ณ.ปัจจุบัน นี้กระแสความนิยมของการเล่นเกมส์นั้นรุ่นแรงมากทีเดียว มากจนถึงขนาดว่ามีเกมส์บางเกมส์นั้นเป็นข่าวขึ้น

หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์เป็นว่าเล่น ประเด็นมีอยู่ว่าข่าวที่ประโคมตีแผ่กันออกมานั้น นับวันจะทำให้ผู้ปกครองมีทัศคติที่

ไม่ได้ดี ต่อบุตรหลานของตนที่ชอบเล่นเกมส์ไปแล้ว โดยมองว่าเป็นการมอมเมามกมุ่นและเป็นสิ่งที่ไร้สาระ ในมุมมอง

ของพลเมืองประเทศไทยคนหนึ่ง ที่ไม่อยากให้คนไทยพ่ายแพ้สงคราม ที่ต่างชาติได้วางหลุมพลางดักเยาวชนของชาติไว้

โดยสิ่งประเทศเหล่านี้ได้ทำสงครามนี้โดยใช้ อาวุธชนิดหนึ่งที่ผมขอเรียกว่า "อาวุธถ่วงเวลา" ความหมายของมันก็คือ

เกมส์การละเล่นแบบหนึ่งธรรมดาๆ ที่ดูแล้วไม่มีพิษสงอะไร แต่มันสามารถทำให้ผู้ที่เป็นเหยื่อเต็มใจให้ตัวเองถูกถ่วงเวลา

โดยที่ผู้ที่ทำร้ายตนเองก็มิใช่คนอื่นไกลก็คือคุณๆทั้งหลายที่กำลังตกเป็นเหยื่อของ การละเล่นนี้ยังไง ที่ต้องยอมสละเวลา

เป็นหลาย 10 ชม. ในการเพลิดเพลินกับการทำสิ่งที่ตัวคุณเองไม่สามารถทำได้ในโลกแห่งความจริง

ลักษณะเช่นนี้ในทางจิตวิทยา "ซิกมัน ฟรอยด์" นักจิตวิทยาเอกของโลกได้กล่าวว่า "เมื่อความกดดันนั้นถูกปรุงแต่งก็

กลายเป็นวัฒนธรรมที่ดีงาม ซึ่งถ้าหากว่าความกดดันมีมากเกินที่จะปรุงแต่งได้ มันก็จะระเบิดออกมาในรูปแบบของความ

ก้าวร้าว ฯลฯ" กล่าวคือมนุษย์ทุกคนจะมีจิตใต้สำนึกและความอยากเป็นของตนเอง คืออยากที่จะทำสิ่งนู้นสิ่งนี้ ตามที่ใจ

คิด แต่ทว่าในโลกแห่งความจริงนั้น เงื้อนไขต่างของสังคมได้กำหนดสภาพกฏเกณฑ์ขึ้นมามากมาย ทำให้มนุษย์เราเอง

ต้องปรับเปลี่ยนสภาพความคิดของตนเอง เก็บกดความอยากของตนเอง จนเมื่อนานวันเข้าอาจกลายเป็นปมด้อยของตน

เองไป ยกตัวอย่างเช่น ถ้าในชีวิตจริงนาย ก. เป็นคนที่มักถูกคนอื่นรังแกเสมอ และไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้ ก็จะเก็บ

ความแค้นต่างๆไว้ในใจของตนเอง และเมื่อนาย ก. เข้าไปอยู่ในโลกของเกมส์แล้ว เขาก็เริ่มระบายสิ่งที่อัดอั้นเก็บกด อยุ่

ในจิตใจออกมาทั้งหมด เพราะในที่ที่เป็นโลกจำลองแห่งนี้ กฏเกณฑ์ต่างๆ ในชีวิตจริงไม่มีผลที่นี้ และเมื่อความรู้สึกอัด

อันได้รับการระบาย และตอบสนอง นานวันเข้า จิตใต้สำนึกของเขาเองจึงเกิดความฝั่งใจกับโลกจำลองแห่งนี้ ทำให้ในที่

สุดนาย ก. เริ่มใช้ชีวิตของตนเองที่ขาดหายไปในโลกแห่งนี้ โดยหารู้ไหมว่าตนเองนั้นกำลังตกเป็นทาสของ "อาวุธถ่วง

เวลา" มุมมองดังกล่าวได้สะท้อนว่า บุคคลเหล่านี้พยายามหลีกเหลียงตนเองออกจากความจริง หนีปัญหา ซึ่งเมื่อถึงที่สุด

ไม่ว่าเขาจะยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จในโลกแห่งนั้นเพียงใดที่ สิ่งที่เขาได้รับในโลกแห่งความเป็นจริงคือ "ความว่าง

เปล่า" .......... ในที่สุดเยาวชนของเราก็เป็นผู้แพ้สงครามนี้โดยยินยอมอย่างสิโรราบ

โดยสถาณะการณ์ปัจจุบันที่ประเทศของเราประสบอยู่นั้น พลเมืองไทยของเรากำลังไหลไปตามกระแสของสังคมโลก ที่ผู้

ที่ไม่รู้เท่าทัน ยอมถูกกระแสนี้กลืนกิน ถามว่าประเทศเพื่อนบ้านเราตอนนี้เขาไปถึงไหนกันแล้ว ? คำตอบก็คือ เขานำหน้า

เราไปหลายก้าวแล้ว ไม่ว่าจะเป็น

-สิงค์โปร์ ที่ประชากรของประเทศมีระเบียบวินัย มีความความสามารถมาก ประเทศมีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงทั้งที่ขนาด

ของประเทศเล็กกว่าขนาดของเมืองหลวงของเรามาก
-เวียดนาม ประเทศเล็กๆที่เคยถูกมองว่าล้าหลัง แต่ด้วยทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ และประชากรที่มีจิตสำนึกรักชาติ จาก

บาดแผลที่ถูกประเทศมหาอำนาจฝากไว้ ได้ผลักดันที่เยาวชนในชาติกระตือเรือร้นหาหนทางพัฒนาชาติอย่างมุ่งมั่นและ

ได้พิสูตรแล้วว่าเขาทำได้จริง โดยเมื่อปลายปี 2545 เยาวชนจากประเทศสามารถคว้าแชมป์ชนะเลิศการแข่งขันหุ่นยนต์

TPA ROBOT ชิงแชมป์ระดับเอเชียมา โดยสามารถพิชิตทีมต่างๆที่เป็นตัวเต็งทั้ง จีน ญี่ปุ่น ไปได้อยากน่าอัศจรรย์
-มาเลเซีย หลายคนคงเคยได้ยินข่าวการที่ไทยเรานำเข้าอุปกรณ์ทางเทคโนโลยีต่างๆมาจากประเทศนี้โดยอ้างอิงจาก

http://dtn.moc.go.th/web/61/325/337/401/thexp-my.gif เป็นผลให้มาเลเซียกลายเป็นประเทศคู้ค้าสำคัญระดับ

ต้นๆของ Asia และ ระดับโลกอ้างอิงจาก http://dtn.moc.go.th/web/61/93/tradew.gif จากข้อมูลข้างต้นทั้งหมดตี

ความได้ว่า คุณภาพประชากรเขามีศักยภาพมากกว่าประเทศเรา และมีการส่งเสริมการพัฒนาวบ้านเรา
-จีน ในอีกไม่กี่เดือนนี้ประเทศจีนกำลังประสบความสำเร็จในส่งยานอวกาศขึ้นสู่อวกาศ เทียบเท่ากับประเทศมหาอำนาจ

ต่างๆของโลกเลยที่เดียว จีนพึ่งเปิดประเทศไม่นานแต่ ระสบความสำเร็จในการปฏิรูปประเทศอย่างเกินความคาดหมาย

ไม่ว่าจะเป็น นโยบายการนำระบบประปฏิบัติการ Linux มาใช้แทน Windows อีกทั้งทักษะทางด้านเทคโนโลยีและหุ่นยนต์

เองก็เป็นที่น่าเกรงขามของประเทศอื่นเป็นอย่างมาก
-เกาหลี ประเทศที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับบทความนี้ เขากำลังทำให้เด็กไทยคลั่งในหลายๆอย่างที่เขาทำมา ตั้งแต่ การ์ตูน

ภาพยนต์ เกมส์ ฯลฯ ประเทศนี้เขาใช้เวลาพัฒนาเกมส์ไม่กี่ปี แต่สามารถมอมเมาเยาวชนประเทศเราได้ ทั้งชาติ (น่าเศร้า

จริงๆ..) ถ้าอยากรู้ว่าตอนนี้เขานำประเทศเราไปมาแค่ไหนแล้วเข้าไปดูที่

http://www.provision.co.th/pcdirect/index....mid=131&catid=2

กลับเข้าสู่ประเด็น หลายคนคงสัยกับข้อความหว่านล้อมต่างๆข้างต้น ว่ามีจุดประสงค์เพื่ออะไร สิ่งที่ผมต้องการชี้ให้เห็นก็

คือตอนนี้สถาณะการณ์โลกมันไม่เหมือนเดิมแล้ว เราควรเริ่มปลูกฝั่งความรักชาติให้มากกว่านี้ หนทางหนึ่งที่ผมขอเสนอ

ก็คือ การมารวมกลุ่มกันสร้างและพัฒนาเกมส์คอมพิวเตอร์กัน พอถึงจุดนนี้หลายคนอาจเกิดคำถามในใจว่า
แล้วเราจะเริ่มต้นอย่างไร? ทำไปแล้วจะสู้เขาได้เหรอ? ก่อนที่ผมจะตอบคำถามอยากให้ลองเข้ามาดูที่นี้

http://seri.kmutt.ac.th/cs02/citec/nectec/page_01.htm จากรูปภาพดังกล่าวเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าคนไทยเราเองก็มี

ความสามารถไม่แพ้ชาติใดในโลกเหมือนกันดังนั้น ถึงแม้ว่าเราจะก้าวไม่ทันเขา แต่ถ้าเราไม่เริ่มต้น ก็คงไม่มีวันที่เราจะทัน

เขาหรอกดังนั้นถ้าใครสนใจอยากทำในเรื่องนี้สามารถมาปรึกษาแลกเปลี่ยนความคิดกันได้ที่ เว็บบอร์ดของชุมนุม
http://seri.kmutt.ac.th/cs02/citec/forum/v....php?BoardID=26
และในช่วงปิดเทอมนี้อาจจะมีการจัดประชุมสัมนากันโดยเชิญผู้ที่มีประสบการณ์มาแนะนำ แนวทางการพัฒนายังไงก็

ติดตามความคืบหน้าได้จากเว็บบอร์ดนะครับ