หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นประจำวันละหลาย ๆ ชั่วโมง
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงไหลกับโลกการสื่อสารไร้พรหมแดน จึงเปิดเล่นอินเตอร์เน็ตเป็นประจำจนลืมเวลา
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้ชอบใช้คอมพิวเตอร์เลย แต่ก็ต้องใช้เพราะมีหน้าที่เป็นพนักงานพิมพ์
และ อีกหลาย ๆ เหตุผลกลในที่ทำให้คุณต้องใช้คอมพิวเตอร์ โดยไม่รู้มาก่อนเลยว่าการใช้คอมพิวเตอร์เป็นตัวการนำมา ซึ่งความเครียด โรคเครียด และโรคที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ ซึ่งแฝงมาในรูปแบบที่คุณอาจจะคิดไม่ถึง แต่มีอันตรายมากมาย
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานในแต่ละวัน คุณควรจะสังเกตว่ามีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นกับคุณบ้างหรือ เปล่า นั่นคือ
ปวดและเจ็บ อาการขั้นแรกของโรคที่เกิดจากการทำงานประเภทนี้ก็คืออาการปวด อาจจะปวดนิ้ว แขน ต้นแขน คอ ไหล่ หลังด้านบนอย่างกะทันหัน อาจจะปวดเพียงที่ใดที่หนึ่ง หรือปวดทุกอวัยวะพร้อมกันก็ได้ หรือวันนี้ อาจจะปวดอวัยวะหนึ่ง วันพรุ่งปวดอีกอวัยวะหนึ่ง อาจจะปวดระหว่างการทำงาน หรือหลังการทำงาน หรือปวดทุกเช้า เมื่อลุกจากที่นอน หรืออาจจะปวดเสียจนคุณต้องตื่นขึ้นมากลางดึก คุณอาจจะชาไปเลย ไม่รู้สึกอะไรเลย หรือรู้สึกเหมือน มีเข็มเป็นพัน ๆ เล่มมาทิ่มแทงคุณอยู่ก็ได้
เหนื่อยล้าและอ่อนเพลีย คุณอาจจะรู้สึกไม่มีแรงที่แขนและมือ รู้สึกเหมือนกับว่ามือและแขนหนักและเหนื่อยล้า บางคนที่ทำหน้าที่รับโทรศัพท์ต้องยกหูขึ้นและลง อาจจะรู้สึกว่ามันหนักเหมือนทำด้วยเหล็ก หรือไม่ก็รู้สึกว่าการเปิดขวด น้ำอัดลมเป็นงานที่ยากมาก และต้องใช้แรงมาก เพราะคุณไม่มีแรง
ทำของหล่น คุณอาจจะไม่มีแรงถือดินสอ หรือถ้วยกาแฟต้องปล่อยให้มันหล่นลง ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจ ถ้ามาถึงอาการนี้ต้องรีบไปพบแพทย์ได้แล้ว
รู้สึกตึง หรือรู้สึกว่ามือแข็งใช้ไม่ได้ คุณอาจจะรู้สึกอย่างนี้ตอนเช้า หรือไม่ก็รู้สึกว่ากำมือไม่ได้ บังคับนิ้วไม่ได้ แค่ติดกระดุมเสื้อก็ยาก
รู้สึกหลาย ๆ อย่างข้างต้นพร้อมกัน เป็นอาการที่หนักหนาที่บ่งบอกว่าคุณไม่ปกติ และมีอาการของโรคที่ เกิดจากการทำงาน
รู้สึกว่ามือเย็น และต้องบีบนวด ถ้าคุณต้องถูมือไปมาเพื่อแก้มือเย็นนิ้วเย็นอยู่บ่อย ๆ หรือต้องบีบนวดต้นแขน หรือต้องเรียกหาคนอื่นมานวดคอและไหล่ คุณน่าจะไปพบแพทย์ได้แล้ว
มีคำแนะนำสำหรับผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์อยู่ เสมอว่า จะต้องจัดวางคอมพิวเตอร์ คีย์บอร์ด เม้าส์ จอคอมพิวเตอร์และ ตัวของคุณเองให้สัมพันธ์กัน
ด้านบนสุดของจอคอมพิวเตอร์ ควรจะอยู่ในระดับเดียวกับกลางหน้าผากของผู้ใช้ประมาณหนึ่งช่วงแขนกับอีก 3 นิ้ว หากเป็นจอขนาดใหญ่ให้บวกเข้าไปอีก 3 นิ้ว เป็น 6 นิ้ว
คีย์บอร์ดหรือแป้นพิมพ์ ควรจะวางราบกับพื้นหรือเอียงเล็กน้อย โดยให้ด้านที่อยู่ใกล้ตัวคุณสูงกว่าด้านใน อย่า วางโดยให้ด้านในสูงกว่าด้านที่อยู่ใกล้ตัวคุณ การตั้งแบบนั้นจะทำให้คุณปวดกระดูกแขน
ถาดวางคีย์บอร์ด ควรจะขยับได้ และปรับยืดหดได้ ตามแต่คุณต้องการ เมื่อคุณพิมพ์งานแขนช่วงแรกควรจะ ตั้งเป็นมุมฉาก หรือ 95 องศากับแขนช่วงบน และถาดจะต้องไม่สูงกว่าข้อศอก ถาดนี้จะต้องมั่นคงแข็งแรง และมีที่เหลือ กว้างพอสำหรับวางเม้าส์ และลากเม้าส์
ตำแหน่งของข้อมือ แขนช่วงบนจะต้องตรง และไม่เกร็งข้อมือก็จะต้องอยู่ในระดับพอดี เป็นธรรมชาติ
ตำแหน่งของเท้า เมื่อคุณนั่งในตำแหน่งที่ถูกต้องกับคอมพิวเตอร์ เท้าของคุณจะต้องวางอย่างมั่นคงบนพื้นราบ ไม่ควรไขว่ห้าง หรือนั่งขาลอยแกว่งไปมา ที่พักเท้าที่มีลักษณะลาดเอียงจะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้มากเมื่อคุณ ขยับ ขา ลักษณะของที่พักเท้าแบบนี้ก็จะเหมือนกับจักรแบบขาถีบ จะเหมือนตรงขาถีบที่ลาดเอียงในระดับแบบนั้น ไม่ได้เหมือน กับหัวจักร อย่าเข้าใจผิด
ที่พักข้อมือ จะช่วยป้องกันข้อมือจากการถูไถบนโต๊ะ ซึ่งเจ้าการถูไถไปมานี้เองเป็นสาเหตุของการปวดกระดูก แขนที่พักข้อมือควรทำจากโฟมที่นุ่ม ๆ
ที่พักแขน ถ้าเก้าอี้ที่คุณนั่งมีที่พักแขนหรือที่เท้าแขนได้ระดับกับถาดรองแป้นพิมพ์ หรือคีย์บอร์ดก็จะดีมาก อย่างไรก็ดี เก้าอี้ที่ใช้ในสำนักงานส่วนใหญ่มักจะปรับระดับได้ ควรปรับระดับให้เหมาะกับตัวคุณเอง ถ้าคุณปรับเก้าอี้สูง เกินไปอาจจะทำให้คุณรู้สึกปวดไหล่ก็ได้
เก้าอี้ เก้าอี้ที่ดีควรปรับให้สูงขึ้น หรือลดระดับความสูงลงไปได้ ควรจะมีพนักพิง วิธีที่จะวัดว่าเก้าอี้อยู่ในระดับ พอเหมาะหรือยังก็โดยนั่งบนเก้าอี้ แล้วยื่นนิ้ว 3 นิ้วเข้าไประหว่างขาอ่อนกับขอบโต๊ะ ถ้าใส่เข้าไปได้อย่างนี้แปลว่าอยู่ใน ระดับถูกต้อง ไม่ควรเหลือมากกว่านี้
รักษาสายตา เมื่อคุณจ้องอยู่ที่จอคอมพิวเตอร์ คุณจะกะพริบตาน้อยครั้งกว่าปกติ และที่จอคอมพิวเตอร์อาจจะ มีฝุ่นละอองติดอยู่ ซึ่งการกะพริบตาน้อยครั้ง ทำให้ตาแห้ง และฝุ่นละอองอาจปลิวเข้าตา ดังนั้น ควรกะพริบตาให้ถี่ขึ้น และ ทุก ๆ ครึ่งชั่วโมงควรพักสายตา โดยหันไปมองที่อื่นไกล ๆ จากจอคอมพิวเตอร์สักสองสามนาที
ปัจจุบันมีบริษัทชั้นนำชื่อดังแห่งหนึ่งทำการวิจัยเกี่ยวกับโรคจากการทำงาน กับคอมพิวเตอร์ และหาทางป้องกันขึ้นมาแล้ว คุณอาจจะซื้อผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้จากบริษัทนี้ ความจริงไม่อยากบอกว่าเป็นบริษัทใด แต่รู้สึกเห็นใจผู้มีอาชีพที่ต้องใช้ คอมพิวเตอร์ นั่นก็คือบริษัท 3M ที่ทำการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้และหาวิธีการป้องกัน
ความจริงเมื่อมีการผลิตคอมพิวเตอร์ขึ้นมาเพื่อใช้อย่างแพร่หลายนั้น ผู้ผลิตและคิดค้นคงไม่ได้คิดว่า ในที่สุดจะเกิดโรค หรือภัยจากคอมพิวเตอร์ขึ้นได้อย่างนี้ แต่ปัจจุบันหากเรารู้วิธีการป้องกันแล้ว เราก็สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้อย่างมี ความสุขในชีวิต และไม่กลัวที่จะต้องผจญกับความเจ็บปวดจากสมองกลจอสี่เหลี่ยมนี้อีกต่อไป
ในประเทศเรายังไม่มีใครฟ้องร้องเอาเรื่องจากการผลิตสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ความจริงถ้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ครั้งนี้จะ ระบุเอาไว้ว่าประชาชนมีสิทธิ์ฟ้องร้องผู้ผลิตแบบนี้บ้างก็คงจะดี เพราะเราในฐานะผู้อุปโภคบริโภคต้องเป็นผู้รับกรรมจาก การใช้สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน
แหล่งที่มา http://www.ku.ac.th/e-magazine/septe.../know/com.html