ของดีมีนานครั้งห้ามพลาด

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน นายบุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดเผยว่า ถึงแม้วันที่ 18-19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา อาจผิดหวังกับการมองเห็นปรากฏการณ์ฝนดาวตกลีโอนิดส์ (Leonids) หรือฝนดาวตกสิงโต ที่มองเห็นได้ประมาณ 10 ดวงต่อชั่วโมง จากที่คาดการณ์ไว้ว่าในประเทศไทยจะสังเกตเห็นได้ประม าณ 30 ดวงต่อชั่วโมง

ทั้งนี้ ในวันที่ 13-14 ธันวาคมนี้ หลายประเทศทั่วโลกจะสามารถมองเห็นปรากฏการณ์ฝนดาวตก "เจมินิดส์" (Geminids) ประมาณ 30-40 ดวงต่อชั่วโมง โดยช่วงเวลาที่มองเห็นได้ดีที่สุดคือ วันที่ 14 ธันวาคม เวลา 22.00 น.เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม สามารถสังเกตฝนดาวตกครั้งนี้ได้จากทางขอบฟ้าด้านทางท ิศตะวันออกเฉียงขึ้นไปทางเหนือเล็กน้อยในกลุ่มดาวคนค ู่

ทั้งนี้ ฝนดาวตกเจมินิดส์เกิดจากดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟธอน (3200 Phaethon) ที่ทิ้งเศษฝุ่นผงต่างๆ ไว้ ศูนย์กลางการกระจายของฝนดาวตกเจมินิดส์อยู่ระหว่างดา วคาสเตอร์ (Castor) และดาวฝาแฝดมีชื่อว่า พอลลัก (Pollux) ซึ่งการกระจายอาจเปลี่ยนแปลงได้ เนื่องจากฝุ่นผงของดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟธอนมีการเสียดสีกับชั้นบรรยากาศโลกได้ทั่วทุกที่

จึงต้องคอยเฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด สำหรับฝนดาวตกเจมินิดส์มีการค้นพบประมาณปี 2393 ต่อมานักดาราศาสตร์ชาวอังกฤษได้ศึกษารายละเอียดและข้ อมูลของฝนดาวตกดังกล่าว พบว่า ฝนดาวตกเจมินิดส์จะเกิดขึ้นช่วงระหว่างวันที่ 6-19 ธันวาคมของทุกปี และวันที่มีอัตราตกมากที่สุดอยู่ระหว่างวันที่ 13-14 ธันวาคม ซึ่งเคยมีอัตราการตกประมาณ 100 ดวงต่อชั่วโมง