่วนใหญ่จะมีข้อความเชิญชวน เช่น ข้อมูลสำคัญที่คุณต้องการ ภาพเด็ดๆ เพื่อคุณ หรืออื่นๆ (ถ้าติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสไว้จะช่วยตรวจสอบให้คุณได้ ถ้าโปรแกรมได้รับการอัพเดทบ่อยๆ)
- หลีกเลี่ยงการคลิกป้ายโฆษณาเชิญชวนในลักษณะที่บอกว่าจะทำให้คุณท่องเน็ตได้เร็วและนาน สามารถเข้าดูภาพ
ลับเฉพาะได้ เพราะนั่นคือกับดักที่ล่อให้คุณติดกับ
- หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดโปรแกรมที่ไม่ทราบที่มา หรือไม่ทราบว่าโปรแกรมนั้นใช้ทำอะไร หรือในแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
น่าเชื่อถือ
*โปรแกรมป้องกันไวรัสสามารถหามาใช้งานได้จากเว็บไซต์ผู้ผลิต หรือแหล่งดาวน์โหลดใหญ่ๆ เช่น Download.com, Tucows.com, Thaiware.com ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโปรแกรมประเภทแชร์แวร์ให้ทดลองใช้ 30 วัน
แห่งอัพเดทซิกเนเจอร์ไวรัส มีอยู่ที่ไหน ก็สังเกตุง่ายๆก็ www.ตามด้วยชื่อยี่ห้อหรือบริษัทโปรแกรมไวรัสฯที่เราใช้นั่นแหละ
การที่เราอัพเดทก็หมายถึงการเพิ่ม
ประสิทธิภาพของโปรแกรมในการตรวจจับและกำจัดไวรัส และการเพิ่มรายชื่อไวรัสหรือที่ผมชอบพูดเสมอว่าปาร์ตี้ลิสต์เพื่อที่จะให้โปรแกรมทราบว่ามีรายชื่อไวรัสอะไรบ้างที่จะต้องกำจัด ถ้าเราไม่อัพเดทก็หมายความว่าไวรัสชื่อใหม่ๆ โปรแกรมป้องกันไวรัสของท่านก็ป้องกันกำจัดไม่ได้เพราะไม่มีชื่อไวรัสในปาร์ตี้ลิสต์ หาไปก็ไม่รู้จัก อย่างไรก็ตามถ้าเราช้าและไม่ได้สนใจก้มหน้าก้มตาใช้อย่างเดียว เราอาจจะสายเกินสำหรับการป้องกันและกำจัด เครื่องคอมฯเราอาจจะพังหรือแก้ไขไม่ได้ก็เหลือวิธีสุดท้ายก็คือฟอร์แมทต์ล้างฮาร์ดดิสต์ แล้วหาโปรแกรมใหม่ดีๆไว้ใจได้ลงใหม่ หรือเปลี่ยนฮาร์ดดิสต์ใหม่เลย นั่นหมายถึงเสียเงินแน่นอนและหลายตังค์ด้วย สุดท้ายในข้อเสนอส่วนตัวจริงๆครับและเป็นส่วนตัวของผม อยากขอร้องให้เราอย่าเชื่ออะไรที่ไม่เข้าท่า ไม่เข้าที ไม่อย่างนั้นเราก็จะเป็นเหยื่อรายแล้วรายเล่า ศึกษาให้รู้เท่าทัน อย่าปิดตัวเอง ท่านจะตามไม่ทัน แก้ไม่ได้แล้วต้องเสียเงินมากมาย ที่สำคัญที่สุดอย่าปิดหัวใจ ที่จริงผมจะปิดท้ายตรงนี้แต่ผมนึกขึ้นได้อีกอย่างหนึ่ง
ว่าท่านควรจะรู้ลึกไปอีกหน่อยว่าชื่อไวรัสคอมฯที่เราเจอกันมันคืออะไร บ่งบอกอะไรได้บ้างปิดท้ายก็แล้วกัน ขออนุญาตลิงค์
Last edited by Security; 05-08-2010 at 10:01 AM.
power supply ไม่ใช่เเล้วครับ ถ้าเป็นที่ power supply คอมมันจะดับไปเลย ไม่มีการอ่านโปรแกรมอะไรทั้งนั้น พัดลมหยุดหมุนทันที เหมือนเรากดเเช่ปิดเครื่องครับ
อาจจะเป็นที่สองกรณีครับ 1. อาจจะมีคนใช้โปรยิงเครื่องคุณ ถ้ามีคนใช้โปรยิงเครื่องคุณจะต้องยิงผ่านเน็ต วงเเลน หรือดาวเทียมเท่านั้น เเต่ว่าคงไม่มีใครลงทุนยิงผ่านดาวเทียมหรอก 2. อาจจะเป็นเพราะไวรัส
วิธีดูว่ามีคนใช้โปรยิงเครื่องคุณหรือเปล่า
ให้ลองปิดโมเด็มเเล้วถอดสายอินเตอร์ออก ถ้าเป็นเเลนให้ถอดสายเเลน เล่นอะไรก็ได้โดยไม่ต้องต่อเน็ตซัก 30 นาที ถ้าคอมรีสตาร์ทก่อน 30 นาที เเสดงว่าอาจเป็นเพราะไวรัส หรือไฟล์ของวินโดว์บางตัวเสียหาย เเต่ถ้าคอมไม่รีสตาร์ทก่อน 30 นาทีก็น่าจะมีคนยิงเครื่องคุณ
วิธีดูว่ามีไวรัสหรือเปล่า
1.มีไฟล์เเปลก ๆ ที่เราไม่รู้จักที่ startup หรือไม่ วิธีดูคลิกที่ Start >> All Programs >> Startup ถ้ามีให้ลบทิ้งซะ
2.Folder Options หายหรือเปล่า วิธีดูคลิกขวาที่ My Computer >> Open >> Tools >> Folder Options
ถ้าหาคำว่า Folder Options ไม่เจอเเสดงว่าไวรัส
3.เครื่องคอมรีสตาร์ทตัวเองเมื่อเปิดเครื่อง
4.คอมพิวเตอร์บูตเท่าไหร่ก็บูตไม่ขึ้น กลับมาหน้าจอตอนเริ่มเปิดเครื่องตลอด
5.เข้า Regedit ไม่ได้
6.เข้า Windows Task Manager ไม่ได้ วิธีดูให้กด Ctrl+Alt+Delete พร้อมกันที่ Keyboard
7.เข้าวินโดว์ไม่ได้
8.มีรหัสให้เข้าหน้าจอเเอดมิน ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ตั้ง
9.คอมช้าผิดปกติทั้ง ๆ ที่ข้อมูลก็ไม่มาก
10.มี Folder แปลกมาทั้ง ๆ ที่ไม่ได้สร้าง
เเละอื่น ๆ ยังคิดไม่ออก คิดออกเดี๋ยวมาต่อให้
ถ้่าเข้า safe mode ไม่ได้ก็เป็นไวรัส หรือไฟล์ของวินโดว์บางตัวเสียหายชัวร์ครับ
สาเหตุที่ติดไวรัสนะครับ
1.เปิดแฮนดี้ไดร์ฟที่มีไวรัส โดยไม่มีการสเเกนไวรัสก่อน
2.เล่นเอ็ม ไวรัสติดทางเอ็มได้นะครับ ถ้าสเเกนไวรัสไม่ Update ล่าสุดก็ยุ่งนะซิครับ ที่พูดไม่ได้หมายความว่าจะให้เลิกเล่นเอ็มนะครับ เเต่ว่าที่พูดก็เพื่อเตือนว่า เวลามีคนส่งไฟล์เเปลกปลอมที่เราไม่รู้จัก เราก็ไม่ควรเปิดครับ
3.เปิดเมลล์ที่ไม่รู้จัก
4.ไม่สเเกนไวรัสก่อนที่จะเปิดไฟล์ใด ๆ
5.ฐานข้อมูลเเอนตี้ไวรัสไม่ใหม่
6.เป็นปีเเล้วยังไม่มีการสแกนไวรัสเลย ควรสเเกนทุกเดือนครับ
ถ้าเป็นไวรัสผมเเนะนำเเผ่นบูตสแกนไวรัสครับ ทำไมต้องเเผ่นบูตสแกนไวรัส ทั้ง ๆ ที่ก็มีเเอนตี้ไวรัส
1.เเอนตี้ไวรัสเเต่ละตัวจับไวรัสได้ไม่เท่ากัน
2.ถึงเเอนตี้ไวรัสจะลบมันออกเเล้วมันก็ยังใช้ System Restore กลับมาอยู่ดี
3.เเผ่นบูตสแกนไวรัสมีไว้ทำไม มีไว้เพื่อ เวลาที่สเเกนไวรัสลบไวรัสมันออกเเล้ว มันไม่ยอมไป เพราะมันยังทำงานอยู่
เลยต้องใช้บูตสแกนไวรัสลบมันออกไป ตอนที่ไวรัสมันทำงาน จะได้ลบมันออกไปได้
4.ถึงจะลงวินโดว์ใหม่ Format ทุกไดร์ฟ ยังไำงมันก็ไม่หาย เพราะมันฝังที่ Boot Sector
ลองทำตามวิธีนี้ดูก่อนนะครับ
Last edited by Security; 05-08-2010 at 12:19 PM.
Actions : (View-Readers)
There are no names to display.