**Hidden Content: To see this hidden content your post count must be 3 or greater.**
**Hidden Content: To see this hidden content your post count must be 3 or greater.**
ขอบคุณมากครับ สำหรับความรู้เรื่องระบบนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็หลงเข้าใจว่าระบบรักษาความปลอยภัยด้วยการแสกนใบหน้าที่เป็นหน้าเจ้าของเครื่องคนอื่นก็ไม่สามารถใช้งานได้จะมีช่องโหว่ที่นึกไม่ถึงเช่นนี้ด้วย
ไม่ต้องใช้ภาพถ่ายของเจ้าของเครื่องก็ได้ครับ
ผมลองเครื่องของเพื่อน แค่เอาหน้าตัวเอง ห่างจากกล้องไปไกลๆหน่อยให้มันพอจับหน้าได้ แล้วขยับไปมา มันก็ปลดลอคแล้วครับ
ผมว่าการป้องกันด้วยวิธีนี้มันไม่เวิคเท่าไหร่ แต่ก็สามารถป้องกันได้เพียงระดับนึงเท่านั้น
ถ้าจะให้ปลอดภัยขึ้นนะครับ ผมว่าใช้ระบบสแกนม่านตาดีกว่า แต่อย่างว่าล่ะครับมันแพงโขอยู่
คนที่ใช้ก็ต้องรวย+มีข้อมูลที่ลับมากด้วย
ผมว่าอะไรก็อาจจะกันไม่อยู่นะครับ ในอนาคต คิดว่าอย่างนั้นรึเปล่า แต่ผมว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราจะเก็บความลับนั้นได้นานแค่ไหนเท่านั้นเอง ผมมองแบบนี้มากกว่า เย้ ๆ
ขอบคุณมากครับ สำหรับความรู้เรื่องระบบนี้
เคยศึกษาแค่แนบไฟล์ไว้กับรูป คราวนี้แฮกได้ด้วยต้องศึกษาไว้เพื่อความปลอดภัยซะแล้ว ไม่งั้นเป็นเหยี่ยเทคโนโลยี ขอบคุณมากๆๆครับ
แต่ถ้าผู้รู้การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เขียนโปรแกรมที่ต้องใช้เนื้อที่ฮาร์ดิสมากหน่อยแต่สามารถจำรายละเอียดสูง ก็ดีซิครับเพราะจะทำให้โอกาสผลาดที่จะถูกแฮกน้อยแต่ก็ติดอย่างหนึ่งหากวันนั้นเจ้าของเครื่องเกิดถูกชกหน้าดูไม่ได้ไปสแกนก็คงต้องทำใจละครับ
ขอบคุณมากครับ สำหรับบทความดีๆแบบนี้
ระบบการป้งกันนั้นจะดีแค่ไหน แต่มันก็ไม่สมบูรณ์แบบเสมอไป ใช่ไหมครับ
การแสกนหน้าไม่มีการป้องกันที่ดีหรอกครับ
ผมเคยเห็นการ Hack การแสกนด้วยนิ้วมือจากภาพ ลายมือด้วย
เหอๆๆ เทียบกับรูปหน้าที่อยู่ห่างๆ กับนิ้วที่ติดกับเครื่องแสกน
นิ้วน่าจะปลอดภัยกว่า แต่แล้วก็ยังไม่ปลอดภัยจนถึงที่สุดอยู่ดี
Actions : (View-Readers)
There are no names to display.