โดย กองบรรณาธิการเว็บไซต์ ARiP.co.th
อัพเดต 15 พฤศจิกายน 2005 เวลา 06:53 น.
รายงานข่าวแจ้งว่า โพรเซสเซอร์ Pentium รุ่นล่าสุดของอินเทลจะช่วยให้พีซีสามารถทำหลายงานพร้อมกันได้ในขณะเดียวกันยังสามารถต่อกรกับเหล่าบรรดาไวรัสได้อีกด้วย
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อินเทลได้เปิดตัวโพรเซสเซอร์ Pentium 4 สองรุ่นใหม่ด้วยกัน โดยจะมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการหลายตัวพร้อมกันได้ แถมยังเพิ่มความสามารถในการทำหลายงานพร้อมกันเข้าไปด้วย
สำหรับ Pentium 4 รุ่นล่าสุดจะเป็นโพรเซสเซอร์สำหรับเดสก์ทอปรุ่นแรกที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่เรียกว่า “Virtualization” ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะสามารถสร้างสภาพแวดล้อมเสมือนได้หลายตัว ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานด้วยระบบปฏิบัติการได้หลากหลาย อีกทั้งยังสามารถรันโปรแกรมต่างๆ ได้โดยที่ระบบจะไม่มีการรบกวนการทำงานในแต่ละสภาพแวดล้อมของการทำงานเลย
โพรเซสเซอร์รุ่นใหม่จะเป็นรุ่น 672 และ 662 โดย 672 จะทำงานที่ความเร็ว 3.8GHz และมีขนาดหน่วยความจำแคช 2MB ราคาของ 672 จะอยู่ที่ 605 เหรียญฯ (ประมาณสองหมื่นสี่พันบาท) ส่วน 662 จะอยู่ท 402 เหรียญฯ (ประมาณหนึ่งหมื่นหกพันบาท)
ในส่วนของประโยชน์ที่ธุรกิจจะได้รับจากการเลือกใช้เดสก์ทอปที่มีโพรเซสเซอร์ ซึ่งมากับเทคโนโลยี Virtualization ก็คือ ผู้จัดการแผนกไอทีจะสามารถเข้าซ่อมบำรุงระบบให้กับคอมพิวเตอร์เครื่องที่มีปัญหาได้ โดยไม่ต้องขัดจังหวะการทำงานของพนักงาน โดยจะสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในเครื่องของผู้ใช้ไปพร้อมกับการใช้งานของพวกเขาได้ทันที
นอกจากนี้ โพรเซสเซอร์ Pentium รุ่นใหม่ ยังสามารถแยกการโจมตีของไวรัสไปยังบริเวณที่กำหนดให้เปิดรับการโจมตีโดยเฉพาะ เพื่อว่าไวรัสจะได้ไม่ติดเข้าไปทั้งระบบ
ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ๆ หลายรายไม่ว่าจะเป็น Acer Founder Lenovo และ Tongfang จะเป็นกลุ่มแรกที่จะผลิตพีซีที่ใช้โพรเซสเซอร์รุ่นนี้ โดยคาดว่าจะสามารถวางตลาดได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2006
ต้องถือว่าเป็นชัยชนะของอินเทลที่สามารถเพิ่มเทคโนโลยี Virtualization เข้าไปในโพรเซสเซอร์เดสก์ทอปได้ก่อนคู่แข่งอย่าง AMD หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางบริษัทได้เปิดตัวโพรเซสเซอร์ดูอัลคอร์บนเซิร์ฟเวอร์ช้ากว่า AMD ถึง 6 เดือน
อินเทลยังให้ข้อมูลอีกว่า ในปีหน้าทางบริษัทจะเพิ่มเทคโนโลยี Virtualization เข้าไปในโพรเซสเซอร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์อย่าง Itanium และ Xeon ตลอดจนโพรเซสเซอร์สำหรับโน้ตบุ๊กอย่าง Pentium M ด้วย ในขณะเดียวกันทางบริษัทยังมีแผนที่จะเพิ่มเทคโนโลยี Virtualization เข้าไปในโพรเซสเซอร์ Pentium D ( Dual-core Pentium) สำหรับคอมพิวเตอร์เดสก์ทอปด้วย
ในขณะที่อินเทลเพิ่มเทคโนโลยี virtualization เข้าไปในโพรเซสเซอร์ของทางบริษัท ทางด้านผู้ผลิตซอฟต์แวร์อย่าง Microsoft, Vmware และ Xen ยังไม่ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการว่า ระบบปฎิบัติการรุ่นใหม่จะมีการใช้ข้อได้เปรียบจากเทคโนโลยีดังกล่าว อย่างไรก็ดี ทางอินเทลคาดว่า ซอฟต์แวร์ที่สับสนุนเทคโนโลยี Virtualization จะออกมาในช่วงกลางปีหน้า แต่นักวิเคราะห์ในวงการบางรายเชื่อว่า ซอฟต์แวร์ที่รองรับเทคโนโลยีนี้น่าจะออกได้ในช่วงปลายปีหน้า