นายสมชาย โรจน์อัศวเสถียร ผู้อำนวยการกลุ่มผลิตภัณฑ์ บริษัท ชาร์ป ไทย จำกัด กล่าวว่า นับจากนี้ ชาร์ปไทย ส่วนการขายเครื่องถ่ายเอกสาร ได้ปรับกลยุทธ์องค์กรใหม่จากการขายเครื่องสู่กลุ่มลูกค้า 3 กลุ่มหลักผ่านตัวแทนจำหน่าย เป็นขายความรู้ด้านการบริการ และมุ่งกลุ่มลูกค้าระดับองค์กร ลักษณะโปรเฟสชั่นแนล บิซิเนส โซลูชั่นส์ โดยทีมขายตรง และทีมบริการด้านเทคนิคจากชาร์ปเอง


บริษัท คาดว่าจากการปรับแนวทางใหม่ ยอดขายจะเติบโต และส่วนแบ่งรายได้เพิ่มขึ้น เป็นอันดับ 3 ได้ภายใน 3 ปี หรือมีส่วนแบ่งตลาด 25% จากปัจจุบัน 14-15% อยู่อันดับ 4 ซึ่งครึ่งปีแรกยอดขายตลาดรวมตก 20% โดยชาร์ปตกแต่น้อยกว่าตลาด หรืออยู่ที่ 5% เพราะมีสินค้าครบเจาะทุกกลุ่มลูกค้า และมีสินค้าออกตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังบริหารต้นทุนได้ดีกว่าคู่แข่ง เนื่องจากมีโรงงานผลิตเครื่องถ่ายเอกสารในไทย 2 แห่ง จาก 4 แห่งในภูมิภาคเอเชีย ที่จีน และญี่ปุ่น โรงงานไทยผลิตเครื่องถ่ายเอกสารส่งทั่วโลก 90% อีก 10% ขายในประเทศ


ขณะเดียวกันตั้งเป้ารายได้จากส่วนสัญญาบริการเป็นสัดส่วน 50% เท่ากับการขายเครื่อง จากปัจจุบันที่รายได้จากส่วนสัญญาบริการมี 25% จากรายได้รวม


"แนวคิดบิซิเนส โซลูชั่น นี้จะช่วยลดต้นทุนให้องค์กรได้ดีขึ้นกว่าเดิมที่องค์กรอาจใช้เครื่องพรินเตอร์หลายเครื่องแต่ถ้าองค์กรจะประหยัดทั้งกระดาษ หมึกพิมพ์จากเครื่องพรินเตอร์ เพียงใช้เครื่องถ่ายเอกสารที่มีประสิทธิภาพเครื่องเดียวคุ้มค่ากว่าลดต้นทุนได้ไม่น้อยกว่า 30% ซึ่งจะคุ้มทุนเมื่อเปรียบเทียบกับการซื้อพรินเตอร์ และหมึกพิมพ์ในเวลา 3 ปี" นายสมชาย กล่าว


ทั้งนี้บริษัทได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับชาร์ป ประเทศญี่ปุ่นออกเครื่องถ่ายเอกสารขาว-ดำ รุ่นไทย ไดร์ฟเวอร์ จากโรงงานในไทย 6 รุ่น มีข้อพิเศษที่คำสั่งเมนูใช้ภาษาไทย คาดว่า จะมียอดขายกว่า 2 พันเครื่องในครึ่งปีนี้จากกลุ่มเอสเอ็มอีและกลุ่มราชการ


ด้านซีร็อกซ์ คอร์ปอเรชั่น สหรัฐอเมริกา และบริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ จำกัด ได้รับมอบหมายจากบริษัท พรอคเตอร์แอนด์แกมเบิล (พีแอนด์จี) ให้ร่วมกันบริหารงานพิมพ์ทั่วโลกให้ยักษ์คอนซูเมอร์แห่งนี้ ซึ่งระบบของทั้งคู่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายการดำเนินการของพีแอนด์จีได้ประมาณ 20-25% สัญญาต่อเนื่อง 5 ปี เริ่มตั้งแต่เข้าดำเนินการให้บริการด้านอุปกรณ์พื้นฐานของเครื่องพิมพ์ในสำนักงาน รวมทั้งสภาพแวดล้อมของสำนักงานที่เป็นโมบาย


สัญญานี้จะทำให้พีแอนด์จีดำเนินนโยบายการลดค่าใช้จ่ายได้อย่างยั่งยืน พร้อมๆ กับเพิ่มความพึงพอใจจากผู้ใช้งาน ทั้งลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับงานพิมพ์ถึง 30% และลดการใช้กระดาษปีละ 20-30%