กรณีป้าเช็ง http://supercheng.forumth.com/forum-f3/

กำลังเป็นข่าวดัง และสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางอินเตอร์เน็ต

การวิเคราะห์ง่ายๆ

ก่อนจะเสียชีวิตป้าเชงควรได้รับรางวัลโนเบล สาขาการแพทย์ เนื่องจากเป็นผู้ริเริ่ม และค้นพบแนวทางในการรักษาโรคเรื้อรังจำนวนมาก

ข่าวนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ใดบ้าง

1.ตั้งอยู่บนเทคโนโลยีชีวภาพ ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากประเทศญี่ปุ่น คือการใช้งานกลุ่มเชื้อแบคทีเรียที่มีประสิทธิภาพที่ได้รับการเพาะเลี้ยงชนิดเข้มข้น

ประโยชน์ของจุลินทรีย์ EM
กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ

E.M. (อี.เอ็ม.) คืออะไร
E.M. ย่อ มาจากคำว่า Effective Micro-organisms หมายถึง กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพคิดค้นพบโดย ศาสตราจารย์ ดร.เทรุโอะ ฮิงะ (TERUO HIGA) แห่งมหาวิทยาลัยริวกิว เมืองโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น โดยใช้เทคนิคทางชีวภาพ รวบรวมเฉพาะกลุ่มจุลินทรีย์ หมวดสร้างสรรค์ที่มีอยู่ในธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ ช่วยปรับปรุงสภาพความสมดุลของสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น จุลินทรีย์หมวดสร้างสรรค์ที่มีใน E.M. ได้แก่ กลุ่มจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง แลกโตบาซิลัส เพนนิซีเลี่ยม ไตรโคเดอมา ฟูซาเรียม สเตรปโตไมซิส อโซโตแบคเตอ ไรโซเบียม ยีสต์ รา ฯลฯ
จุลินทรีย์ใน E.M. ส่วนใหญ่เป็นจุลินทรีย์ที่ไม่ต้องการอากาศ และมี “แอนติออกซิเดชั่น” ซึ่งเป็นพลังสร้าง สรรค์ของชีวิต ป้องกันมิให้มีการทำลายชีวภาพที่สำคัญของ เซลล์ได้ป้องกันฤทธิ์ของสารพิษได้หลายชนิด รักษาสภาพธรรมชาติของเซลล์ ได้มิให้เสื่อมสภาพรักษาสุขภาพของคนและสัตว์ มิให้เป็นโรคหรือเจ็บป่วยได้ง่าย

ลักษณะ โดยทั่วไปของ EM
เป็นของเหลวสีน้ำตาลกลิ่นหอมอมเปรี้ยวอมหวาน (เกิดจาก การทำงานของกลุ่มจุลินทรีย์ต่าง ๆ ใน E.M.) เป็นกลุ่ม จุลินทรีย์ที่มีชีวิต ไม่สามารถใช้ร่วมกับสารเคมีหรือ ยาปฏิชีวนะและยาฆ่าเชื้อต่าง ๆ ได้ ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต เช่น คน สัตว์ พืช และแมลงที่เป็นประโยชน์ ช่วยปรับสภาพความสมดุลของสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ ที่ทุกคนสามารถนำไปเพาะขยายเพื่อช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง

ลักษณะ การผลิต
เพาะขยายจาก จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์มากกว่า 80 ชนิด จากกลุ่มจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง
- กลุ่มจุลินทรีย์ผลิตกรด แลคติค
- กลุ่มจุลินทรีย์ตรึงไนโตรเจน
- กลุ่ม จุลินทรีย์แอคทีโนมัยซีทส์
- กลุ่มจุลินทรีย์ยีสต์
ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่ได้จาก ธรรมชาตินำมาเพาะเลี้ยงและขยายให้จุลินทรีย์ขยายตัวด้วยปริมาณที่สมดุลกัน ด้วยเทคโนโลยีพิเศษ โดยใช้อาหารจากธรรมชาติ เช่น โปรตีน รำข้าว และสารประกอบอื่น ๆ ที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต

http://en.wikipedia.org/wiki/Effective_microorganism

ประโยชน์ ของจุลินทรีย์ EM โดยทั่วไป

ด้านการเกษตร

- ช่วยปรับสภาพความเป็นกรด-ด่างในดินและ น้ำ
- ช่วยแก้ปัญหาจากแมลงศัตรูพืชและโรคระบาดต่าง ๆ
- ช่วยปรับสภาพดินให้ร่วนซุย อุ้มน้ำและอากาศผ่านได้ดี
- ช่วยย่อยสลายอินทรีย์วัตถุ เพื่อให้เป็นปุ๋ย (อาหาร) แก่อาหารพืชดูดซึมไปเป็นอาหารได้ดี ไม่ต้องใช้พลังงานมากเหมือนการให้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์
- ช่วย สร้างฮอร์โมนพืช พืชให้ผลผลิตสูงและคุณภาพดีขึ้น
- ช่วย ให้ผลผลิตคงทน สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน มีประโยชน์ต่อการขนส่งไกล ๆ เช่น ส่งออกต่างประเทศ
- ช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นจากฟาร์มปศุสัตว์ ไก่และสุกร ได้ภายในเวลา 24 ชม.
- ช่วยกำจัด น้ำเสียจากฟาร์มได้ภายใน 1 – 2 สัปดาห์
- ช่วย กำจัดแมลงวัน โดยการตัดวงจรชีวิตของหนอนแมลงวันไม่ให้เข้าดักแด้เกิดเป็นตัวแมลงวัน
- ช่วยป้องกันอหิวาห์และโรคระบาดต่าง ๆ ในสัตว์แทนยาปฏิชีวนะและอื่น ๆ ได้
- ช่วยเสริมสุขภาพ สัตว์เลี้ยง ทำให้สัตว์แข็งแรงมีความต้านทานโรคสูง ให้ผลผลิตสูงอัตราการตายต่ำ

ด้านการ ประมง

- ช่วยควบคุมคุณภาพในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำได้
- ช่วย แก้ปัญหาโรคพยาธิในน้ำเป็นอันตรายต่อกุ้ง ปลา กบ หรือสัตว์น้ำที่เลี้ยงได้
- ช่วยรักษาโรคแผลต่าง ๆ ในปลา กบ จระเข้ ฯลฯ ได้
- ช่วย ลดปริมาณขี้เลนในบ่อ และทำให้เลนไม่เน่าเหม็น สามารถนำไปผสมปุ๋ยหมักใช้พืชต่างๆ ได้อย่างดี
ด้านสิ่ง แวดล้อม

- ช่วยปรับสภาพเศษอาหารจากครัวเรือน ให้กลายเป็นปุ๋ยที่มีประโยชน์ต่อพืชผักได้
- ช่วยปรับสภาพ น้ำเสียจากอาคารบ้านเรือน โรงงาน โรงแรมหรือแหล่งน้ำเสีย
- ช่วย ดับกลิ่นเหม็นจากกองขยะที่หมักหมมมานานได้

การ เก็บรักษาจุลินทรีย์
สามารถ เก็บรักษาไว้ได้นาน อย่างน้อย 6 เดือน ในอุณหภูมิห้องปกติ ไม่เกิน 46 – 50 องศาเซลเซียส ต้องปิดฝาให้สนิท อย่าให้อากาศเข้าและอย่าเก็บไว้ในตู้เย็น ทุกครั้งที่แบ่งไปใช้ต้องรีบปิดฝาให้สนิท การนำ E.M. ไปขยาย ต่อควรใช้ภาชนะที่สะอาดและใช้ให้หมดภายในเวลาที่เหมาะสม

ข้อ สังเกต
หากนำไปส่อง ด้วยกล้องจุลทรรศน์ที่มีกำลังขยายสูงไม่ต่ำกว่า 700 เท่า จะเห็น จุลินทรีย์ชนิดต่าง ๆ อยู่มากมาย E.M. ปกติจะมีกลิ่น หอมอมเปรี้ยวอมหวาน ถ้าเสียแล้วจะมีกลิ่นเน่าเหมือน กลิ่นจากท่อน้ำทิ้งเก่า ๆ (E.M. ที่เสียใช้ผสมน้ำรดกำจัดวัชพืชได้) กรณี ที่เก็บไว้นาน ๆ โดยไม่มีเคลื่อนไหวภาชนะ จะมีฝ้าขาว ๆ เหนือผิวน้ำ E.M.นั่นคือการทำงานของ E.M. ที่ผักตัวเมื่อเขย่าแล้ว ทิ้งไว้ชั่วขณะ ฝ้าสีขาวจะสลายตัวกลับไปใน E.M. เหมือนเดิม


การเตรียมน้ำหมักเอง

จำเป็นต้องมี

1.E.M. 1 ช้อนชา
2.น้ำ 5 ลิตร
3.กากน้ำตาล 20 กรัม

กระบวนการนี้เป็นการเพิ่มจำนวน EM โดย EM จะใช้น้ำตาลสำหรับเติบโตเพิ่มจำนวน ผลสุดท้ายจะได้น้ำหมัก

สามารถใช้เศษอาหารที่มีโปรตีน เศษผัก ผลไม้ ผลผลิตทางการเกษตรที่เสียหาย วัชพืช ทดแทนกากน้ำตาลได้

หลักการพัฒนาขึ้นเพื่อ การเกษตรและปศุสัตว์ที่ไม่ต้องใช้สารเคมี ผู้ทำน้ำหมักมั่นใจได้ว่าน้ำหมักของตนมีความปลอดภัยเพราะทำเอง เพื่อสุดท้ายให้ได้ผลผลิตทางการเกษตรที่ปลอดยาฆ่าแมลงและปุ๋ยเคมีราคาแพง เพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม

แม้ว่าปัจจุบันจะมีการพัฒนาเป็น EM-X http://www.effectivemicro-organisms.co.uk/em-x.html# ที่สามารถใช้กับคน แต่กระบวนการผลิตมีความสะอาดมาก และใช้น้ำที่มีคลัสเตอร์ขนาดเล็ก

---
ทำไมเป็นข่าว

ป้าเชง เอามาใช้กับคน และดันบอกเน้นๆ ว่ายิ่งใส่ขยะยิ่งมากยิ่งดี มหาบำบัด แก้ได้สารพัดโรค ซึ่งไม่จริงและไม่ใช่ความสามารถของจุลินทรีย์ และกระบวนการหมักไม่ได้สะอาดอะไร

น้ำหมักมีฤทธิ์เป็นกรดสูง สามารถแก้ปัญหาท่อตันได้ ปกติเวลาจะนำน้ำหมักมาใช้จำเป็นต้องเจือจางด้วยน้ำเปล่า แต่กลับนำมาหยอดตา ทาตัว อาบ ดื่ม คล้ายๆเอา แฟนต้ามาหยอดตาเล่น

ผลกระทบ

ป้าเช็ง ดัง

ชาวบ้าน ดูโง่

คำว่าขยะดูไม่ดี จริงๆถ้าแยกชนิดบรรจุภัณฑ์ และเศษอาหาร และเศษผัก ออกจากน้ำเสีย และน้ำสำหรับชำระล้าง จะพบว่าทั้งหมดมีประโยชน์

พบว่ามีการใช้เทคโนโลยีชีวภาพแบบไม่มีสมอง อย่างเกินขอบเขตเกิดขึ้น และยังพยายามกระจายให้ทุกคนปฏิบัติตาม



วิธีแก้ไข

อ่านข้างบนใหม่ทั้งหมดสักสิบรอบ