Results 1 to 5 of 5

Thread: คู่มือการเที่ยวอาบอบนวด (คลายเครียด)

  1. #1
    Junior Member
    Join Date
    Oct 2006
    Posts
    6


    คู่มือการเที่ยวอาบอบนวด
    >> >สถานที่อาบอบนวดส่วนใหญ่จะแบ่งออกเป็นสามส่วน

    >> >ส่วนแรกเปรียบเสมือนห้องรับแขกตกแต่งสวยงาม ที่ได้ระดับจริง ๆ

    >> >เหมือนกับล๊อบบี้ของโรงแรมชั้น ๆ เลยที่เดียว

    >>ส่วนประกอบที่สำคัญคือตู้กระจก

    >> >ตู้นี้ส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าเป็นกระจกด้านเดียว

    >> >หมอนวดมองไม่เห็นแขกซึ่งไม่เป็นความจริง ในตู้นี้จะมี 'หมอนวด'

    >> >แต่งตัวสวยงามนั่งรอให้แขกเลือก ส่วนใหญ่จะเป็นชุดวับ ๆ แวม ๆ

    >> >บางแห่งที่มีระดับหน่อย หมอนวดจะแต่งตัวมิดชิด คล้าย ๆ กับสาว ๆ

    >> >ที่ทำงานอ๊อฟฟิส ใส่ถุงน่องรองเท้าเรียบร้อย ได้อามรณ์ไปอีกแบบ

    >> >เครื่องแต่งตัวของหมอนวดก็แล้วแต่สถานที่ บางแห่งมีการเปลี่ยนไปตามเทศกาล

    >> >เช่นช่วงหน้าร้อนจะกำหนดให้ หมอนวดทุกคนใส่ชุดว่ายน้ำ

    >> >หรือบางแห่งกำหนดให้หมอนวดใช่เฉพาะชุดชั้นในก็มี


    >> >ในตู้จะมีโทรทัศน์ไว้ให้หมอนวดดูแก้เซ็งขณะรอแขก

    >> >การตั้งโทรทัศน์ไว้ในตู้นั้นมีอีกเหตุผลหนึ่งคือให้แขกได้เห็นอริยาบทต่าง ๆ

    >> >ของหมอนวด

    >> >จะสังเกตุได้ว่าหมอนวดที่ดูโทรทัศน์อยู่ในตู้จะหัวเราะได้ง่ายกว่าปกติโดยเฉพาะ

    >>เมื่อมีแขกยืนอยู่หน้าตู้

    >> >บริเวณหน้าตู้จะมีพนักงาน (มีทั้งหญิงและชาย)

    >> >ทำหน้าที่ต้อนรับลูกค้าหรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า 'คนเชียร์แขก'

    >> >เราสามารถสอบถามรายละเอียดเช่น ประเภทของบริการ และ ราคา เป็นต้น นอกจากนี้

    >> >หากไม่แน่ใจในสายตาตัวเอง อาจถามเพิ่มเติมจากคนเชียร์ได้เช่นกัน


    >> >แต่ต้องเข้าใจว่าส่วนใหญ่แล้วคนเชียร์จะมีหมอนวดในสังกัดของตนเองและมักจะเชียร

    >>์เด็กในสังกัดนั้นเป็นพิเศษ

    >> >ทางทีดีให้เชื่อมั่นในตัวเองจะดีที่สุด หมอนวดที่นั่งในตู้จะมีเบอร์

    >> >บางแห่งในตู้จะมีหมอนวดหลายประเภท เช่น ประเภทธรรมดา ประเภทดารา

    >> >หรือประเภทบีคอส เป็นต้น

    >> >เมื่อเลือกหมอนวดที่ถูกใจได้แล้วก็แจ้งเบอร์ต่อคนเชียร์แขก

    >> >คนเชียร์แขกจะเป็นคนเรียกหมอนวดที่เราเลือกส่วนใหญ่จะใช้เครื่องขยายเสียงและจะ

    >>เรียกเหมือนกันหมด

    >> >เช่น 'เบอร์ 88 ทำงาน' มีบางแห่งที่พัฒนาไปมาก

    >> >การเรียกหมอนวดให้ทำงานจะใช้สัญญาลักษณ์มือโดยไม่จำเป็นต้องออกเสียงเลย

    >> >หลังจากนั้นคนเชียร์ก็จะพาแขกไปรับห้อง

    >> >ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเค้าเตอร์มีเจ้าหน้าที่คอยออกเวลาและเบอร์ห้อง

    >> >จะเลือกจ่ายก่อน หรือ จ่ายทีหลังก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะจ่ายทีหลัง

    >> >หมอนวดที่เลือกจะออกมาพบแขกบริเวณนี้

    >> >ส่วนใหญ่จะกำหนดเป็นระเบียบให้หมอนวดไหว้แขกอข่างสุภาพเมื่อพบกันทุกครั้งไม่ว่

    >>าจะเป็นขาประจำหรือไม่ก็ตาม

    >> >เพราะถือว่าแขกคือผู้มีพระคุณ

    >> >เมื่อหมอนวดรับใบเวลาและเบอร์ห้องแล้วก็จะพาแขกขึ้นห้อง

    >> >อาจขึ้นลิฟท์หรือขั้นบันไดก็แล้วแต่สถานที่


    >> >พอเข้าห้อง อย่าเพิ่งผลีผลามเพราะจะมีเด็กเสิรฟ์ตามมาติด ๆ

    >> >เพื่อสอบถามว่าต้องการดื่มอะไรหรือไม่

    >> >ขั้นตอนนี้เป็นเรื่องของแขกต้องแสดงน้ำใจ ถามหมอนวนเสมอว่าน้องจะดื่มอะไร

    >> >ส่วนใหญ่ก็จะเป็น กาแฟเย็น ชาดำเย็น หรือน้ำมะนาว อะไร ๆ เทือกนี้

    >> >แต่แขกบางคนสั่งเบียร์ หรือกับแกล้มอื่น ๆ ก็ได้


    >> >ที่ต้องสังวรณ์ไว้เสมอคือเครื่องดื่มทุนชนิดจะมีราคาแพงกว่าปกติมาก

    >> >และจะต้องทิปให้เด็กเสิรฟ์ทุกครั้งเพราะเด็กพวกนี้ไม่มีเงินเดือน

    >> >เมื่อได้เครื่องดื่มหรือขณะรอเครื่องดื่มจะมีแม่บ้าน

    >> >หรือที่หมอนวดเรียกกันสั้น ๆ ว่า 'แม่'

    >> >นำเอาอุปกรณ์อาบน้ำประจำตัวของหมอนวนคนนั้นมาให้ หมอนวดที่เก่ง ๆ

    >> >บางคนจะเริ่มจู่โจมแขกจากจุดนี้


    >> >การจู่โจมของหมอนวดที่มีประสบการณ์สูง

    >> >ส่วนใหญ่จะสังเกตจากปฏิกิริยาของแขกว่าจะมาไม้ไหน ส่วนใหญ่คือการกอด

    >> >การลูบไล้ร่างกายของแขก นั่งตัก การป้อนน้ำ การนอนบิดขี้เกียจ บนเตียง

    >> >บางแห่งถือเป็นระเบียบว่าหมอนวดต้องทำหน้าที่ถอดถุงน่องรองเท้าให้กับแขกทุกราย

    >> >หรือบางคนใช้เทคนิคการถอดเสื้อผ้า

    >> >ถ้าอ่อนประสบการณ์หน่อยจะเป็นพวกที่รอให้แขกเป็นฝ่ายเริ่มรุก

    >> >คำถามยอดนิยมซึ่งใช้เปิดฉากการสนทนาคือ 'มาคนเดียวหรือคะ' หรือ

    >>'มาบ่อยไหมคะ

    >> >ทำไมไม่เคยเห็น'

    >> >ช่วงนี้เป็นช่วงที่เรียกว่าช่วงโหมโรงอย่าหักโหมเดี๋ยวจะจอดป้ายเร็วกว่าที่ควร

    >>จะเป็นขั้นตอนต่อไปคือการอาบน้ำ กรรมวิธีก็แตกต่างกันไป

    >> >ส่วนใหญ่หมอนวดจะเป็นคนเปิดหรือผสมน้ำในอ่าง แต่บางแห่งเป็นหน้าที่ของ

    >> >'แม่บ้าน' หมอนวดเป็นผู้ปรับอุณหภูมิของน้ำให้ได้ตามความต้องการของแขก

    >> >อ่างน้ำมาตรฐานในห้องจะเป็นอ่างขนาดใหญ่ซึ่งสามารถอาบพร้อมกันได้สองคน

    >> >บางแห่งที่คุณภาพดี ๆ จะมีห้องที่เรียกว่าเพนท์เฮาส์ หรือห้องชุด

    >> >ประกอบด้วยห้องเล็ก 2-4 ห้อง ห้องกลางเป็นสถานที่รับประทานอาหารหรือเหล้า

    >> >มีเด็กเสิร์ฟและบาร์เครื่องดื่มประจำห้อง


    >> >มีโทรทัศน์ขนาดใหญ่ที่แขกสามารถสั่งเพลงคาราโอเกะเพื่อร้องกับหมอนวดหรือจะให้หมอนวดร้องให้ฟังก็ได้ ถ้าไม่ชอบร้องเพลงจะดูรายการโทรทัศน์ หรือ

    >> >กดไปช่องวงจรปิดดูเด็กในตู้โดยจะดูภาพมุมกว้างเห็นทุกคนในตู้

    >> >หรือจะเลือกโหมดโคสอัพ ดูคนใดคนหนึ่ง ส่วนใดส่วนหนึ่งก็ได้

    >> >ส่วนกลางห้องจะเป็นอ่างจากุสซี่ขนาดใหญ่อาบพร้อม ๆ กันได้หลายคน

    >> >นอกจากนี้ยังมีตู้อบซาวน่าไว้บริการด้วย

    >> >การใช้บริการห้องแบบนี้เหมาะสำหรับพวกกระเป๋าหนัก

    >>หรือนักธุรกิจเชิญลูกค้าไป

    >> >'ปูเสื่อ' ต้องมีงบประมาณขั้นต่ำ 10,000

    >> >บาทขึ้นไปและต้องเรียกหมอนวดมาบริการอย่างน้อย 3 คน


    >> >กลับมาเรื่องห้องธรรมดา เมื่อเปิดน้ำเรียบร้อย หมอนวดจะชวนแขกลงอ่าง

    >> >หลังจากทั้งคู่ถอดเสื้อผ้าออกจนหมด หากเป็นการอาบแบบ 'บีคอส'

    >> >จะมีอุปกรณ์เพิ่มคือแพยาง

    >> >บางแห่งจะมีที่คลุมผมแจกให้ด้วยเพื่อกันไม่ให้ผมเปียก การอาบแบบบีคอส

    >> >หมอนวดจะใช้น้ำฝักบัวรดตัวแขกและตัวเองให้เปียกทั่วตัวเสียก่อน

    >> >แล้วให้แขกนอนหงายลงบนแพยาง จากนั้นก็จะใช้สบู่เหลวละเลงจนเกิดฟอง

    >> >แล้วจึงนอนทับลงไปบนตัวแขก ใช้อวัยวะสำคัญคือหน้าอก หน้าท้อง

    >> >และอวัยวะเพศของตัวเอง ลูบไล้ไปจนทั่วตัวแขก

    >> >แต่จะไม่ยอมให้ล่วงล้ำนอกจากแขกจะขวัญอ่อนน้ำแตกไปเสียก่อน

    >> >เมื่อละเลงด้านหน้าจนพอใจหรือเมื่อเห็นว่าแขกไม่เสร็จแน่ ๆ

    >> >ก็จะขอให้แขกนอนคว่ำและดำเนินการช้ำด้านหลังอีกรอบ

    >> >จากนั้นจึงขอให้แขกลงแช่ในอ่างแล้วหมอนวดก็จะตามลงไปโดยจะนั่งลงระหว่างขาทั้งส

    >>องข้างของแขกในลักษณะนั่งคุกเข่าแล้วช้อนก้นของแขกขึ้นวางไว้บนตักของตัวหมอเอง

    >> >ลักษณะนี้ จะทำให้แขกอยู่ในสภาพการนอนแอ่น

    >> >และจะสร้างความตื่นตัวทางเพศให้กับพวกไก่อ่อนได้ไม่น้อย

    >> >หมอนวดจะเริ่มขั้นตอนด้วยการขัดขี้ไคล โดยใช้มือขัดไปตามแขนทั้งสองข้าง

    >> >และหน้าอกของแขก จากนั้นก็จะลงสบู่แขนทั้งสองข้าง หน้าอกและหน้าท้อง

    >> >และขาทั้งสองข้างในที่สุด


    >> >ถึงตอนนี้

    >> >หมอนวดจะเริ่มปล่อยน้ำออกจากอ่างให้น้ำลดระดับลงเพื่อเริ่มขั้นตอนการทำความสะอาดอวัยวะเพศของแขก

    >> >การทำความสะอาดอวัยวะเพศนี้เป็นเทคนิคเฉพาะตัว บางคนที่เก่ง ๆ

    >> >จะแถมการบีบกษัยให้กับแขกด้วย

    >> >แขกหลายคนที่สามารถผ่านด่านอรหันต์มาตกม้าตายเอาด่านนี้ก็มีเยอะจากนั้น

    >> >หมอนวดก็จะขอให้แขกลุกขึ้นนั่งหันหลังเพื่อขัดขี้ไคลและฟอกสบู่ด้านหลัง

    >> >ส่วนใหญ่จะถามแขกว่าจะสระผมหรือไม่ด้วย

    >> >ฟอกหลังเสร็จก็จะให้แขกยืนขึ้นเพื่อขัดขี้ไคลขาด้านหลัง ก้น

    >> >และล้างสบู่ให้จนหมดจด ถึงตอนนี้หมอจะถามแขกว่า 'ฉี่ไหมคะ'

    >> >ถ้าจะปวดก็ฉี่ลงอ่างไปเลยหมอนวดจะทำความสะอาดให้อีกครั้งเมื่อฉี่เสร็จ

    >> >แถมด้วยการรินน้ำยาบ้วนปากให้แขกบ้วนปากเป็นเสร็จพิธี พาแขกขึ้นจากอ่างได้

    >> >หมอนวดจะเป็นผู้เช็ดตัวให้กับแขกหรือถ้าแขกจะเช็ดเองก็ไม่ขัดข้อง


    >> >สถานอาบอบนวดที่ได้มาตรฐานจะจัดผ้าเช็ดตัวสะอาดไว้ในให้อย่างน้อย 5-6 ผืน

    >> >จากนั้นก็จะพาแขกไปนอนบนเตียง

    >> >หรือแขกจะเลือกสูบบุหรี่หรือดื่มเบียร์รอขณะที่หมอนวดกับไปอาบน้ำให้ตัวเองเพื่

    >>อความสดชื่นและให้แน่ใจว่าตัวเองสะอาดหมดจดก่อนที่จะให้บริการขั้นต่อไป


    >> >เมื่ออาบน้ำล้างคราบไคลให้กับตัวเองจนหมดจดแล้ว หมอนวนจะหรี่ไฟ หรีโทรทัศน์

    >> >(หรือปิดเสียง)บางคนที่ขึ้อายหน่อยอาจหรี่ไฟตั้งแต่ก่อนลงอ่างแล้วก็มี

    >> >จากนั้นก็จะชวนแขกขึ้นเตียง กรณีที่แขกนั่ง ลืมอธิบายไปหน่อยเรื่องห้อง

    >> >ห้องธรรมดาส่วนใหญ่จะประกอบด้วยส่วนเปียกและส่วนแห้ง เป็นห้องที่มิดชิด

    >> >บางแห่งอาจเจาะรูไว้เพื่อให้แม่บ้านประจำชั้นแอบดูความประพฤติของผู้ใช้ห้องด้วยก็ได้

    >> >ส่วนเปียกจะมีอ่างอาบน้ำและบริเวณหน้าอ่างสำหรับกิจกรรมบีคอส

    >> >ส่วนแห้งจะปูพรมทั้งหมดและเป็นห้องปรับอากาศ

    >> >เครื่องแต่งห้องอย่างน้อยจะมีเก้าอี้หรือโซฟา สองตัวกับโต๊ะกาแฟ

    >> >สุดท้ายคือเตียงที่ส่วนใหญ่จะเป็นขนาดคิงไซส์พร้อมหมอนสองใบ

    >> >เตียงนี้มีหลายรูปแบบ ทั้งเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าธรรมดา หรือเป็นทรงกลมก็มี


    >> >ส่วนประกอบที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งซึ่งจะขาดเสียมิได้คือระจกบนฝ้าเพดานซึ่งสะท้อนภาพบนเตียงอย่างชัดเจน

    >> >ที่เคยได้ยินมาแต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันคือบางแห่งจะมีบริการพิเศษสำหรับแขกที่ชอบดูโดยจะจัดเป็นห้องเฉพาะในชั้นถัดไปที่จะมีช่องสามารถมองผ่านกระจกด้านเดียวที่อยู่บนฝ้าของห้องชั้นล่างได้ด้วย


    >> >เมื่อขึ้นเตียงแล้วถ้าแขกไม่เริ่มบุกหมอนวดจะเป็นฝ่ายบุก

    >>อาจเริ่มจากการค่อย ๆ

    >> >บีบนวดแข้งขาให้กับแขก หลังจากนั้นก็เริ่มกระบวนการลูบไล้ ดูดนม ดูดจู๋

    >> >จนแขกเริ่มมีอารมณ์เต็มที่จะใส่ปลอกให้กับแขกอย่างนุ่มนวล

    >> >แล้วจึงเริ่มกระบวนการร่วมเพศ ถ้าสังเกตให้ดี

    >> >หมอนวดส่วนใหญ่จะพยายามทำให้กับแขกโดยหมออยู่ข้างบน เหตุเพราะด้วยท่านี้

    >> >ตัวหมอนวดเองสามารถควบคุมจังหวะ ความเร็วและความแรงได้

    >> >อีกประการหนึ่งคือสามารถทำให้แขกเสร็จเร็ว และ

    >>ทำให้มือแขกไม่สามารถจับนมหมอได้สะดวก

    >> >หมอนวนส่วนใหญ่จะหวงนมเนื่องจากกลัวเสียทรงจะยอมให้จับหรือดูดบ้างพอเป็นพิธี

    >> >ที่หวังจะไปบี้ไปขย้ำคงยาก


    >> >อย่าลืมว่านวดที่ฝีมือดี ๆ ในช่วงเศรษฐกิจดี ๆ จะทำงานโดยเฉลี่ยวันละ 3-4 รอบ

    >> >ในช่วง 14.00 น. - 24.00 น. ของแต่ละวัน เดือนหนึ่งจะหยุดได้ประมาณ 6

    >> >วันเพื่อพักฟื้นซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นช่วงที่มีรอบเดือน

    >> >หมายถึงหมอนวดพวกนี้ต้องผสมพันธ์กับแขกโดยเฉลี่ย 70 ครั้งต่อเดือน

    >> >ซึ่งเท่ากันอัตราเฉลี่ยของการมีเพศสัมพันธ์ของคนไทยต่อ 1 ปี ดังนั้น

    >> >จึงต้องระวังรักษารูปร่างของตนตามสมควร

    >> >เพื่อให้อายุใช้งานและหาเงินยืนยาวก่อนที่จะโดนลดชั้นไปในที่สุด


    >> >กระบวนการทั้งหมดที่กล่าวมาตั้งแต่ต้นจะใช้เวลาเฉลี่ยไม่เกิน 1

    >>ชั่วโมงครึ่ง

    >> >เมื่อเสร็จกิจแล้วจะมีเวลาให้แขกนอนอ้อยอิ่งได้อีกพักใหญ่ ๆ

    >> >ให้สังเกตได้จากหมอนวด

    >> >หากเห็นหมอนวดเริ่มแต่งหน้าทาคิ้วแสดงว่าใกล้หมดเวลาแล้ว

    >> >ลุกไปล้างเนื้อล้างตัวและแต่งตัวได้ ข้อควรระวังในที่นี้คืออย่าเผลอหลับ

    >> >ถ้าเจอหมดนวดมีคุณธรรมปลุกก็ดีไป

    >> >แต่ถ้าหมอไม่ปลุกโดยอ้างว่ากลัวว่าจะรบกวนแล้วละก็คุณอาจต้องจากดับเบิ้ลหรือ

    >> >ทริปเปิ้ล ก็ได้ เมื่อแต่งตัวเรียบร้อยหากจะทิปหมอนวดให้ทิปในช่วงนี้

    >> >อัตราทิปโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 100-500 ร้อยขึ้นอยู่กับสถานที่และบริการ

    >> >ถามว่าจำเป็นต้องทิปหรือไม่ ตอบว่าไม่จำเป็นถ้าไม่กลัวถูกด่าลับหลัง

    >> >บางแห่งหมอนวดอาจต้องทิปแม่บ้านด้วยประมาณ 50-100 บาท

    >> >ถ้าแขกใจดีจะออกให้ก็ไม่ขัดข้อง


    >> >ค่าชั่วโมงนั้นหมอนวดจะพาแขกไปจ่ายที่เค้าเตอร์ที่รับเบอร์ห้องครั้งแรกนั่นแหล่ะ

    >> >เมื่อจ่ายเงินเสร็จก็กลับบ้านได้ หมอนวดจะตามมาส่งพร้อมกับอวยพรว่า

    >> >'โชคดีนะพี่'

    :P

  2. #2
    Junior Member
    Join Date
    Mar 2006
    Location
    Thailand
    Posts
    9


    หึหึ

    ไม่เคยลงอ่างแบบหรูๆ อ่านแล้วได้ความรู้ดีี

  3. #3
    Junior Member
    Join Date
    Oct 2006
    Posts
    5


    ทำไม ท่านรู้ดีจังคับ สงสัย เข้าวันละ 3 เวลา

  4. #4
    Junior Member
    Join Date
    Oct 2006
    Posts
    6


    ผมถามจาก คุณชูวิ้ด มาหน่ะครับ :P

  5. #5
    wadee007
    Guest


    ไม่เคยไปอ่ะ แต่เคยได้ยินคนอื่นเล่านะ แต่ทางที่ดีอย่าไปเสี่ยงเลยดีกว่า รักเดียวใจเดียวนะ

Similar Threads

  1. Replies: 0
    Last Post: 26-08-2007, 05:07 PM
  2. Replies: 0
    Last Post: 26-08-2007, 04:46 PM
  3. Replies: 0
    Last Post: 26-08-2007, 04:45 PM
  4. เรื่องขำๆ คลายเครียด
    By popvip in forum Non computer knowledge
    Replies: 0
    Last Post: 25-12-2006, 10:55 PM

Members who have read this thread : 0

Actions : (View-Readers)

There are no names to display.

Tags for this Thread

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •