ธรรมะคือหลักสัจธรรม
นิยามแห่งหลักสัจธรรม สัจจะ คือความจริง ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ดำรงอยู่นิรันดร์ ธรรมะจึงเป็นสัจจะ ความจริงไม่เปลี่ยนแปลงได้ อดีตเป็น
เช่นไรปัจจุบันและอนาคตก็ยังคงเป็นอยู่เช่นนั้น เพราะฉะนั้นหลักสัจธรรมจึงเป็ฯหลักเกณฑ์ และความจริงที่สรรพสิ่งในสากลจักรวาลยึดเป็น
แนวในการดำรงและปฏิบัติ และเป็นสิ่งที่มิอาจขาดไปแม้ชั่วขณะ
ฟ้ามีสัจธรรมของฟ้า ธรรมอยู่กับฟ้าเบื้องบน เรียกว่าหลักธรรมของฟ้า หรือ กฎแห่งสวรรค์ ฟ้าเบื้องบนทรงไว้ซึ่งความเที่ยงธรรม สังเกตได้จาก
ดาวเคราะห์ต่างๆ ในระบบสุริยจักรวาลที่โคจรไปตามวิถีอย่างมีระเบียบ การผันเปลี่ยนของฤดูกาลทั้ง 4 ที่เป็นไปตามกาลวาระ และแสงอาทิตย์
ที่สาดส่องให้ ความอบอุ่นแก่มวลชีวีโดยไม่แบ่งแยก ฯลฯ
ดินมีสัจธรรมของดิน ธรรมะอยู่กับดิน เรียกว่า หลักธรรมของดิน หรือ หลักภูมิศาสตร์ ฟ้าได้กำเนิดสรรพชีวิต ส่วนดินมีหน้าที่ในการอุ้มชูชุบ
เลี้ยง
สรรพชีวิต เราปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหารชนิดใด ดินก็ย่อมให้ผลตามชนิดที่เราปลูก นอกจากนี้ ดินยังให้ชีวิตชีวาความชุ่มฉ่ำกับภูผา แม่น้ำและทุก
สิ่งบนผืน ปฐพี
มนุษย์มีหลักสัจธรรมของมนุษย์ ธรรมะอยู่กับมนุษย์ เรียกว่า หลักธรรมญษณ หรือ จิตญาณ ธรรมญาณนี้มีต้นกำเนิดมา จากฟ้าเบื้องบน เป็น
ธรรมญาณที่บริสุทธิ์ไร้ มลทิน ไม่เกิด ไม่ดับ เป็นภาวะอัมตะ และเหตุที่เพราะมนุษย์มีธรรมญาณอันวิสุทธิ์นี้ จึงได้ชื่อว่า เป็นสัตว์ประเสริฐที่
สุด สูงสุด กว่าสัตว์อื่นๆ ทั้งหลายและเป็นผู้ใหญ่ ภายใต้ ฟ้าดิน
เมื่อเป็นเช่นนี้ มนุษย์จึงควรปฏิบัติตนให้สอดคล้องกับหลักธรรมญาณ ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ของฟ้าดิน จึงเรียกได้ว่าเป็นมนุษย์ที่แท้จริง "
ศีรษะชี้ฟ้า เท้าเหยียบดิน" ยืนหยัดด้วยความเที่ยงตรง ดังคำโบราณที่กล่าวว่า :"ปฏิบัติตามครรลองฟ้าจึงอยู่ได้ ไม่ปฏิบัติตามครรลอง
ฟ้าจึงตาย"
ฟ้าสนองตามหลักธรรมของฟ้าทรงคุณธรรมของฟ้า ทรงคุณธรรมในการให้กำเนิดสรรพสิ่ง ดินสนองตามหลักธรรมของดินทรงคุณธรรมในการ
ฟูมฟักอุ้มชูสรรพชีวิต ส่วนมนุษย์อยู่ท่ามกลางฟ้าและดิน ฉุดช่วยมวลเวไนย เช่นนี้แล้ว บรรยากาศแห่งความกลมเกลียวสมานฉันท์ และความ
ผาสุกรื่นรมย์อันเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติแต่ดั้งเดิม ก็จะหวนกลับคืนกลับมาบนโลกมนุษย์อีก
ด้วยเหตุนี้ การรรับธรรมจึงเป็นการฟื้นฟูพุทรจิตธรรมญาณเดิม ให้มนุษย์ได้เห็นแจ้งจิตเห็นธรรมญาณแท้ และสามารถอาัศัยหลักธรรมแห่งฟ้าคู่
กับกัลยาณจิตแห่งหลักธรรมญาณของมนุษณ์ในการดำรงและปฏิบัติตน[/size]