Results 1 to 3 of 3

Thread: ธรรมมะเกี่ยวกับ การทำบุญการทำความดี มาฝากกัน ก่อนนอนคัฟ

  1. #1
    Member parktobo1's Avatar
    Join Date
    Jun 2010
    Location
    Kanchanaburi, Thailand
    Posts
    33


    ธรรมมะเกี่ยวกับ การทำบุญการทำความดี มาฝากกัน ก่อนนอนคัฟ

    มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับ ธรรมมะเรื่องนึง มาแบ่งปันให้พี่น้องวัดชาวบางพระได้อ่านกันครับ
    ซึ่งผม ก็ได้รับฟังมาอีกที บางท่านก็อาจจะเคยได้ยิน บางท่านก็อาจจะยังไม่เคยได้ยิน
    ใคร เคยได้ยินหรือเคยอ่านฟังแล้วก็ขออภัยด้วยนะครับ


    เรื่องมีอยู่ว่า มีสามี ภรรยาคู่นึง ซึ่งสามีชาติที่แล้วทำกรรมมาดี เกิดมาชาตินี้ ก็มีทรัพย์สมบัติพอมีอยู่กินไม่อดอยาก
    มีภรรยาก็ภรรยาดี แต่ทว่าในชาตินี้สามีกับมีแต่ความโลภหลงในทรัพย์สมบัติ ไม่รู้จักทำความดีเอาซะเลย
    แต่ภรรยานั้นเป็นคนดี เชื่อเรื่องเวรกรรม มีศิลธรรม เป็นคนทำบุญสม่ำเสมอ ก็ชวนให้สามีมาทำความดี แต่สามีกับไม่สนใจ

    แล้ว มีอยู่วันๆนึง ภรรยาก็ออกมาใส่บาตรพระปกติ (ซึ่งปกติภรรยานั้นจะออกมาทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ทุกเช้าเป็นประจำ)
    วันนั้น เอง สามีก็เกิดขุ่นเคืองใจ เลยพูดกับภรรยาว่า


    สามี: ทำ ทำไมบุญ ไม่มีจริงหลอก เสียดายของป่าวๆเปลือง มีแต่ของดีๆ ทำไมไม่เก็บใว้กินเอง อีกหน่อยก็อดตายหลอก
    ภรรยา : ก็เงียบไม่ได้พูดอะไร ใส่บาตรพระตามปกติ

    แล้วอีกวันนึง ภรรยากำลังจะไปวัดเพื่อไปฟังเทศน์ฟังธรรม ที่วัด

    ภรรยา : กำลังขนของ ใส่รถกระบะ เพื่อนำของไปแจกเด็กๆ โดยมีลูกๆมาช่วยกันขน
    สามี : พอเห็นเข้าก็เกิดอารมณ์ฉุนเฉียว บอกกับภรรยาว่า - เอาไปแจกทำไม เปลือง ของบ้านเรากว่าจะหามาได้ต้องทำงานมาไม่รู้เท่าไหร่
    นี่อยู่ดีๆจะเอาไปให้ใครไม่รู้ บ้าหรือป่าว อีกหน่อย อดตายไม่มีของใช้ของกินแล้วจะรู้มัวแต่เอาไปแจกให้ชาวบ้าน

    ภรรยา: ได้ยินก็เฉยๆๆ ก็ให้ลูกๆๆขนของกันต่อไป

    แล้วเวลาก็ผ่านไป 30 ปี สามีภรรยาคู่นี้ก็แก่ตัวลง สามีดันเป็นโรคมะเร็งโดย เพียง 2 เดือนก็ถึงแก่กรรม
    เมื่อตายวิญญาณ ก็ออกจากร่าง ยมบาลก็พาไปสู่ขุมนรก เปิดบัญชีดู


    ยมบาล: เจ้าผู้นี่ชาติที่แล้วทำความดี ชาตินี้เลยเกิดมาสุขสบายมีทรัพสมบัติมาก แต่ด้วยชาตินี้มีแต่ความโง่เขลา ไม่คิดทำบุญ ถือศิล ไม่รุ้จักทำบุญทำทาน ชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ตายมาชาตินี้ก็ไม่ได้มีบุญติดตัวมาเลย ผลของกรรมเจ้า ต้องตกนรกโดนทรมาน เกิดมาชาติหน้าเป็นคนพิการมีแต่โรคเพราะชอบฆ่าสัตว์ ไม่มีทรัพสมบัติใดๆ แม้แต่บ้านก็ไม่มี
    สามีที่ตายแล้ว: ผมจะไม่มีอะไรได้ไง บ้านผมก็มี รถผมก็มี 3-4 คัน ทรัพย์สมบัติมีมากโข ทำไมตายไปผมกับไม่ได้อะไรสักอย่างเดียว ทำไม
    ยมบาล : ก็เจ้าไม่รู้จักทำบุญสร้างกุศลแล้วเหตุใดของเหล่านั้นจะติดตัวเจ้ามาด้วย หละ ของที่เจ้ามีที่เจ้าเห็นล้วนเป็นสมบัติภายนอก ตายไปก็เอาอะไรมาไม่ได้สักอย่าง เจ้าลองดูนี่สิภรรยาเจ้าสิเป็นคนดี หมั่นรักษาศิลทำบุญสร้างกุศล ดูซะ ถ้าภรรยาเจ้าตายไปจะได้อะไรมาบ้าง

    แล้วยมบาลก็เนรมิตรให้ดูบุญกุศลที่ภรรยาของสามีผู้ตาย ได้บำเพ็ญทำมา - สามีก็มองไป เห็นแสงสว่างเจิดจ้า มีของกินของใช้เพียบเต็มไปหมดประดับประดาไปด้วยเครื่องประดับนานาชนิด -ซึ่งสามีเห็นก็รู้สึกเสียใจภายหลังที่ตนตอนมีชีวิตอยู่ไม่รู้จักทำบุญสร้าง กุศลใว้เลยตายไปก็ไม่มีอะไรติดตัวมา

    ส่วนภรรยานั้น เมื่อตายไป ด้วยบุญกุศล ก็จะได้เกิดเป็นเทวดามีของประดับสวยงามอยู่อย่างมีความสุขบนสวรรค์เมื่อบุญ หมดเศษบุญที่ติดตัวมา ก็จะได้ลงมาเกิดเป็นมนุษย์
    ที่มีความพร้อมทั้งด้าน ปัญญา ทรัพสินเงินทอง



    เพราะฉะนั้นเรามาทำความดี ทำบุญสร้างกุศล ก่อนที่เราจะตายกันเถอะครับ สาธุ
    การมีสติ คือความรู้ผิดชอบดีชั่ว ในความไม่ประมาทในความตาย คนเราตายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
    ก่อนตายมีสติ ละเว้นชั่ว สร้างแต่บุญ ความดีใว้เถอะครับ

    มีคนชอบถาม คุณรู้ได้ไง นรกมีจริง สวรรค์มีจริง บุญบาปมีจริง ผีมีจริง
    ก็ เหมือนคนที่เขาเคยเห็นผีเขาก็จะรู้ว่ามีจริง ส่วนคนที่ไม่เคยเห็นพูดให้ตายเขาก็ไม่เชื่อเพราะเขาไม่เคยเห็น
    เพราะ ฉะนั้นกว่าจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อถึงเวลาที่จะรู้ หรือจะได้เห็นก็ตายก่อนถึงจะได้เห็นว่านรก สวรรค์มีจริงๆนะ

    อย่า ปล่อยให้คำว่าสายไปหรือไม่น่าเลยเรารู้งี้ทำดีซะดีกว่า อยู่ในชีวิตคุณเลย
    มี สติ หมั่นทำบุญ กุศล วันละนิด ชีวิตแจ่มใสครับ อิอิ

    ธรรมมะคือทาง ส่องใจให้สว่าง คือความรู้ที่ทำให้เกิดปัญญา
    สาธุกับทุกท่านที่เข้ามา อ่านด้วย ครับ อาจจะงงๆหน่อย ขออภัยด้วย


    cedie http://www.bp.or.th/webboardและ
    เอ็มเมืองไร่ขิง[/HIDE]
    Last edited by parktobo1; 19-06-2010 at 10:07 PM.

  2. #2
    Member parktobo1's Avatar
    Join Date
    Jun 2010
    Location
    Kanchanaburi, Thailand
    Posts
    33


    ขออนุญาติ ครับ ขอขยายคำว่า มีสติ ไม่ประมาท ในความตาย
    ไม่ใช่หมายถึง การมีสติก่อนสตาร์ทรถขับขี่รถ หรือ พึงระวังอุบัตติเหตุเท่านั้น

    แต่ หมายถึงการมีสติ ไม่ประมาทในควายตาย ว่าคนเราไม่แน่นอนตายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ควรมีสติในการทำดี
    ดั่งคำสอนว่า ให้รู้รู้สติใว้ว่าคนเราเกิดมาต้องตายทุกคน ไม่มีใครหนีความตายพ้น
    ก่อน จะตาย ควรมีสติ อยู่ในความไม่ประมาท มีสติรู้จักดีชอบชั่วดีก่อนทำอะไร ควรมีสติว่าสิ่งที่ทำนั้นถูกหรือผิด ควรหรือไม่
    เพราะสติเป็นบ่อเกิดของ ปัญญา เมื่อมีสติก็จะรู้ได้ว่าสิ่งที่เราจะทำเช่น กำลังลงมือจะฆ่าคน มันถูกหรือผิด บาปหรือป่าว
    เพราะสติจะเป็นตัวเตือนว่าสิ่งทีเราทำควรหรือ ไม่ เมื่อละเว้นความชั่วตายไปก็จะได้ผลของกรรมดีนั้นนั่นเอง
    สาธุ


    cedie http://www.bp.or.th/webboard
    Last edited by parktobo1; 19-06-2010 at 10:06 PM.

  3. #3
    Administrator asylu3's Avatar
    Join Date
    Jun 2000
    Location
    Thailand
    Posts
    3,557


    ห้องธรรมมะไม่ต้องซ่อนก็ได้มั้งครับ

Similar Threads

  1. Replies: 0
    Last Post: 16-10-2007, 10:09 AM

Members who have read this thread : 0

Actions : (View-Readers)

There are no names to display.

Tags for this Thread

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •