เนื่องจากตลาดมีศักยภาพในการเติบโตสูง พร้อมวางแผนขยายธุรกิจตอบสนองความต้องการใช้งานแบนวิธระหว่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้น...

นายบิล บาร์นีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัทแพคเน็ท กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์ของแพคเน็ท ในการขยายตลาดไปทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน แพคเน็ทยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างความเติบโตในประเทศไทย แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจ ขณะนี้ จะค่อนข้างท้าทาย และในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะเติบโตทางธุรกิจด้วยตัวเลขสองหลัก โดยแพคเน็ทมั่นใจว่าจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้อย่างแน่นอน ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องสำหรับการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย รวมถึงการเพิ่มจำนวนพนักงาน และการขยายขอบเขตโครงข่ายการเชื่อมต่อ

ซีอีโอ บ.แพคเน็ท กล่าวต่อว่า เพื่อความพร้อมในการให้บริการโซลูชั่นต่างๆ แก่กลุ่มลูกค้าในประเทศไทย โดยแพคเน็ทประเทศไทยได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 1 ประเภทขายต่อบริการ มาเรียบร้อยแล้ว เมื่อเดือน เม.ย.2552 ที่ผ่านมานี้ จึงให้บริการ IP Transit, IP VPN และ International Private Line (IPL) ในประเทศไทยได้ ทั้งนี้บริการบนไอพีแอพลิเคชันเหล่านี้ ช่วยให้ผู้ใช้บริการที่เป็นองค์ธุรกิจทั่วประเทศไทย เชื่อมต่อสื่อสารกับพันธมิตรและสำนักงานทั่วโลกได้ และได้ยืนขอใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 2 จากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เรียบร้อยแล้ว

นายบาร์นีย์ กล่าวอีกว่า จากสถิติของสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ชี้ให้เห็นถึงการหดตัวลง 7.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (จีดีพี) ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2552 ซึ่งนับเป็นไตรมาสที่มีอัตราการลดลงสูงสุดนับตั้งแต่วิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ แต่ความต้องการใช้งานแบนวิดธ์ในไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย TeleGeography คาดการณ์ว่า ความต้องการใช้งานแบนวิธระหว่างประเทศของไทย จะเติบโตขึ้นถึงเกือบ 10 เท่า จาก 43 Gbps ในปี 2551 เป็น 404 Gbps ในปี 2556

ซีอีโอ บ.แพคเน็ท กล่าวถึงแผนการลงทุนในประเทศไทยว่า แพคเน็ทมีแผนจะขยายโครงข่าย EAC-C2C เข้าสู่ประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการใช้งานแบนวิดธ์ระหว่างประเทศที่ไม่สามารถประมาณการณ์ได้นี้ผ่านโครงข่ายเคเบิ้ลใต้น้ำ คิดเป็นมูลค่ากว่า 300-400 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมทั้งการลงทุนสร้างโครงข่ายในประเทศประมาณ 5 ล้านเหรียญสหรัฐ และควบคู่กับการสร้างศูนย์ข้อมูลอีกประมาณ 20-50 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตามการลงทุนดังกล่าวแผนแผนการในอีก 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจ และนโยบายการสนับสนุนการใช้งานบรอดแบนด์ของรัฐบาลไทย

ด้าน นายริชาร์ด คาร์เดน กรรมการผู้จัดการ แพคเน็ท ภาคพื้นเอเชีย กล่าวว่า บริษัทฯ เชื่อว่าการสื่อสารโทรคมนาคมเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่ง ที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว หลังจากที่เศรษฐกิจกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว และเพื่อให้ ตอบสนองต่อความต้องการใช้งานการสื่อสารโทรคมนาคม ขององค์กรธุรกิจในไทยที่เพิ่มมากขึ้น แพคเน็ทพร้อมนำเสนอโซลูชั่นการสื่อสารผ่านโครงข่ายระหว่างประเทศและภายในประเทศ โดยการให้บริการจากแพคเน็ทเพียงหนึ่งเดียว

กก.ผจก.บริษัทแพคเน็ท ภาคพื้นเอเชีย กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังมีบริการด้าน Managed Services เต็มรูปแบบ เช่น โซลูชั่นการจัดการระบบความปลอดภัยบนเครือข่าย ซึ่งมีเป้าหมายที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจใช้เวลาในการบริหารจัดการสิ่งที่เป็นธุรกิจหลักของตน และแพคเน็ทจะเข้าไปช่วยดูแลการบริหารจัดการเครือข่าย และการเชื่อมต่อให้ตรงตามความประสงค์ของผู้ใช้บริการ โดยที่ผู้ใช้บริการไม่จำเป็นต้องลงทุนสร้างโครงข่ายเองด้วยงบประมาณจำนวนมาก