สำหรับ CEATEC จัดว่าเป็นงานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทีใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยเริ่มเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งไฮไลท์ในงานทีได้รับความสนใจเป็นพิเศษก็คือ การที่บริษัทผู้ผลิตทีวียักษ์ใหญ่ต่างนำต้นแบบจอแสดงผล 3 มิติมาโชว์ในงานกันอย่างคับคั่ง โดยผู้เยี่ยมชมสามารถสัมผัสประสบการณ์ในการรับชมทีวีแบบทะลุจอได้จากหลายๆ บูธภายในงานด้วยการสวมแว่นตาอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ผู้เข้าชมงานต่างตกตะลึงกับการแข่งขันซ็อคเกอร์บนทีวีพวกนี้ เนื่องจากบอลที่ถูกขว้างโดยผู้เล่นทะลุออกมาผ่านศรีษะพวกเขาไป หรือประสบการณ์ร่วมที่น่าตื่นเต้นเนื่องจากความรู้สึกที่เหมือนกับว่า ได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์เดียวกันกับฮีโร่ที่อยู่ในเกมคอมพิวเตอร์
บริษัทผู้ผลิตทีวี 3 มิติสองรายยักษ์อย่างโซนี่ และพานาโซนิค กล่าวว่า พวกเขาจะวางตลาดทีวีสามมิติรุ่นแรกในปีหน้า ส่วนรายละเอียดเกียวกับว่า ทีวีดังกล่าวจะสามารถรับชมอะไรได้บ้าง ทั้งสองบริษัทต่างเห็นตรงกันว่า คงจะเริ่มต้นด้วยภาพยนต์ และเกมส์ก่อน "คอนเท็นต์คือสิ่งสำคัญที่สุด" มาซาโนบุ อิโนเอะ วิศวกรจากพานาโซนิคกล่าว นอกจากนี้ทั้งสองบริษัทกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนามาตรฐานทีใช้ในการแพร่ สัญญาณ และดิสก์สำหรับคอนเท็นต์ที่เล่นบนทีวีสามมิติ ซึ่งอาจจะต้องเป็นการพัฒนาต่อยอดจากมาตรฐานบลูเรย์ และไฮเดฟินิชั่นฟอร์แมต ทางด้านโซนี่เองเตรียมเปิดสตูดิโอภาพยนต์ขนาดยักษ์อีกด้วย "มันจะต้องมีฟอร์แมตมาตรฐานที่ทำให้สามารถรับชมบนทีวี(3 มิติ)ได้ทุกบริษัทเหมือนกัน" ซัทสึกิ ชินนะกะ ตัวแทนโซนี กล่าว ส่วนทางด้านผู้ผลิตรายอื่นอย่าง ชาร์ป (Sharp) ก็มีแผนพัฒนาทีวี 3 มิติด้วยเหมือนกัน แต่จะรอจนกว่ามีคอนเท็นต์ทีมากพอ และการแพร่สัญญาณภาพสำหรับทีวีสามมิติออกมาก่อน จึงจะเปิดตัวสินค้าของทางบริษัทออกมา
เทคโนโลยี 3 มิติส่วนใหญ่จะใช้ลักษณะการแสดผงภาพสองภาพพร้อมกัน เพื่อแยกดูด้วยตาคนละข้าง ซึ่งเมื่อมองพร้อมกันจะเห็นป็นภาพสามมิติขึ้นมา โดยภาพยนต์ 3 มิติได้มีการแสดงสู่สายตาผู้ชมทั่วโลกมานานแล้ว แต่เป็นเทคโนโลีที่เก่ากว่า ซึ่งต้องใช้แว่นตาสองสีในการแยกภาพให้เห็นด้วยตาคนละข้าง ส่วนเทคโนโลยี 3D แบบใหม่จะใช้การกระพริบสองภาพอย่างรวดเร็ว พร้อมกับแว่นตาอิเล็กทรอนิกส์ที่แยกแต่ละภาพให้มองเห็นด้วยตาคนละข้าง หากไม่ใส่แว่นตาขณะรับชม ภาพบนจอจะเบลอ
ทางด้านโตชิบา (Toshiba) ก็นำทีวีสามมิติรุ่นใหม่มาโชว์ในงานด้วยเหมือนกัน โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถวางจำหน่ายในญี่ปุ่นช่วงปีหน้า โดยสนนราคาประมาณ 11,000 เหรียญฯ (ประมาณ 400,000 บาท) ซึ่งภายในใช้ชิป Cell ที่พัฒนาร่วมกับโซนี่ และไอบีเอ็ม โดยชิปที่ว่านี้ได้เคยถูกใช้ในเครื่องเล่น PS3 ของโซนี่ ผลการเลือกใช้ชิปดังกล่าวทำให้ทีวีสามารถแสดง และบันทึกได้ 8 ช่องในเวลาเดียวกัน ต้นแบบทีวีจะสามารถแปลงภาพธรรมดาให้กลายป็น 3-D ที่สามารถมองเห็นผ่านแว่นตาพิเศษโดยเฉพาะได้
และไม่เฉพาะแต่บริษัท ยักษ์ใหญ่ในญ๊่ปุ่นเท่านั้นที่นำทีวีสามมิติมาโชว์ บริษัทผู้ผลิตในเกาหลีอย่างซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ และฮุนได ก็นำทีวีสามมิติที่ได้มีการเปิดตัวไปแล้วก่อนหน้านี้มาแสดงในงานด้วยเหมือน กัน ปัจจุบันสถานีเคเบิ้ลทีวีในญ๊่ปุ่นจะมีการเผยแพร่คลิป 3-D เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ในแต่ละวันด้วย การมาของกระแสทีวีสามมิติเกิดจากเทคโนโลยีใหม่ และความต้องการของบริษัทผู้ผลิตที่ต้องการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ ตลอดจนสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง
VDO ตัวอย่าง http://www.youtube.com/watch?v=EeTdMO_5-BQ...player_embedded
My Webpage
<div align="center">____________________________________________________________________________________</div>
สุดยอด!!! เน็ตบุ๊ก-แท็บเล็ต"สองจอ"
บูธ Kohjinsha ในงาน CEATEC ได้สร้างความฮือฮาให้กับผู้ชมไม่น้อยด้วยการแสดงต้นแบบ"เน็ตบุ๊ก"ไฮโซฯที่มา พร้อม กับหน้าจอ LCD ขนาด 10.1 นิ้ว (ความละเอียด 1024 x 600 หรือ 1366 x 768) ถึง 2 จอด้วยกัน โดยสามารถเลื่อนทับกันได้สนิท ในกรณีที่ต้องการใช้งานแค่จอเดียว แต่เดี๋ยวก่อน มันไม่ใช่แค่เน็ตบุ๊กที่มีสองจอเท่านั้นนะครับ เพราะจากในรูปสังเกตได้ว่า บริเวณด้านล่างของจอกับคีย์บอร์ดจะมีกลไกที่ทำให้สามารถหมุนจอได้เพื่อใช้ งานเป็น"แท็บเล็ต"ได้อีกด้วย
ต้นแบบเน็ตบุ๊กสองจอของ Kohjinsha เครื่องนี้จะใช้ซีพียูเป็น AMD Athlon Neo MV-40 1.6GHz ไดรเวอร์สำหรับการแสดงผลเป็น DirectX 10 ฮาร์ดดิสก์ SATA 2.5 นิ้ว รองรับหน่วยความจำแบบ DDR2 ได้สูงสุด 4GB เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 802.11 b/g/n และบลูทูธ มาพร้อมกับฟังก์ชันทีวีจูนเนอร์ และทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 7 Home Premium โดยตัวเครื่องต้นแบบมีน้ำหนักรวมทั้งหมดไม่ถึง 4 ปอนด์ (1.8 กิโลกรัม) แต่อาจจะเทอะทะเล็กน้อย ทั้งนี้ส่วนที่หนาที่สุดของเครื่องจะอยู่ที่ 1.7 นิ้ว (สองจอซ้อนกัน+ตัวเครื่อง) และบางสุด 0.75 นิ้ว นอกจากเรื่องของการพกพาที่ดูไม่น่าจะสะดวกมากนักแล้ว มันยังมีประเด็นเรื่องของแบตเตอรี่ที่ใช้ เพราะสองจอน่าจะใช้พลังงานไม่น้อย กำหนดการวางตลาดในญี่ปุ่นก่อนสิ้นปีนี้ สนนราคาประมาณ 800 เหรียญฯ (ประมาณ 28,800 บาท) เอาเป็นว่า มันจะดูสวยงามน่าใช้แค่ไหน คุณผู้อ่านก็ลองชมจากคลิปที่นำมาฝากข้างล่างนี้ก็แล้วกันครับ
VDO ตัวอย่าง http://www.youtube.com/watch?v=d9Ab4kXNBOQ...player_embedded
My Webpage