Page 1 of 2 12 LastLast
Results 1 to 10 of 16

Thread: ใครสนใจเรื่อง Quantum Computer บ้าง เชิญๆๆ

  1. #1
    Member
    Join Date
    Mar 2008
    Location
    Thailand
    Posts
    62


    ในปัจจุบันแล้วถึงระบบ Computer จะก้าวหน้าไปเยอะถึงขนาดที่จะคำนวณและเก็บข้อมูลขนาดมากๆ ได้ในเวลาไม่นาน แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะนำมาใช้ในการคำนวณการถอดรหัส เช่น การถอดรหัสพันธุกรรม หรือ การถอดรหัสต่าง ๆ อีกมากมายซึ่งจะใช้เวลานานมากซึ่งบางทีอาจจะถึง 100 ปีขึ้นไปเลยทีเดียวจึงมีผู้คิดพัฒนา Quantum Computer ขึ้นมาซึ่งการทำงานของ Quantum Computer สามารถคำนวณในระดับ Bit ได้ในครั้งเดียว เช่น จะถอดรหัสขนาด “XXX” ซึ่งถ้าเป็น Computer ที่ใช้กันตามบ้านทั่วไปจะใช้เวลาการถอดรหัสถึง 2n แต่ถ้าใช้ Quantum Computer จะใช้เวลาเพียง n เท่านั้นมีนักวิทยาศาสตร์เคยตั้งสมมุติฐานว่า ถ้าคำนวณข้อมูลขนาด 250 บิต Computer ทั่วไปจะใช้เวลาคำนวณถึง 100 ปี แต่ Quantum Computer สามารถคำนวณโดยใช้เวลาไม่เกิน 4 นาที เท่านั้นซึ่งมีประโยชน์มากถ้านำมาใช้ในวงการแพทย์หรืออื่นๆ แต่ทั้งนี้ ก็ยังมีผลเสียที่ทวีคูณเช่นกัน โดยบรรดาเหล่านักเจาะระบบต่างๆ จะนำ Quantum Computer ไปเจาะรหัสเพื่อที่จะขโมยข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายด้วยเช่นกัน ทำให้ในปัจจุบัน Quantum Computer เป็นเรื่องที่น่าสนใจยิ่งขึ้น

    **Hidden Content: To see this hidden content your post count must be 2 or greater.**




    ติดตามตอนต่อไปเด้อ !! ใครมีรัยเพิ่มเติมก็แบ่งได้ครับ !!

  2. #2
    Member
    Join Date
    Mar 2008
    Location
    Thailand
    Posts
    62


    เอานิยามของ Quantum Bits มาฝากครับ
    เป็นที่รู้กันว่าการทำงานของคอมพิวเตอร์จริง ๆ แล้วก็คือการประมวลผล "Binary Digit" หรือ bit ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สุดที่ใช้บอกสถานะการทำงานและข้อมูล ข้อมูล 1 bit มีสองสถานะ คือ "0" กับ "1" ตามนิยามของเลขฐานสอง ในกรณีของ quantum computing จะใช้สถานะของอนุภาคเป็นตัวแทนของ bit แต่เนื่องจาก coherent superposition อนุภาคตัวเดียวจึงแทนได้ทั้งสถานะของ 0 และ 1 ในเวลาเดียวกัน ทำให้สามารถ encode อนุภาคนั้นให้เป็นทั้ง 0 และ 1 ได้ในครั้งเดียว เรียกอนุภาคที่เป็นตัวแทนข้อมูลที่มีสองสถานะนี้ว่า "quantum bit" หรือ "qubit" ใน information theory กล่าวไว้ว่าเมื่อเอาหลาย ๆ bits มาต่อกันก็จะสามารถแทนสถานะหรือข้อมูลได้หลายรูปแบบมากขึ้น อย่างเช่น register ขนาด 3 bits จะสามารถแทนได้ 8 สถานะเป็นต้น อย่างไรก็ตามในขณะเวลาหนึ่งจะมีเพียงสถานะเดียวปรากฏอยู่ใน register นั้น แต่ถ้าเปลี่ยน 3-bit register เป็น 3-qubit register จะกลายเป็นว่าในขณะเวลาหนึ่งจะมีทั้ง 8 สถานะปรากฏอยู่เพราะแต่ละ qubit เป็นทั้ง 0 และ 1 ในขณะนั้น ดังนั้น register ขนาด n qubits จะสามารถเก็บข้อมูลได้ 2n ตัวในครั้งเดียว ซึ่งต่างจาก computer ธรรมดาและต่างจาก parallel computing ที่รู้จักกัน เพราะ parallelism ใน quantum computing เกิดขึ้นตั้งแต่หน่วยที่เล็ก ที่สุดในการประมวลผล การทำงานจึงเป็นแบบขนานตั้งแต่ qubit การประมวลผลเพียงครั้งเดียวกับ qubit register จะเป็นการประมวลผลข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่ใน qubit register นั้น เปรียบเทียบ n-qubit quantum computer กับ n-bit computer ซึ่ง n-qubit quantum computer ประมวลผล ข้อมูล 2n ตัวในครั้งเดียว ในขณะที่ n-bit computer ต้องประมวลผล 2n ครั้ง หรือใช้ computer 2n ตัวช่วยกันประมวลผล ยิ่ง n มากเท่าไร quantum computer ยิ่งได้เปรียบเพราะเพิ่มขึ้นแบบ exponential

  3. #3
    Jedi Global Moderator akira's Avatar
    Join Date
    Nov 2006
    Posts
    538


    เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากครับ เนื่องจากเป็นการบูรณาการศาสตร์ทางฟิสิกส์ที่เกี่ยวกับกลศาสตร์ควอนตัมเข้ากับเทคโนโลยีสารสนเทศ และระบบการประมวลผล แต่เรื่องนี้ยังไงมันก็ยังเป็นเรื่องยากของคนที่เรียนต่างสาขาวิชาในการทำความเข้าใจสาขาอื่น เช่นกลศาสตร์ควอนตัมตามปกติ ก็ไม่ใช่ว่านักฟิสิกส์สาขาอื่นจะเข้าใจ เนื่องจากมีคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนพวงใหญ่เกินกำลังคนจะคำนวณ หรือต่อจะให้นักคณิตศาสตร์มาดูเขาก็อาจจะไม่เข้าใจนิยามของฟังก์ชั่นคลื่น หรือนักฟิสิกส์ก็ที่ออกแบบอัลกอลิทึ่มสำหรับการคำนวณเชิงควอนตัม หรือสร้างซอฟท์แวร์ได้ก็อาจจะไม่เข้าใจถึงขีดจำกัดทางด้าน โซลิดสเตท ที่ใช้ทำฮาร์ดแวร์ หรือไม่เข้าใจถึงโครงสร้างสามมิติของโมเลกุลสารอินทรีย์ที่ขับเคลื่อนวงจรไฟฟ้า
    ในตอนแรกที่ท่าน Programure ให้ผมช่วยขยายความเรื่องนี้ ผมก็ลองไปแปลบทความในหนังสือ แปลไปแล้วก็ติดเรื่องคำศัพท์ และ เรื่องความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องนั้นๆทำให้ต้องค้นข้อมูลเพิ่มไปเรื่อยไม่เสร็จซะที กลัวเดี๋ยวท่านจะเสียใจ น้อยใจที่อุตสาหะตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาแล้วไม่มีคนสนใจ

    วันนี้ได้หาการบรรยายที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่เผยแพร่โดย กูเกิ้ลเทคทอล์ค (Google TechTalks) เป็นการบรรยายเกี่ยวกับ ควอนตัมคอมพิวเตอร์ ถึงสามวัน สามชั่วโมงกว่าๆ

    **Hidden Content: To see this hidden content your post count must be 1 or greater.**


    Padawan ท่านใดมีความสนใจ หรือเชี่ยวชาญด้านใดบ้าง ก็แสดงตัวได้เลยครับ โพสต์ได้เต็มที่
    " I think computer viruses should count as life. I think it says something about human nature that the only form of life we have created so far is purely destructive. We've created life in our own image."

    —Stephen Hawking




  4. #4
    Junior Member
    Join Date
    Jan 2009
    Posts
    7


    เรื่อง quantum computing เนี่ย ผมเองก็ติดตามมานานแล้วครับ ปัญหาทางทางทษ. หลักเลยคือเรื่องหลักของความไม่แน่นอน ของไฮเซ็นเบิร์ก ทำให้ผมเชื่อว่าคงจะทำให้เกิดขึ้นจริงไม่ได้ครับ หรือถ้าจะเกิดขึ้นจริง ก็ต้องมีเครื่องมือวัดที่แม่นยำในระดับที่เล็กกว่าอนุภาคเกิดขึ้นมาเสียก่อนครับ เ พราะถ้าเราวัดมันได้ไม่แม่นยำซะแล้ว ถามต่อไปว่าเราจะเชื่อผลที่คำนวณออกมาได้หรือครับ?

    ทั้งนี้ทั้งนั้น เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมไม่ใช่นักฟิสิกษ์แต่อย่างใด

  5. #5
    Member
    Join Date
    Mar 2008
    Location
    Thailand
    Posts
    62


    History of Quantum Cryptography
    ในช่วงศตวรรษที่ 1830 - เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกถูกสร้างขึ้นโดย Charles Babbage เป็นเครื่องจักรไอน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถโปรแกรมการทำงานได้ร้อยกว่าปีถัดมาในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง Alan Turing เปลี่ยนแนวคิดของ Babbage ให้กลายเป็นทฤษฎี พื้นฐานของการประมวลผลข้อมูลที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ปัจจุบันในช่วงเวลาเดียวกัน Claude Shannon คิดค้น information theory ขึ้นมาเป็นตัวรองรับการประมวลผลข้อมูลโดยใช้คอมพิวเตอร์ Turing, Shannon และ John Von Neumann ร่วมกันสร้าง ENIAC - Electronic Numerical Integrator and Calculator ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ electronic เครื่องแรกของโลก ทำงานโดยพื้นฐานของ logic '0' และ '1' โดยอาศัยหลอดสุญญากาศเป็นสื่อแทนค่า 0/1 ในปี 1960 หลอดสุญญากาศก็ถูกแทนที่ด้วย transistor ต่อมาไม่นานก็มีการยุบ transistor หลาย ๆ ตัวรวมเป็นแผ่นวงจร ทุกวันนี้สามารถบรรจุ transistor หลายล้านตัวอยู่ในแผ่นวงจรรวมขนาดไม่กี่ตาราง มิลลิเมตร ก็ 0.18 micron technology ถ้ายังคงย่อขนาดลงไปเรื่อยๆ สุดท้ายคงจะต้องสร้าง logic gate จากอะตอมหรืออนุภาคไม่กี่ตัว ปัจจุบันอาจจะสร้าง gate แบบได้โดย nanotechnology แต่ด้วยขนาดที่เล็ก หมายถึงกำลังเดินข้ามขีดจำกัดของฟิสิกส์ คุณสมบัติของ logic gate จะต่างจาก gate ทั่ว ๆ ไป นักวิทยาศาสตร์ทราบดีว่าในระดับอนุภาค ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นยากที่จะใช้ฟิสิกส์ทั่วไปมาทำนายได้ แต่ก็ยังมีแขนงวิชาหนึ่งที่สามารถทำนายปรากฏการณ์ในโลกระดับ sub-atomic ได้นั่นก็คือ "quantum mechanics" ซึ่งเป็นที่มาของ "Quantum computing" 1




    Quantum cryptography >>> click

    **Hidden Content: To see this hidden content your post count must be 3 or greater.**


  6. #6
    Junior Member
    Join Date
    Jan 2009
    Posts
    7


    History of Quantum Cryptography
    encode 0/1 ลงในอนุภาคแล้วส่งอนุภาคนั้นไปให้ B
    [/b]
    ปัญหามันอยู่ที่ว่า จะ "ส่ง" อนุภาคไปให้นาย B ได้อย่างไร โดยไม่ถูกรบกวนกลางทางซะก่อนหน่ะซิครับ โลกมันกว้างกว่าห้องทดลอง ผมยังนึกไม่ออกเลยจะส่งไปให้อีท่าไหน?

    แต่ idea นี่ดีมาก เพราะว่าประยุกต์ืทษ. หลักความไม่แน่นอนมาใช้ได้อย่างเป็นรูปธรรมที่สุด เพราะว่า photon มันเล็กซะจนไม่มีทางที่เราจะไปวัด/แตะต้อง/อ่านค่า มันได้ โดยที่ไม่มีการรบกวนสถานะของมันเลย ดังนั้น แต่คุณพยายามอ่านมัน ค่ามันก็เปลี่ยนไปแล้วครับ

  7. #7
    Jedi Global Moderator akira's Avatar
    Join Date
    Nov 2006
    Posts
    538


    ส่งผ่านโฟตอนครับ ด้วย quantum teleportation


    **Hidden Content: To see this hidden content your post count must be 1 or greater.**
    " I think computer viruses should count as life. I think it says something about human nature that the only form of life we have created so far is purely destructive. We've created life in our own image."

    —Stephen Hawking




  8. #8
    Member
    Join Date
    Mar 2008
    Location
    Thailand
    Posts
    62


    Quantum teleportation คือ การเคลื่อนย้ายข้อมูลระหว่างอะตอมแบบไร้สัมผัส

    **Hidden Content: To see this hidden content your post count must be 2 or greater.**


  9. #9
    Member
    Join Date
    Mar 2008
    Location
    Thailand
    Posts
    62


    Building Quantum computers
    **Hidden Content: To see this hidden content your post count must be 5 or greater.**

  10. #10
    Member
    Join Date
    Mar 2008
    Location
    Thailand
    Posts
    62


    Potocal ปัจจุบันนี้มีโปรโตคอลต่าง ๆ จำนวนมาก แต่ก็มีเพียง 2-3 โปรโตคอลเท่านั้นที่นำมาศึกษาทดลอง นั่นคือ
    BB84 protocol หรือ 4- State protocol ซึ่งเสนอโดย Bennett และ Brassard ในปี ค.ศ 1984 ที่ใช้สมบัติการมีโพลาไรเซชั่นของโฟตอนเดี่ยวและหลักความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์ก ( Heisenberg Uncertainty Principle ) เป็นแกนหลักในการรักษาความปลอดภัยของระบบ
    B92 Protocol ซึ่งเสนอโดย Bennett ในปี 1992 เช่นเดียวกับ BB84 แต่ใช้สถานะ ของโฟตอนในการสร้างและส่งรหัสเพียง 2 สถานะ
    EPR protocol เสนอโดย Ekert ในปี 1991 การรักษาความปลอดภัยของระบบอาศัยความสัมพันธ์ของอนุภาคคู่ตามสมมุติฐานของไอสไตน์ที่เสนอไว้ในปี 1935 B92 และ EPR protocol แหล่งกำเนิดสามารถกำเนิดโฟตอนเดี่ยวได้จริง ดังนั้นจะมีจำนวนโฟตอนเพียงตัวเดียวเท่านั้นที่ถูกเข้ารหัสทางควอนตัมในแต่ละครั้งของการส่งสัญญาณ จึงทำให้มั่นใจได้ 100 % ว่าสามารถตรวจพบบุคคลอื่นที่ลักลอบเข้ามาในระหว่างการสื่อสาร แต่ทั้งสองโปโตคอลมีข้อจำกัดคือ อัตราการส่งสัญญาณที่ต่ำ อีกทั้งเครื่องตรวจวัดโฟตอนเดี่ยว Ge-PAD ( Ge-Avalanche Photodetector ) ยังไม่ได้รับการพัฒนา โดยต้องการการทำงานที่อุณหภูมิประมาณ 37 K และมี
    ประสิทธิภาพในการตรวจจับโฟตอนเดี่ยวเพียงประมาณ 10 % จึงไม่เหมาะกับการทำงานในสภาวะแวดล้อมจริง ซึ่งตรงข้ามกับ BB84 Protocol ที่เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องได้รับการพัฒนาเป็นอย่างมากโดยเฉพาะ Si-Sing-Photon Avanlanche Photodetector ที่ใช้เป็นตัวตรวจจับโฟตอนเดี่ยวได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างมาก ทั้งทางด้านประสิทธิภาพในการตรวจจับโฟตอนเดี่ยว (  50 % ) และการทดลองของสัญญาณรบกวน ( Dark Count Rate ) ทำให้ระบบควอนตัมคริปโตกราฟฟีตามแบบ BB84 ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง4,5,6
    ในปัจจุบันนี้ได้มีงานวิจัยที่บ่งชี้ว่าควอนตัมคริปโตกราฟฟีไม่จำกัดอยู่แต่เฉพาะผู้รับและผู้ส่งเพียงสองคนเท่านั้นแต่สามารถกระจายการสื่อสารเป็นระบบเครือข่าย และไม่จำกัดอยู่แต่เฉพาะการสื่อสารบนภาคพื้นดินเท่านั้น โดยทีมนักวิจัยที่ Los Alamos Nation Laboratory ได้ประสบผลสำเร็จในการสร้างระบบควอนตัมคริปโตกราฟฟีติดต่อสื่อสารระหว่างภาคพื้นดินกับดาวเทียมเมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่อย่างไรก็ตาม การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับ ควอนตัมคริปโตกราฟฟียังเป็นเพียงการเริ่มต้นและต้องอาศัยความรู้ประกอบในหลายสาขาวิชาด้วยกัน

Page 1 of 2 12 LastLast

Similar Threads

  1. visual information for the quantum age
    By akira in forum Quantum technology
    Replies: 0
    Last Post: 07-02-2010, 01:57 AM
  2. Code for 'Unbreakable' Quantum Encryption
    By akira in forum Quantum technology
    Replies: 3
    Last Post: 09-01-2010, 01:15 AM
  3. Replies: 0
    Last Post: 09-07-2009, 12:53 AM
  4. Replies: 0
    Last Post: 12-01-2009, 11:23 PM
  5. Quantum malware
    By akira in forum Hacking/Cracking's E-book
    Replies: 0
    Last Post: 27-02-2008, 05:25 PM

Members who have read this thread : 0

Actions : (View-Readers)

There are no names to display.

Tags for this Thread

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •