ฮือฮาเมื่อไมโครซอฟท์ (Microsoft) ทดลองใส่กล่องเช็คบ็อกซ์ (checkbox) สำหรับให้ผู้ใช้งานวินโดวส์เซเว่น (Windows 7) เวอร์ชันทดลองสามารถคลิกเลือกเพื่อปิดการทำงานของโปรแกรมเว็บเบราเซอร์ไออี หรือ Internet Explorer 8 ได้ แม้ยังไม่มีคำมั่นจากไมโครซอฟท์ว่าจะวางจำหน่ายวินโดวส์เซเว่นพร้อมฟีเจอร์ นี้ แต่นักวิเคราะห์เชื่อ การเปิดทางให้ลูกค้าไมโครซอฟท์สามารถสมัครใจไปใช้โปรแกรมของค่ายอื่นจะเป็น ผลดีกับอุตสาหกรรม ขณะที่ไมโครซอฟท์จะหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาเรื่องพยายามผูกขาดตลาดซึ่งเป็นกรณี พิพาทกับอียูหรือสหภาพยุโรปมานานหลายปีได้

กล่องเช็คบ็อกซ์สำหรับปิดการทำงานไออีภายในวินโดวส์เซเว่น วินโดวส์เวอร์ชันใหม่ถัดจากวิสต้านี้ถูกนำมาเปิดเผยโดยบล็อกเกอร์ 2 รายนาม Bryant Zadegan และ Chris Holmes ทั้งสองพบเช็คบ็อกซ์นี้ระหว่างการทดสอบวินโดวส์เซเว่นรุ่นทดลองใช้งานหรือเบ ต้าเวอร์ชัน ก่อนจะโพสต์สกรีนแคปเจอร์หน้าตาเช็คบ็อกซ์พร้อมอธิบายวิธีการปิดการทำงานของ โปรแกรมพ่วงอื่นๆที่มากับวินโดวส์ เช่น โปรแกรมดูหนังฟังเพลงมีเดียเพลเยอร์ และโปรแกรมค้นหาข้อมูลในเครื่อง

อย่าง ไรก็ตาม วินโดวส์เซเว่นที่มาพร้อมเช็คบ็อกซ์นี้ยังคงเป็นเวอร์ชันทดสอบ ซึ่งยังไม่มีคำการันตีว่า ไมโครซอฟท์จะใส่ฟีเจอร์นี้ไปในวินโดวส์เซเว่นเวอร์ชันวางจำหน่ายจริงซึ่งจะ เปิดตลาดในปี 2010 หรือไม่ เพราะปกติแล้ว การทดสอบลักษณะนี้จะใช้เสียงตอบรับจากผู้ทดสอบมาประมวลเพื่อนำไปเปลี่ยนแปลง โปรแกรมให้เหมาะกับการจำหน่ายมากที่สุด แม้หลายฝ่ายจะปักใจเชื่อว่า ไมโครซอฟท์เดินแต้มนี้เพราะกรณีพิพาทเรื่องข้อหาผูกขาดการค้าซึ่งคณะ กรรมาธิการสหภาพยุโรปตั้งป้อมไว้นานหลายปี

ก่อนหน้านี้ อียูนั้นตั้งข้อสังเกตว่าไมโครซอฟท์กำลังพยายามผูกขาดตลาดด้วยการพ่วง ซอฟต์แวร์เบ็ดเตล็ดเช่น เว็บเบราเซอร์ มีเดียเพลเยอร์ และโปรแกรมอื่นๆไปกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ จนทำให้ผู้สร้างโปรแกรมรายอื่นไม่สามารถทำตลาดได้เนื่องจากผู้บริโภคที่ซื้อ วินโดวส์จะมีโปรแกรมเหล่านี้ใช้งานอยู่แล้ว ทึ่ผ่านมา อียูนั้นลงดาบทั้งการปรับทั้งยื่นคำขาดให้ไมโครซอฟท์ถอดโปรแกรมเหล่านี้ออก และลดราคาจำหน่ายวินโดวส์ลงเพื่อให้ผู้บริโภคมีสิทธิ์เลือก รวมถึงเรียกร้องให้ไมโครซอฟท์เปิดเผยซอร์สโค้ดวินโดวส์ให้นักพัฒนาของบริษัท อื่นสามารถสร้างโปรแกรมนานาชนิดเพื่อรันบนวินโดวส์ได้ ซึ่งจะทำให้เกิดการค้ายุติธรรมเสรีในที่สุด

ไมโครซอฟท์ตกลงยอมจำหน่ายวินโดวส์ที่ไม่มีโปรแกรมพ่วงแก่ผู้บริโภคใน ยุโรปแล้วในขณะนี้ แต่ไม่ได้เอ่ยถึงกรณีนี้เลยเมื่อโฆษกไมโครซอฟท์ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับ ฟีเจอร์ใหม่ในวินโดวส์เซเว่น โดยบอกว่าสิ่งที่ไมโครซอฟท์ทำคือการเปิดทางให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการทำงาน ของวินโดวส์เวอร์ชันใหม่ได้อย่างยืดหยุ่นตามใจต้องการ นอกจากโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ มีเดียเพลเยอร์ และวินโดวส์เสิร์ช ผู้ใช้ยังสามารถปิดโปรแกรมเขียนดีวีดี DVD Maker และโปรแกรมวิเคราะห์ลายมือหรือ Handwriting Recognition ทิ้งไปได้ด้วย

ยัง มีประเด็นที่น่าสนใจคือ ในบล็อกของ Holmes และ Zadegan ต่างชี้ว่าไม่มีวิธีใดที่จะป้องกันไม่ให้วินโดวส์เซเว่นติดตั้งโปรแกรมพ่วง เหล่านี้ ซึ่งผู้ใช้จะต้องลงมือตั้งค่าปิดการทำงานของโปรแกรมและบูตเครื่องใหม่ด้วย ตัวเองเท่านั้น

แม้จะเป็นเช่นนี้ ศาสตราจารย์นีล แบร์เรต (Neil Barrett) อดีตเจ้าหน้าที่คณะกรรมาธิการยุโรปก็ให้สัมภาษณ์ว่ายินดีที่ได้เห็นความ เปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของไมโครซอฟท์ เชื่อว่าจะเกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมกับผู้สร้างโปรแกรมในตลาด ขณะเดียวกันก็ทำให้ภาพรวมอนาคตการค้ายุติธรรมที่อียูต้องการนั้นมีความ ชัดเจนมากขึ้น

credit :manager.co.th