ผม อยากทราบว่า DES นี้ ทำไมปัจจุบัน เค้าไม่นำมา implement ใน application ใหม่ และ ผมทราบมาว่า ปัจจุบัน ยังมี applicationที่ยังใช้ DES อยู่ ผมอยากว่ามีเหตุผลอย่างไร
ผมรู้ช่วย อธิบาย ขยายความ ให้ ชัดเจนด้วย
ขอบคุณครับ
ผม อยากทราบว่า DES นี้ ทำไมปัจจุบัน เค้าไม่นำมา implement ใน application ใหม่ และ ผมทราบมาว่า ปัจจุบัน ยังมี applicationที่ยังใช้ DES อยู่ ผมอยากว่ามีเหตุผลอย่างไร
ผมรู้ช่วย อธิบาย ขยายความ ให้ ชัดเจนด้วย
ขอบคุณครับ
เพราะคอมพิวเตอร์สมัยนี้ เร็วกว่าแต่ก่อนที่คิดการเข้ารหัสแบบนี้ครับ สมัยนั้นการจะถอดรหัส DES ใช้เวลานานมากครับถึงแม้แค่ 56 บิทก็เถอะนะครับ เพราะคอมมันช้ามากครับ ตอนนั้นแค่แรม 16 kb ก็ดีสุดแล้วครับ แต่สมัยนี้คอมเร็วมาก แรมก็ซัดไป2-3กิกะไบต์ การจะถอดรหัสก็คงใข้เวลาไม่กี่นาทีหรือวินาทีเลยครับ ฉะนั้นการเข้ารหัสชนิดนี้จึงเลิกใช้ไป
DES มันเป็น Symmetric key ด้วยครับ ความเสี่ยงก็จะเกิดขึ้นตรงนี้ได้คือถ้าแจกจ่าย key กันไม่ดี ถ้ามีคนได้ key ไป เขาก็จะถอดรหัสเราได้ง่ายๆ ครับ
ถ้าไม่นับเรื่อง key นะครับ DES มีการทดลองแล้วว่าสามารถถอดรหัสได้ภายในวันเดียวครับ ถ้าเป็นเครื่องเร็วๆ ทุกวันนี้ผมว่ามันจะเร็วกว่านี้อีก
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงต้องขึ้นอยู่กับว่าเราเอาไปใช้งานไหนครับ ต้องการความปลอดภัยมากแต่ไหนครับ
ข้อเสียของ Des สมัยนี้มีเยอะมากครับ เช่น
- DES เป็นวิธีการเข้ารหัสแบบSymmetric key ถ้าคีย์ส่งกันไม่ดี ก้เสร็จผู้บุกรุกทำให้นำไปถอดรหัสได้ง่าย
- DES นั้น ใช้คีย์ขนาด 56 bit ซึ่งสมัยนี้ด้วยความเร็วของคอมพิวเตอร์ปกติ ก็สามารถถอดรหัสตัวคีย์ ได้ในเวลาไม่นาน
- มีวิธ๊การเข้ารหัสแบบที่ใช้ DES มาพัฒนาต่อ เช่น T-DES ซึ่งมีความสามารถในการเข้ารหัสดีกว่า DES จึงยื่งทำให้ตกกระป๋องเข้าไปใหญ่
อาจเพราะแบบนี้ จึงไม่ค่อยมีใครนำ implement DES ใน application ใหม่ๆ ครับ
ผิดหมวดย้ายไป Cryptography and Hidden message
Triple-DES เป็นอัลกอริทึมที่เสริมความปลอดภัยของ DES ให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้นโดยใช้อัลกอริทึม DES เป็นจำนวนสามครั้งเพื่อทำการเข้ารหัส แต่ละครั้งจะใช้กุญแจในการเข้ารหัสที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงเปรียบเสมือนการใช้กุญแจเข้ารหัสที่มีความยาวเท่ากับ 56*3 = 168 บิต Triple-DES ได้ถูก ใช้งานกับสถาบันทางการเงินอย่างแพร่หลาย รวมทั้งใช้งานกับโปรแกรม Secure Shell (ssh) ด้วย
เอามาจากคุณพิโคเน็ตเขียนไว้นะคะ และหากสนใจเรื่อง des และพอเข้าใจจาวาบ้างล่ะก็นี่เลยค่ะ
**Hidden Content: To see this hidden content your post count must be 1 or greater.**
มี source code ให้ลองศึกษาด้วย
เรากำลังทำโปรเจคด้านนี้อยู่ค่ะ มีอะไรpmคุยกันนะคะ
Actions : (View-Readers)
There are no names to display.