การเปิดตัว "วินโดวส์ 7" ถือเป็นความคาดหวังหนึ่งว่าจะเข้ามามีส่วนช่วย
กระตุ้นอุตสาหกรรม ไอทีให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
เพราะวินโดวส์ 7 นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่อาจกระตุ้น
ให้ผู้บริโภคพร้อมที่จะลงทุนซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ด้วย
รวมถึงโอกาสการพัฒนาแอปพลิเคชั่นใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นจากวินโดวส์ 7


"ปฐมา จันทรักษ์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด
กล่าวว่า จุดเด่นของวินโดวส์ 7 ก็คือ "ง่ายและเร็ว" นั่นก็คือวินโดวส์ 7
ได้ปิด จุดอ่อนหรือข้อด้อยของวินโดวส์วิสต้า
ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ต้องใช้ทรัพยากรของเครื่องมาก หรือฮาร์ดแวร์สเป็กสูง ๆ
ทั้งทำให้ต้องใช้เวลาในการรัน รวมถึงการใช้พลังงานสูง แต่สำหรับวินโดวส์ 7
จะทำให้เวลาการเปิดปิดเครื่องน้อยลง รวมทั้งใช้พลังงานน้อยลง
ทำให้สามารถ ใช้งานแม้บนเครื่องเน็ตบุ๊กได้โดยไม่มีปัญหาเรื่องความเร็ว

วินโดวส์ 7 เป็นโปรแกรมที่มีผู้ทดสอบเวอร์ชั่นเบต้ามากที่สุดถึง 8 ล้านคนทั่วโลก จาก113 ประเทศ
และยังมีการสัมภาษณ์ตรงกับผู้ใช้งานอีกกว่า 16,000 คน เพื่อนำข้อเสนอแนะต่าง ๆ มาปรับปรุงให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

กรรมการผู้จัดการไมโครซอฟท์กล่าวว่า ที่ผ่านมาการเปิดตัวระบบปฏิบัติการของไมโครซอฟท์
เวอร์ชั่นภาษาไทยจะต้องรอ 2-3 เดือน
หลังเปิดตัวเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรก
ที่เวอร์ชั่นภาษาไทยสามารถเปิดตัวพร้อมกัน เพราะว่าปัจจุบันมีทีมนักพัฒนาคนไทย
ไปประจำอยู่ที่เรดมอนด์ เพื่อร่วมในการพัฒนาภาษาไทยควบคู่ไปด้วยเลย

จุดเด่นหรือไฮไลต์ของวินโดวส์ 7 คือช่วยให้การใช้งานในชีวิตประจำวันง่ายขึ้น
ทำงานได้เร็วขึ้นและทำงานได้มากขึ้นแบบง่ายๆ เริ่มจาก "ทาสบาร์"
เครื่องมือเพียงหนึ่งเดียวในการเปิดโปรแกรมต่าง ๆ และหน้าต่างที่เปิด
ใช้งานอยู่สามารถแสดงผลเป็นทัมป์เนล และจะขยายให้เห็นเต็มหน้า เพียงวางเมาส์บนธัมป์เนล

และที่เรียกความสนใจได้มากเป็นพิเศษก็คือฟีเจอร์ Shake เมื่อมีการเปิดใช้งานหลาย ๆ หน้าจอ
เพียงคลิกที่แถบหน้าต่างและเขย่าเมาส์ไปมา เพื่อลดขนาดหน้าต่างอื่นที่ไม่ต้องการซ่อนไว้
และเมื่อต้องการเปิดหน้าต่างอื่น ๆ ขึ้นมา ก็เพียงเขย่า ๆ เท่านั้น
รวมถึงฟีเจอร์การย่อขยายหน้าจอ เพียงแค่กดปุ่ม "วินโดวส์" และเครื่องหมาย +

หรือฟีเจอร์โฮมกรุ๊ป ช่วยให้การแชร์ไฟล์ระหว่างเครื่องพีซีกับอุปกรณ์ต่าง ๆ
ภายในบ้านง่ายขึ้น เพียงเลือกโฮมกรุ๊ปเครื่องพีซีที่ใช้วินโดวส์ 7
จะสามารถค้นหาและเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ได้โดยอัตโนมัติ

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์วินโดวส์เอ็กซ์พีโหมด
เพื่อรองรับการใช้แอปพลิเคชั่นที่ใช้งานอยู่เดิมที่รันบนวินโดวส์เอ็กซ์พี

รวมถึงการสัมผัสประสบการณ์ใหม่อย่าง "วินโดวส์ทัช" รองรับการใช้งาน
กับเครื่องพีซีและโน้ตบุ๊กที่ใช้จอระบบสัมผัส ซึ่งเรียกว่ากำลังเป็นเทรนด์ใหม่ของตลาด
การพัฒนาอินเทอร์เน็ตเอ็กซ์พลอเรอร์ 8 ให้ทำงานได้รวดเร็วขึ้น ง่ายขึ้น
เช่นการใช้ ฟีเจอร์ Instant search โดยไม่ต้องเข้าไปเปิดเว็บไซต์

สำหรับราคาของวินโดวส์ 7 โฮมพรีเมี่ยม ไมโครซอฟท์ทำโปรโมชั่นอยู่ที่ราคา 3,777 บาท
"ปฐมา" กล่าวว่า ถือว่าเป็นราคาพิเศษมาก ๆ สำหรับเมืองไทย โดยช่วงที่ผ่านมาได้เปิดให้มีพรีออร์เดอร์ทางเว็บไซต์ www.window7thailand. com
ในราคา 2,777 บาท ซึ่งโควตามา 777 ชุด ก็ได้รับความสนใจ ถูกจองหมดภาย
ในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ 31ต.ค.-1 พ.ย. 2552 จะมีการจัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
ที่แฟชั่นฮอลล์ สยามพารากอน เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้สัมผัสการใช้งานวินโดวส์ 7

โดยการร่วมมือกับแพลทินัมพาร์ตเนอร์อย่างเอเซอร์ อัสซุส เดลล์ โซนี่
และอินเทล เพื่อพีซีและโน้ตบุ๊กโมเดลใหม่ ๆ ที่รองรับการใช้งานวินโดวส์ 7 มานำเสนอในราคาพิเศษด้วย

"นิธิพัทธ์ ประวีณวงค์วุฒิ" ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด
บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ด้วยหลาย ๆ ปัจจัย
รวมถึงการเปิดตัวของวินโดวส์ 7 เชื่อว่าจะทำให้ตลาดไอทีไตรมาส 4
มีความเคลื่อนไหวและสีสันมากขึ้นอย่างแน่นอน