เรายังสับสนกับความหมายของคำว่า Hacker และ Cracker กันอยู่ บางคนใช้คำสองคำนี้สลับกัน
Hacker คือบุคคลที่มีความสนใจความลึกลับซับซ้อนในการทำงานของระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์
แคร็กเกอร์ คือบุคคลที่บุกรุกเข้าไปยังระบบที่เป็นรีโมทแมชชีน และทำลายข้อมูลที่สำคัญ ปฏิเสธการใช้งานทุกอย่างที่ถูกกฎหมายทั้งหมด
ก่อนอื่นต้องขอทำความเข้าใจก่อนว่า ผมไม่ได้เป็นแฮกเกอร์ และไม่ได้สนับสนุนให้คุณเป็นแฮกเกอร์ด้วย บทความนี้เป็นการนำเสนอข้อมูลให้อ่านเพื่อเป็นความรู้และความบันเทิงเท่านั้น
ความจริงเรายังสับสนกับความหมายของคำว่า Hacker และ Cracker กันอยู่ บางคนใช้คำสองคำนี้สลับกัน ดังนั้นผมจึงขอทำความเข้าใจกับผู้อ่านก่อนว่า Hacker คือบุคคลที่มีความสนใจความลึกลับซับซ้อนในการทำงานของระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์ แฮกเกอร์ส่วนใหญ่จะเป็นโปรแกรมเมอร์ที่มีความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการเป็นอย่างดี แฮกเกอร์มักจะค้นหาช่องโหว่ของระบบและนำความรู้ที่ทราบมาเปิดเผยให้ทราบ เพื่อจะได้มีการแก้ไข และที่สำคัญแฮกเกอร์จะไม่ทำลายข้อมูลหรือระบบอย่างจงใจ
แคร็กเกอร์ คือบุคคลที่บุกรุกเข้าไปยังระบบที่เป็นรีโมทแมชชีน และทำลายข้อมูลที่สำคัญ ปฏิเสธการใช้งานทุกอย่างที่ถูกกฎหมายทั้งหมด แคร็กเกอร์ส่วนใหญ่จะถูกค้นพบได้ เนื่องจากการกระทำที่ทำให้เกิดความเสียหายดังกล่าว ทำให้ต้องถูกตามล่า
บัญญัติ 12 ประการสำหรับแฮกเกอร์
1. จงอย่าทำลายข้อมูลใด ๆ ของระบบด้วยความจงใจ
2. จงอย่าพยายามเปลี่ยนแปลงไฟล์ใด ๆ ของระบบ นอกเสียจากว่าจำเป็นต้องทำ เพื่อไม่ให้ถูกแกะรอย หรือเพื่อให้สามารถกลับมาในระบบได้อีกครั้ง
3. จงอย่าทิ้งชื่อจริง หมายเลขโทรศัพท์ไว้บนระบบที่คุณแอบเข้าไป เพราะข้อมูลเหล่านี้จะนำมาซึ่งความไม่ปลอดภัย
4. พึงระวังในการแชร์ข้อมูลกับคนที่คุณไม่รู้จักอย่างแท้จริง ไม่รู้ชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ และ อาชีพ
5. อย่าบอกหมายเลขโทรศัพท์ของคุณให้ใครทราบ
6. จงอย่าพยายามแฮกเช้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐ เนื่องจากระบบเหล่านี้มักมีระบบรักษาความปลอดภัยสูงอยู่แล้ว นอกจากนี้คุณจะถูกตามล่าจนได้ ต่างจากระบบของเอกชนที่มักคำนึงถึงผลกำไรและค่าใช้จ่ายในการตามล่า ถ้าคุณไม่ได้เข้าไปทำลายข้อมูลที่สำคัญแล้ว เขาก็มักไม่เสียเวลามาตามล่าคุณ
7. ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้โค้ดหรือรหัสใด ๆ ที่ยาวเกินความจำเป็น
8. จงอย่าตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ข้อมูลใด ๆ ที่เก็บอยู่บนฮาร์ดดิสก์ให้พยายามเข้ารหัสเอาไว้เสมอ เพราะถ้าถูกจับจะไม่มีเวลาทำ พยายามซ้อนโน้ตต่าง ๆ ที่จดไว้ในที่ ๆ ปลอดภัย
9. พึ่งระมัดระวังการโพสต์ข้อมูลหรือข่าวบนกระดานข่าว ปกติแล้วแฮกเกอร์มืออาชีพจะไม่โพสต์ข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบที่เขาใช้งานอยู่ หรือถ้าจะโพสต์ก็มักไม่ระบุชัดเจน ส่วนใหญ่เป็นข้อความทั่ว ๆ ไปมากกว่า
10. อย่าที่จะถามคำถามกับแฮกเกอร์ที่มีประสบการณ์มากกว่า แต่ก็อย่าหวังว่าจะมีคนตอบคำถามให้คุณทั้งหมด
11. จงแฮก เริ่มต้นทำ อ่านข้อมูลใด ๆ ก็ได้ที่สนใจ
12. กรณีที่ถูกจับ ขอให้ปิดปากเงียบไว้ก่อน และรีบติดต่อทนาย
วิธีแฮกล็อกออนพาสเวิร์ดของวินโดวส์
เราสามารถแฮกพาสเวิร์ดของวินโดวส์ได้ด้วยวิธีง่าย ๆ หลายทาง ซึ่งผลการแฮกนี้ไม่มีอันตรายหรือก่อให้เกิดความเสียหายกับระบบ
วิธีแรก ทำดังนี้ หลังจากบูตเครื่อง ขณะที่กำลังจะเข้าวินโดวส์ให้คุณกดคีย์ F5 เพื่อบูตเข้าในเซฟโหมด หลังจากนั้นก็ให้เปิด Control Panel แล้วคลิกที่ไอคอน Password เพื่อแก้ไขพาสเวิร์ดใหม่
วิธีที่สอง ทำคล้ายวิธีแรก แต่ให้กดคีย์ F8 เพื่อเข้าไปที่ Startup Menu จากนั้นให้เลือกบูตเข้าที่ดอสพรอมต์ เพื่อเปลี่ยนนามสกุลไฟล์ c:\windows\*.pwl ให้เป็นนามสกุลอื่น เพราะไฟล์ *.pwl จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ ของยูสเซอร์แต่ละคน รวมทั้งพาสเวิร์ดด้วย หลังจากนั้นเมื่อบูตเครื่องใหม่ วินโดวส์จะเปิดโอกาสให้คุณตั้งพาสเวิร์ดใหม่เอง กรณีที่ต้องการใช้พาสเวิร์ดชุดเดิมก็เพียงแต่เปลี่ยนนามสกุลไฟล์เดิมกลับมาเป็น .pwl เท่านั้น
วิธีที่สาม ให้คุณใช้บูตดิสก์มาบูตเครื่องแทน เพื่อเข้าไปที่ดอสพรอมต์ จากนั้นก็ทำตามวิธีที่สอง ก็สามารถแก้ไขล็อกออนพาสเวิร์ดของวินโดวส์ได้
ก่อนจบ
ขอเน้นอีกครั้งว่าบทความนี้จะกล่าวถึงวิธีแฮกที่ทำกันสนุก ๆ เท่านั้นไม่มีอันตรายใด ๆ บทความตอนต่อไป ผมจะกล่าวถึงรายละเอียดของข้อมูลที่อยู่ในไฟล์ pwl และยูทิลิตี้สำหรับแฮกพาสเวิร์ดต่างๆ ที่เก็บอยู่บนเครื่อง โดยเฉพาะพาสเวิร์ดในการล็อกอินเข้าใช้อินเทอร์เน็ต
ขจร โรจนเมธินทร์