Results 1 to 6 of 6

Thread: ข้อคิด ถูกนินทาว่าร้าย คิดอย่างไรจึงหายทุกข์

  1. #1
    Junior Member
    Join Date
    Apr 2009
    Posts
    8


    "ถูกนินทาว่าร้าย คิดอย่างไรจึงจะหายทุกข์"


    1. เป็นธรรมดาของโลก
    ให้คิดว่านี่เป็นธรรมดาของโลก ไม่เคยมีใครสักคนบนโลกนี้ที่รอดพ้นจากคำนินทา เพราะแม้แต่พระพุทธเจ้าของเรา ขนาดท่านเป็นผู้ที่ประเสริฐบริสุทธิ์สูงสุด แต่ท่านก็ยังไม่พ้นถูกคนพาลกล่าวโจมตีว่าร้ายจนได้ แล้วนับประสาอะไรกับเราที่เป็นแค่คนธรรมดาสามัญที่ยังมีทั้งดีและชั่วจะรอดพ้นปากคนนินทาไปได้ คิดอย่างนี้แล้วจะได้สบายใจว่า การถูกนินทานี่เป็นแค่เรื่องธรรมดา เกิดขึ้นมาพร้อมกับโลก (โลกธรรม) และ ยังคงมีอยู่ต่อไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย



    2. ให้มีจิตใจมั่นคงดุจภูผา

    ถ้าเรามีความบริสุทธิ์ใจ ทำการงานด้วยความตั้งใจปรารถนาดี แต่แล้วก็ยังไม่พ้นถูกคนนินทา กล่าวร้ายว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ก็ขอให้เรามีความมั่นใจในความดีของเรา อุปมาภูผาหินแท่งตันไม่หวั่นไหวในลมพายุฉันใด บัณฑิตผู้มีจิตใจหนักแน่นในความดี ย่อมไม่หวั่นไหวในคำสรรเสริญ และ คำนินทาแม้ฉันนั้น


    3.ให้มีจิตเมตตาสงสารผู้นินทา

    ให้คิดด้วยความเมตตากรุณาว่า คนที่นินทาเรานั้น ย่อมกระทำไปด้วยความอิจฉาริษยา เขาจะต้องเผาลนจิตใจของเขาให้ร้อนรุ่มเสียก่อน จึงจะสามารถพูดนินทาว่าร้ายคนอื่นออกมาได้ ให้คิดเมตตาสงสาร แทนที่จะไปโกรธเคืองเขา

    อนึ่ง คนที่ชอบกล่าววาจาส่อเสียด หรือ ชอบนินทาว่าร้ายผู้อื่น โดยปรกติเขาย่อมเป็นผู้หามิตรสหายที่ใกล้ชิดไม่ค่อยได้ เพราะไม่เคยมีใครไว้วางใจคนที่ชอบนินทาว่าร้ายผู้อื่น ให้คิดเห็นใจเขาในฐานะที่เขาต้องเป็นผู้อยู่ในโลกนี้ด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยว เพราะเขาย่อมหาเพื่อนแท้ไม่ได้


    4. คิดหาประโยชน์จากคำนินทา

    คนที่คิดกล่าวร้ายเรา บางทีเขาต้องไปนั่งคิดนอนคิดหาจุดอ่อนในตัวของเรา เพื่อเอามาพูดโจมตี บางทีจุดอ่อนเหล่านี้ตัวเราเองก็มีอยู่จริงแต่ทว่าเราไม่รู้ตัวมาก่อน นี้เป็นประโยชน์มาก เพราะเราสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาพัฒนาปรับปรุงตนเองได้ ดังนั้นเราจึงควรที่จะขอบคุณคนนินทาเรา เพราะเขาอุตส่าห์ไปนั่งคิดนอนคิดช่วยค้นหาข้อมูลมาช่วยให้เราปรับปรุงตนเอง


    5. คิดวิเคราะห์ให้เห็นปัญหาสังคม

    สังคมไทยเป็นสังคมที่มีความสัมพันธ์ในแนวดิ่ง คือเน้นเรื่องการใช้อำนาจครอบงำกันและกัน จึงมีการปลูกฝังสอนให้คิดแข่งดีแข่งเด่น คิดเหนือผู้อื่น สอนให้อยากเป็นใหญ่เป็นโต (มานะ) มาตั้งแต่โบราณ (คาดว่าไม่ต่ำกว่าห้าร้อยปี คือตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น) ทำให้คนไทยเรา เวลาเห็นใครทำดี ก็มักจะเกิดความริษยาโดยไม่รู้ตัว คือทนไม่ได้ที่จะเห็นคนอื่นดีกว่าตน

    สังคมที่มีความสัมพันธ์ในแนวดิ่งเช่นนี้ ผู้คนจึงมักจะชอบนินทาว่าร้ายกันและกันเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าคิดวิเคราะห์ได้เช่นนี้แล้วก็สบายใจ ไม่ต้องไปเดือดเนื้อร้อนใจอะไรมาก ให้ถือว่าการที่เราถูกนินทานี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ทางสังคมก็แล้วกัน มันเป็นเช่นนั้นเอง

    ในอนาคตไม่แน่ หากมีการศึกษาเรื่องพุทธธรรมกับสังคมไทยกันอย่างจริงจัง บางทีเราอาจจะสามารถเปลี่ยงแปลงความสัมพันธ์ทางสังคมจาก แนวดิ่ง ให้เป็น แนวราบ คือ คนไทยมีความเสมอภาคกัน ไม่ถืออำนาจเป็นใหญ่ แต่ถือความถูกต้องดีงามเป็นใหญ่ เมื่อถึงเวลานั้นสังคมที่เต็มไปด้วยการนินทาว่าร้ายก็จะลดน้อยลงไปเองตามธรรมชาติ แล้วภาษิตยอดฮิตที่ว่า สังคมเสื่อมถอยเพราะคนดีท้อแท้ หรือ ทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย จะได้เลิกใช้กันเสียที

  2. #2
    Junior Member
    Join Date
    Jul 2008
    Posts
    3


    ผมว่า ถ้าเราไม่รู้ ก็จะดีกว่า
    ถ้ารู้แล้ว ก็ลองพิจารณาว่าจริงรึเปล่า
    แต่ถึงแม้จะจริงหรือไม่จริง เราก็ไม่ควรตอบโต้
    ให้มันผ่านไป

  3. #3
    Junior Member
    Join Date
    May 2009
    Posts
    16


    อันนินทา กาเล

    เหมือนเททิ้ง

    ก้อนะครับ ต่างคนต่างความคิด นานาจิตตัง

    เราจะบังคับให้ใคร คิดอย่างไงกับเรามันคงไม่ได้อยู่เเล้ว

    ที่ทำได้คือ อย่าไปคิด อย่าไปสนใจ อย่ายึดติด กับสิ่ง ที่คนอื่นคิด

    ตัวกูของกู (ท่านพุทธทาส)คับ
    [b]LAW TU 52
    LAW THAM LAMPANG
    [quote][color=#FFCC00]เหลืองงของเรา คือธรรม ประจำจิต[/color]
    [color=#CC0000]เเดงของเรา คือโลหิต อุทิศให้[/color][/b][/quote]

  4. #4
    Junior Member
    Join Date
    May 2009
    Location
    Chiangmai
    Posts
    7


    มีคำคมบทนึงครับ ได้มาจากฝาผนังวัด จำได้ขึ้นใจตั้งแต่ตอนยังเป็นเด็กเล็กๆ เลยครับ

    ใครดุใครด่า ช่างเถิด
    ใครเชิดใครแช่ง ช่างเขา
    ใครว่าใครบ่น ทนเอา
    ใจเราร่มเย็น เป็นพอ

    ชอบมาเลยจำมาจนบัดเดี๋ยวนี้...

  5. #5
    Junior Member
    Join Date
    Feb 2009
    Posts
    2


    ผมว่านะครับ

    เวลาใครนินทาอะไรเราแล้วเนี่ย

    ก็ฟังไว้ก็พอ แล้วก็คิดเสียหน่อยว่า

    ที่เขาว่าเนี่ย ใช่เหมือนที่เขาว่าไหม

    ถ้าใช่ก็ปรับปรุง ถ้าไม่ใช่ก็เฉย ๆ ไม่ต้องไปอะไรมากครับ

    แต่บางทีคำนินทาที่ไม่มีที่มา หรือที่กุขึ้นมาเฉย ๆ นี่ไม่ต้องไปใส่ใจจะดีที่สุดคับ

    ถ้ามีคนมาถามเราเยอะ ๆ ว่า"ที่เขาพูดมานี่จริง หรือไม่ ก็ให้ตอบเขาไปเลยครับ "แล้วคิดว่าไงบ้าง"

    แล้วก็รับฟังความคิดเห็นเขาคับ

    วางใจเป็นกลาง

    จะมีแต่มิตรคับ

  6. #6


    เอาความจริงนำหน้าครับครับ
    1.ถามตัวเองว่าความจริงเราเป็นแบบนั้นหรือเปล่า
    2.ปรับปรุงตัวเองในจุดที่เขาเอาไปนินทา
    3.ให้อภัยเขาถ้าเขาผิด
    4.พยายามรักเขา
    5.ควรมีปฎิสัมพันธ์กับเขามากๆ

    ทุกคำตักเตือนเป็นสิ่งดี ทุกคำนินทาเป็นกระจกส่องตัวเรา เพื่อเราจะได้แต่งตัวของเราให้ดูดีเสมอ ต้องรู้จักใช้วิกฤษให้เป็นโอกาศ
    [color=#9999FF] By Bird Programmer
    Electronics_Software_Engineer[/color]

Similar Threads

  1. ข้อคิด-คตืธรรม เพื่อชีวิตที่ดี
    By Ann25 in forum ธรรมะ พุทธศาสนา
    Replies: 4
    Last Post: 16-10-2009, 05:57 PM
  2. Replies: 5
    Last Post: 16-08-2009, 12:32 PM
  3. Replies: 0
    Last Post: 07-08-2009, 06:27 PM
  4. ข้อคิด-แนวคิดให้ทันคน
    By nnn01 in forum ข้อคิดคำคม
    Replies: 0
    Last Post: 07-01-2009, 04:09 PM
  5. ๑๐ ข้อคิด หากคุณต้องไปเอนเตอร์เทน...!!
    By thanzero in forum ธรรมะ พุทธศาสนา
    Replies: 1
    Last Post: 03-01-2009, 02:17 PM

Members who have read this thread : 0

Actions : (View-Readers)

There are no names to display.

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •