:: 50 Tips การใช้งานคอมพิวเตอร์ในแบบที่ไม่ซ้ำใคร

สืบเนื่องมาจากที่ผ่านมามีคุณผู้อ่านหลายคนอีเมล์และโทรศัพท์เข้าสอบถามเกี่ยวกับบทความในลักษณะที่เป็น Smart Tips นั้นมีประโยชน์ต่อการทำงานและช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างมาก จึงอยากใหทางทีมงานช่วยจัดสรรบทความในลักษณะนี้ให้อีกครั้ง ดังนั้น ครั้งนี้เราจึงมี 100 Smart Tips ที่ผมยืนยันได้ว่าเป็นทิปใหม่...ไม่มีซ้ำ มานำเสนอ โดยเราจะแบ่งเป็น 2 ภาคเพื่อให้ท่านผู้อ่านไม่เบื่อไปซะก่อนที่จะอ่านครบ 100 ทริป นะครับ.

อ้างอิงจาก itharem.com




[hide=2]1. ?ทัชแพด? ของโน้ตบุ๊กเอ๋อ...?
มีใครเคยเจอปัญหาแบบนี้บ้างมั้ยครับ ? ปัญหาทัชแพดของโน้ตบุ๊กตัวเก่งที่เริ่มทำงานไม่แน่นอนเหมือนเมื่อก่อน อย่างเช่น บางทีเคอร์เซอร์ก็เคลื่อนที่ตามนิ้ว บางทีก็หยุดนิ่งไปซะอย่างนั้น แม้จะลองติดตั้งไดรเวอร์จากแผ่นซีดีที่มากับโน้ตบุ๊กแล้ว หรือดาวน์โหลดซอฟต์แวร์บนเน็ตมาติดตั้งเข้าไปด้วยแล้ว ก็ยังคงมีปัญหาเหมือนเดิม

ในกรณีนี้ ข้อเท็จจริงที่คุณต้องทราบก่อนเลยก็คือ มันมีสาเหตุมากมายที่จะทำให้ทัชแพด (Touchpad) มีปัญหา ซึ่งรวมถึงการทำน้ำ หรือกาแฟหกรดบนตัวมัน การใช้งานที่หนักเกินไป (เช่น ใช้เล่นเกม) ตลอดจนอายุการใช้งานที่อาจจะนานเกินไปแล้ว ซึ่งหากเกิดจากเหตุผลที่ว่ามาทั้งหมดนี้ มันก็อาจถึงเวลาที่คุณต้องเปลี่ยนทัชแพดอันใหม่แทนอันเดิม นั่นหมายความว่า มันอาจจะยากเกินไปที่จะแก้ไขด้วยตัวเอง ยกเว้นเสียแต่ว่าคุณเป็นคนที่ถนัดในการรื้อถอนประกอบเครื่องนะครับ แต่ก็ต้องถามตัวเองด้วยว่า มันคุ้มหรือเปล่าที่ต้องทำอย่างนั้น หรือบางทีทัชแพดรุ่นที่ใช้อาจเลิกผลิตไปแล้วก็ได้ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ การซื้อเมาส์มาใช้งานแทนน่าจะง่ายกว่ามั้ยครับ
อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณยืนยันว่าต้องการใช้ทัชแพดจริงๆ ตามร้านค้าในห้างไอทีต่างๆ ก็จะมีทัชแพดที่สามารถเชื่อมต่อพอร์ต USB มากมายมาขายในราคาที่ไม่แพงหรอกครับ

2. เปลี่ยนชื่อเจ้าของโน้ตบุ๊ก?
สำหรับผู้ที่นิยมชมชอบสินค้ามือสอง อย่างเช่น เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก และต้องการแก้ชื่อเครื่องจากเจ้าของคนเดิมให้เป็นชื่อของตัวคุณ ซึ่งเป็นเจ้าของคนล่าสุดนั้น ผมมีวิธีการทำแบบง่ายๆ มาบอก ดังนี้

ถ้าหากโน้ตบุ๊กของคุณทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows XP Home และเป็นลิขสิทธิ์แท้ๆ ที่มาพร้อมกับโน้ตบุ๊ก ก็ให้คุณเข้าไปแก้ได้จากใน Registry ครับ โดยขั้นแรกเปิดโปรแกรม Registry Editor ขึ้นมาก่อน จากนั้นคลิ้กปุ่ม Start เลือกคำสั่ง Run (หรือกดปุ่ม Windows + R) แล้วพิมพ์คำสั่ง regedit และคลิ้กปุ่ม OK

เมื่อหน้าต่างโปรแกรม Registry Editor ปรากฏขึ้นมา ให้สังเกตที่กรอบด้านซ้ายมือจากนั้นคลิ้กเครื่องหมาย + หน้ารายการต่างๆ ไปเรื่อยๆ โดยเรียงตามลำดับข้างล่างนี้

HKEY_LOCAL_MACHINESOFTWAREMicrosoftWindows NTCurrentVersion

เมื่อคลิ้กเข้าไปถึงโฟลเดอร์ CurrentVersion แล้ว ให้สังเกตรายการที่อยู่ในกรอบทางขวามือ คลิ้กเลือกรายการที่ชื่อว่า RegisteredOwner คลิ้กเมนู Edit ตามด้วย Modify ในไดอะล็อกบ็อกซ์ Edit String ลบชื่อเจ้าของโน้ตบุ๊กคนเก่า (ชื่อเพื่อนคุณ) ออกไป แล้วพิมพ์ชื่อใหม่ที่คุณต้องการเข้าไปแทน จากนั้นคลิ้กปุ่ม OK ปิดหน้าต่างโปรแกรม แล้วรีบูตเครื่อง เพียงแค่นี้ ชื่อเจ้าของโน้ตบุ๊กก็จะเปลี่ยนเป็นชื่อที่คุณตั้งใหม่แล้ว

3. ชุบชีวิตจุดบอด (Dead Pixel) ในจอแอลซีดี
มีคุณผู้อ่านเมล์เข้ามาถามผมว่า ได้ซื้อจอแอลซีดีมาจากร้านค้าแห่งหนึ่ง และเมื่อใช้ได้ประมาณ 3 เดือนกว่าๆ ก็เพิ่งจะสังเกตเห็นว่า บริเวณกลางหน้าจอเป็นจุดสีแดงค้างเติ่งอยู่อย่างนั้น ประมาณ 3-4 จุด จะยกไปเปลี่ยนทางร้านก็ไม่สามารถทำได้ จึงอยากทราบวิธีแก้ไข
ผมขออธิบายอย่างนี้นะครับ จุดบอดที่ปรากฏในจอแอลซีดีที่คุณพูดถึงนั้น ทางเทคนิคเขาเรียกว่า Dead Pixel ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญตัวหนึ่งในการเลือกซื้อจอประเภทนี้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่อง Dead Pixel ยังพอมีทางบรรเทาให้มันดีขึ้นได้บ้างเหมือนกัน

มีรายงานหลายฉบับที่ระบุว่า การทำให้พิกเซลที่บอดได้รับความร้อนสามารถแก้ปัญหาได้ ซึ่งในทางทฤษฎีแรงกดเบารอบๆ Dead Pixel จะช่วยผลักดันให้ผลึกเหลวในตัวกลับเข้าไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ได้ (ประมาณว่า ฟื้นคืนชีพให้กับ Dead Pixel ได้ยังไงยังงั้น) โดยในทางปฏิบัติ ให้คุณปิดจอแอลซีดีก่อน แล้วใช้ผ้าอ่อนนุ่มมาถูบริเวณที่พบ Dead Pixel ประมาณ 10 ? 15 วินาที จากนั้นก็เปิดจอแอลซีดีให้ทำงานโดยต้องสัมผัสบริเวณที่ถูด้วยผ้า ซึ่งมันอาจจะเกิดเสียงเบาๆ ให้ได้ยิน ก็ไม่ต้องตกใจ ลองดูจุดบอดในจอแอลซีดีอีกครั้ง บางทีอาจมีข่าวดีให้คุณได้เฮก็ได้ แต่มีข้อควรระวังก็คือ อย่าถูจอแรงเกินไป เพราะมันอาจทำให้คุณได้จุดบอดเพิ่มขึ้นแทนนะครับ

4. ยกเลิกการแสดงรายชื่อไฟล์ที่เพิ่งเปิดดูล่าสุด
สืบเนื่องจากมีผู้อ่านคนหนึ่ง ต้องการทราบวิธียกเลิกไม่ให้ปุ่ม Start แสดงรายชื่อไฟล์ที่เพิ่งเข้าไปดูก่อน ซึ่งคุณสมบัติที่ว่านี้เราเรียกว่า Recently Viewed Documents (แสดงรายชื่อไฟล์ที่เปิดขึ้นมาดูก่อนหน้านี้ ในออปชัน Documents ของเมนู Start)

โดยปกติผู้ใช้สามารถลบรายชื่อไฟล์เหล่านี้ออกไปได้อย่างง่ายดาย โดยคลิ้กขวาบนทาส์กบาร์เลือกคำสั่ง Properties คลิ้กแท็บ Start Menu แล้วคลิ้กปุ่ม Customize?ในกรอบ Start menu คลิ้กปุ่ม Clear แล้วคลิ้กปุ่ม OK เพียงแค่นี้ รายชื่อไฟล์ที่เปิดขึ้นดูก่อนหน้านี้ก็จะหายไปหมดแล้ว แต่เมื่อคุณเปิดไฟล์ใดๆ ขึ้นมาดู รายชื่อไฟล์เหล่านั้นก็จะมาปรากฏอยู่ใน Documents อยู่ดี

สำหรับการปิดคุณสมบัติการทำงานนี้ ผู้ใช้จะต้องแก้ไขในรีจิสทรี โดยคลิ้กปุ่ม Start -> Run พิมพ์ regedit แล้วกดปุ่ม Enter เข้าไป HKEY_CURRENT_USERSoftwareMicrosoftWindowsCurrentVersionPoliciesExplorer แล้วคลิ้กขวาบทพื้นที่ว่างในกรอบด้านขวามือ เลือกคำสั่ง New -> DWORD Value ตั้งชื่อ NoRecentDocsMenu จากนั้นดับเบิลคลิ้กบนไอเท็มนี้ กำหนดค่า (Value data เป็น 1 คลิ้กปุ่ม OK ปิดโปรแกรมแล้วรีสตาร์ตเครื่องใหม่

5. Windows อ่านแผ่น CD แบ็กอัพไม่ได้!!!
คงไม่มีอะไรยากไปกว่าความพยายามกู้ข้อมูลจากแผ่นซีดีที่คอมพิวเตอร์ไม่รู้จัก หรือเปิดอ่านข้อมูลได้ แต่ก็ใช่ว่าจะหมดหวัง เนื่องจากมีโปรแกรมที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ แต่อาจจะต้องลงทุนสักหน่อย เนื่องจากซอฟต์แวร์ดังกล่าวมีราคา 29.50 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณหนึ่งพันสองร้อยบาท) คุณสามารถไปดาวน์โหลดโปรแกรมตัวนี้ซึ่งมีชื่อว่า CDRoller (http://www.cdroller.com/htm/download.html) มาลองใช้ช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อทดลองว่า มันช่วยคุณได้จริงหรือไม่ ?

อย่างไรก็ดี มันมีวิธีอื่นอยู่บ้างเหมือนกัน เช่น ไม่เรียกเปิดแผ่นซีดีจาก Windows Explorer โดยตรง แต่เรียกผ่านหน้าต่างคำสั่ง DOS แทน ซึ่งถ้าโชคดี คุณอาจจะไม่ต้องเสียเงินแม้แต่สตางค์แดงเดียว โดยขั้นแรกคลิ้กปุ่ม Start -> Run พิมพ์คำสั่ง command กด Enter เมื่อหน้าต่างดอสปรากฏขึ้นมาแล้ว ให้พิมพ์ชื่อไดรฟ์ซีดีรอม (ที่มีแผ่นซีดีเจ้าปัญหาอยู่ภายใน) ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็น D: (ลองสำรวจในหน้าต่าง My Computer ว่าไดรฟ์ซีดีรอมของคุณชื่ออะไร) กดปุ่ม Enter

จากนั้นพิมพ์คำสั่ง dir D: แล้วกด Enter สังเกตว่า มันมีการแสดงรายชื่อโฟลเดอร์ และไฟล์ต่างๆ ที่อยู่ในแผ่นซีดีขึ้นมาหรือไม่ ? ถ้าโชคดีคุณจะเห็นพวกมัน จากนั้นสร้างโฟลเดอร์ในไดรฟ์ C: ด้วยคำสั่ง md c:cdbackup แล้วกดปุ่ม Enter จากนั้นพิมพ์คำสั่ง xcopy *.* c:cdbackup /s /e กดปุ่ม Enter เพียงแค่นี้ โฟลเดอร์ และไฟล์ข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในแผ่นซีดีจะถูกก๊อบปี้ลงไปในโฟลเดอร์ cdbackup ในไดรฟ์ C: แล้วครับ ลองทำดูนะครับ

6. แทรกความเห็นในเอกสารเวิร์ดด้วยเสียง ?
การแสดงความคิดเห็นด้วยการบันทึกเสียงพูดฝังเข้าไปในไฟล์เอกสารเวิร์ดเป็นคุณสมบัติการทำงานที่มีมานานพอสมควรแล้ว ซึ่งความจริงการใช้งานในลักษณะดังกล่าวน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว แต่จะด้วยความที่ผู้ใช้ไม่ได้ให้ความสำคัญ หรือไม่ทราบมาก่อนว่า มันทำได้ จึงไม่ค่อยมีการสอบถามเรื่องนี้สักเท่าไร

การฝังเสียงเข้าไปในไฟล์เวิร์ดทำได้ง่ายมาก สิ่งที่คุณต้องเตรียมก็จะมีไมโครโฟนที่ใช้ต่อกับคอมพิวเตอร์ (ตัวละประมาณร้อยกว่าบาท) หรือที่มาพร้อมกับโน้ตบุ๊กของคุณก็ได้ จากนั้นเปิดโปรแกรมเวิร์ด แล้วโหลดไฟล์เอกสารของคุณขึ้นมา คลิ้กเมาส์บนตำแหน่งที่ต้องการแทรกความคิดเห็น (Comments) เข้าไป กดคลิ้กเมนู Insert -> Comment หน้าจอโปรแกรมเวิร์ดจะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน

โดยส่วนของการใส่ความคิดเห็นจะปรากฏอยู่ในกรอบด้านล่างของหน้าเอกสารเวิร์ด คลิ้กบนไอคอนรูปเทปคาสเซตต์ (ถ้าเป็นเวิร์ดเวอร์ชันเก่าจะต้องคลิ้ก Insert -> Comment -> Voice Comment หรือคลิ้กลูกศรชี้ลงข้างปุ่ม Comment ที่มีลักษณะเหมือนรูปโพสต์อิตสีเหลืองที่ถูกพับมุมล่างขวา แล้วเลือก Voice Comment)
เมื่อโปรแกรม Windows Sound Recorder ปรากฏขึ้นมา ให้คลิ้กปุ่มบันทึก แล้วบันทึกข้อความคอมเมนต์ของคุณจนพอใจ ค่อยคลิ้กปุ่ม Stop พียงแค่นี้ เสียงพูดแสดงความคิดเห็นของคุณก็จะปรากฏเป็นไอคอนรูปลำโพงในเอกสารของคุณแล้ว

7. โน้ตบุ๊กมีโอกาสเสีย 20% หลังจากใช้ไป 3 ปี
จะว่าไป ทิปนี้แม้จะไม่ใช่การแก้ไขปัญหาทางด้านเทคนิคโดยตรง แต่ข้อมูลก็ค่อนข้างน่าสนใจ และผมเชื่อว่า คุณผู้อ่านสามารถนำไปประเมินเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กตัวเก่งได้ว่า ใกล้จะถึงเวลาต้องเปลี่ยนอะไหล่ตัวไหนกันแล้วหรือยัง ?
มีรายงานวิจัยประจำปีระบุว่า โน้ตบุ๊กที่ซื้อ ณ วันนี้มีโอกาสเสีย หรือพบข้อบกพร่องของการทำงานประมาณ 15 % และจะขยับเพิ่มขึ้นเป็น 20 % เมื่อใช้งานไปประมาณ 3 ปี

สำหรับอัตราการเสียของเครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ทอป และโน้ตบุ๊กของเมื่อ 2 ปีก่อนจะอยู่ที่ประมาณ 25 % แต่มันก็ยังมีโอกาสที่จะพัฒนาให้เสถียรภาพในการทำงานของคอมพิวเตอร์ดีขึ้นได้ อ้างอิงข้อมูลจากรายงานผลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับอัตราการเสีย หรือพบข้อบกพร่องในคอมพิวเตอร์ของ บริษัทวิจัย การ์ทเนอร์ อิงค์ โดยรายงานดังกล่าวมีการแสดงตัวเลขที่สะท้อนให้เห็นทั้งข่าวดี และข่าวร้าย ซึ่งข่าวดีก็คือ การลดลดของตัวเลขอัตราการเสียของคอมพิวเตอร์ แต่ข่าวร้ายประจำปีนี้เห็นจะหนีไม่พ้นข้อสรุปที่ว่า โน้ตบุ๊กที่ซื้อวันนี้จะยังคงมีอัตราการเสียเพิ่มขึ้นจาก 15 % ไปจนถึง 20 % ภายใน 3 ปี

อ้างอิงจากผลรายงานวิจัยยังอีกพบว่า ในส่วนของโน้ตบุ๊ก ต้นตอของความเสียหายของระบบที่ทำให้มันมีอายุการใช้งานน้อยกว่า 2 ปีก็คือ แผงวงจรหลัก (mainboard) และฮาร์ดดิสก์ ตามด้วยตัวถังของเครื่อง ซึ่งรวมถึง ตัวล็อกฝา ข้อพับ ขาตั้ง และส่วนประกอบที่แตกหักได้ (คีย์บอร์ด หน้าจอ) ส่วนคอมพิวเตอร์เดสก์ทอป ปัญหาใหญ่จะอยู่ที่แผงวงจรหลัก และฮาร์ดดิสก์ โดยในส่วนของแผงวงจรหลักจำนวนของการเปลี่ยนใหม่แทนแผงวงจรที่เสียมีอัตราเพิ่มขึ้นตลอดเวลา อันเป็นผลมาจากการเพิ่มวงจรการทำงานต่างๆ เข้าไปในแผงวงจรหลักมากขึ้นนั่นเอง ซึ่งความเสียหายของฮาร์ดแวร์ที่ใช้ในการทำวิจัยนี้จะหมายถึง การซ่อมบำรุงในลักษณะที่ต้องมีการเปลี่ยนชิ้นส่วนอุปกรณ์ใหม่เข้าไปแทนที่ชิ้นส่วนเดิม ทราบผลการวิจัยอย่างนี้ก็คงจะพอประเมินได้แล้วนะครับว่า อุปกรณ์ตัวไหนที่เราต้องเตรียมตัวเปลี่ยนก่อน และผมขอเรียกทิปนี้ว่า ?รู้ไว้ก็ไม่เสียหาย? ก็แล้วกันนะครับ

8. ตรวจสอบพื้นที่ว่างทุกไดรฟ์ในคราวเดียว
มาถึงทิปเทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณสามารถรีวิวสถานภาพ และขนาดของพื้นที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์ทุกตัวที่อยู่ในเครื่องคุณ รวมถึงฮาร์ดดิสก์บนเครือข่าย และไดรฟ์ที่เชื่อมต่อภายนอกทุกชนิดได้พร้อมกัน ขั้นแรกเปิดหน้าต่าง My Computer หรือ Windows Explorer (กดปุ่ม Windows + E) ซึ่งภายในหน้าต่างจะแสดงไดรฟ์ทั้งหมดที่เชื่อมต่ออยู่กับเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ จากนั้นกดปุ่ม Ctrl ค้างไว้ แล้วคลิ้กเลือกไฮไลต์ไอคอนไดรฟ์ที่ต้องการรีวิว เสร็จแล้วปล่อยปุ่ม Ctrl คลิ้กขวาบนไดรฟ์ทั้งหมดที่ถูกเลือกไว้ คลิ้กเลือกคำสั่ง Properties ไดอะล็อกบ็อกซ์ที่ประกอบด้วยแท็บต่างๆ ที่แสดงคุณสมบัติ และกราฟการใช้พื้นที่ของแต่ละไดรฟ์จะปรากฏขึ้นมาให้คุณเลือกคลิ้กดูได้อย่างสะดวกสบาย ลองทำตามดูนะครับ

9. ต้องการล็อกไดรฟ์ CD/DVD ?
คุณผู้อ่านคนหนึ่งอีเมล์เข้าถามผมว่า เนื่องจากหลานชายชอบแอบติดตั้งแผ่นซีดีโปรแกรมเกมเข้าไปไว้ในโน้ตบุ๊กอยู่บ่อยๆ หรือบางครั้งเพื่อนที่มหาวิทยาลัยก็ชอบแอบเอาซีดีรวมโปรแกรมประหลาดๆ มาติดตั้งโปรแกรมป่วนเข้าไปในเครื่อง จึงอยากทราบว่า พอจะมีวิธีล็อกไม่ให้ใครมาแอบเปิดไดรฟ์ซีดีรอมได้หรือเปล่า ? คงต้องบอกว่าทั้งไดรฟ์ CD และ DVD ที่มาพร้อมกับพีซี หรือโน้ตบุ๊กจะว่าไปแล้วก็อาจจะเป็นจุดที่หลายคนมองข้าม ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วคือเป็นหนึ่งจุดอ่อนของเรื่องความปลอดภัยได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าใครบางคนต้องการขโมยไฟล์ข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ เขาก็เพียงแค่บูตเครื่องขึ้นใหม่ด้วยแผ่นซีดีที่บูตได้

ซึ่งทำให้เขากระโดดข้ามขั้นตอนการป้อนพาสส์เวิร์ดของวินโดวส์ เพื่อเข้าถึงไฟล์ต่างๆ ในเครื่องของคุณได้ทันที เช่นเดียวกัน ขณะที่คอมพิวเตอร์ถูกเปิดให้ทำงานทิ้งไว้ มันก็เป็นเรื่องง่ายเหลือเกินในการที่ผู้ไม่หวังดีจะแอบโหลดโปรแกรมอันตรายผ่านไดรฟ์ซีดีรอมเข้าไปในคอมพ์ของคุณ หรือแม้แต่การแอบเขียนไฟล์ต่างๆ จากในเครื่องลงบนแผ่นซีดีเปล่าในช่วงระหว่างที่คุณเปิดเครื่องทิ้งไว้
ปัญหาของคุณยังไม่ร้ายแรงเท่ากับตัวอย่างที่ผมเล่าให้ฟังไปแล้วข้างต้น อย่างไรก็ตาม วิธีง่ายๆ ที่พอช่วยได้ก็คือ ล็อกไดรฟ์ของคุณ โดยใช้ยูทิลิตีแจกฟรีชื่อว่า CD-ROM Lock http://www.cdrom-lock.de/Downloads/CDRom-L..._061_withVB.exe หลักการทำงานของโปรแกรมก็จะง่ายมาก เพียงแค่ยกเลิกคำสั่งเปิดช่องใส่แผ่นซีดี (eject command) เพียงแค่นี้ ไดรฟ์ซีดีรอมของคุณก็ไม่ได้ถูกเปิดกันง่ายๆ อีกต่อไปแล้ว

สำหรับยูทิลิตีตัวนี้พัฒนาขึ้นด้วยภาษา VB โดยจะมีขนาดไฟล์โปรแกรมพร้อมไลบรารี่ประมาณ 1.6 เมกะไบต์ (ไฟล์ .EXE) หลังจากติดตั้งโปรแกรมเสร็จแล้ว เมื่อเรียกโปรแกรมขึ้นทำงาน คุณจะเห็นไอคอนซีดีขนาดเล็กใน System Tray ให้คุณคลิ้กบนไอคอนโปรแกรม หน้าต่างโปรแกรม CD-Lock จะปรากฏขึ้นมา เพื่อแสดงสถานะของการล็อกขณะนั้น เมื่อคลิ้กเลือก Lock ไดรฟ์ซีดีที่ต้องแล้ว คลิ้กปุ่มย่อขนาด (minimized) หน้าต่างก็เป็นอันเรียบร้อย ในกรณีที่ต้องการล็อกทุกไดรฟ์คลิ้กเลือกเช็กบ็อกซ์หน้าข้อความ all CD/DVD drives คลิ้ก Lock แล้วคลิ้กปุ่ม OK เพียงแค่นี้ทุกไดรฟ์ก็ถูกล็อกเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม หากแค่นี้คุณยังรู้สึกยังไม่ปลอดภัย คุณก็ยังสามารถตั้งพาสส์เวิร์ดให้กับการล็อกได้อีกด้วย โดยคลิ้กเมนู Edit เลือก Preferences คลิ้กเลือกเช็กบ็อกซ์หน้าข้อความ Password protection จากนั้นคลิ้กปุ่ม Set password เพื่อกำหนดรหัสผ่านตามที่ต้องการ ง่ายดีไหมครับ (แนะนำว่า ผู้ใช้ควรกำหนดให้โปรแกรมนี้เริ่มทำงานตอนเปิดเครื่อง (startup) และกำหนดให้ล็อกทันทีที่เปิดโปรแกรมใน preferences ครับ)
หมายเหตุ : เนื่องจากโปรแกรมนี้พัฒนาโดยโปรแกรมเมอร์ชาวเยอรมัน ผู้ใช้สามารถแก้เมนูให้แสดงภาษาอังกฤษได้ด้วยการคลิ้กเมนูในรายการ Bearbeiten เลือก Optionen แล้วเลือก English ในกรอบ Sprache ตามด้วยปุ่ม Apply ครับ)

10. ซอฟต์แวร์ยกเลิกการแจ้งเตือนวินโดวส์เถื่อน
รายงานข่าวแจ้งว่า Firewallleaktester.com เว็บไซต์ทดสอบไฟร์วอลแห่งหนึ่งได้จัดทำเครื่องมือซอฟต์แวร์ที่สามารถหยุดการทำงานของระบบแจ้งเตือนการใช้ซอฟต์แวร์ Windows เถื่อนของ WGA (Windows Genuine Advantage) ได้ ซึ่งทางบริษัทอ้างว่า ซอฟต์แวร์ RemoveWGA จะไม่ส่งผลกระทบกับองค์ประกอบการทำงานของซอฟต์แวร์ ?Validation? ของไมโครซอฟท์แต่อย่างใด

ทั้งนี้ซอฟต์แวร์ที่ทางบริษัทพัฒนาขึ้นมานั้นตั้งเป้าไปที่ส่วนของซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่แจ้งเตือน?notifications? เท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้โมดูลซอฟต์แวร์ดังกล่าวสามารถเชื่อมการติดต่อกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของไมโครซอฟท์ เพื่อส่งข้อมูลเกี่ยวกับการเซตอัพซอฟต์แวร์บนเครื่องคอมพ์ของผู้ใช้
FirewallLeak Tester ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการทำงานของ WGA ว่า เมื่อเครื่องมือดังกล่าวตรวจสอบชุดก๊อบปี้ของ Windows เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่เห็นว่ามันมีเหตุผลอะไรที่ต้องทำการตรวจสอบซ้ำทุกครั้งที่บูตเครื่อง ซึ่งการที่มีการเชื่อมต่อกลับไปยังไมโครซอฟท์ทำให้เกิดประเด็นไม่ไว้วางใจในเรื่องของความปลอดภัยของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในองค์กรธุรกิจ ตลอดจนความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

ก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟต์ได้ออกชุดแพตช์เร่งด่วนที่มาพร้อมกับการติดตั้งซอฟต์แวร์แจ้งเตือน WGA เข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ ทั้งๆ ที่มันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแก้ไขช่องโหว่แต่อย่างใด ทำให้ผู้เชี่ยวชาญบางรายระบุว่า โมดูลซอฟต์แวร์ดังกล่าวทำตัวเหมือนเป็น ?สปายแวร์?
คำเตือน : เนื่องจากไม่มีการรับรองถึงความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ตัวนี้ ดังนั้น ก่อนใช้งานควรเซต restore point ให้กับ System Restore ไว้ด้วย เผื่อว่า หากมีข้อผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้น หลังติดตั้งมันเข้าไปจะได้ไม่ต้องลง Windows กันใหม่ให้เสียเวลา

11. รู้จัก Widgets ของเล่นบนเดสก์ทอป
มีใครคุ้นกับศัพท์ไอทีคำนี้บ้างหรือยัง ? ?Widgets? (ออกเสียงว่า ?วิจิตส์?) ซึ่งคำนี้ไม่เพียงแต่จะได้รับการพูดถึงกันอย่างแพร่หลายบนอินเทอร์เน็ตเท่านั้น แต่ในระบบปฏิบัติการตัวต่อไปอย่าง Windows Vista ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติการทำงานที่เรียกว่า Windows Sidebar ที่ทำหน้าที่เป็นภาชนะรองรับพวก Widgets ให้สามารถทำงานบนเดสก์ทอปได้อย่างลงตัวอีกด้วย อ๊ะอ๊ะ อยากรู้จักพวกมันแล้วใช่ไหม ?
วิจิตส์ (Widgets) หมายถึง แอพพลิเคชันขนาดเล็กที่ทำงานในลักษณะที่เป็นส่วนหนึ่งของเดสก์ทอป เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถอัพเดตข้อมูลข่าวสารในรูปแบบมัลติมีเดียที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของวิจิตส์ผ่านอินเทอร์เน็ตได้ทันที ยกตัวอย่างเช่น ป้ายแสดงผลฟุตบอลโลก ที่สามารถอัพเดตผลการแข่งขันแต่ละคู่โดยใช้ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต

ทั้งนี้มันจะแสดงผลการแข่งขันผ่านอินเทอร์เฟซของวิจิตส์ที่ผู้ใช้นำมาแปะไว้บนเดสก์ทอปได้แบบเรียลไทม์ ข้อดีของมันก็คือ คุณจะได้รับประโยชน์จากพวกมันได้โดยไม่ต้องมานั่งสั่งรันโปรแกรมให้เสียเวลาแต่อย่างใด เนื่องจากมันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเดสก์ทอปของคุณไปแล้วนั่นเอง
อย่างไรก็ดี ก่อนที่คุณจะดาวน์โหลดวิจิตส์ที่ต้องการ คุณจะต้องติดตั้งกลไกพิเศษที่ทำหน้าที่เหมือนภาชนะสำหรับดาวน์โหลด และรันวิจิตส์เหล่านี้เสียก่อน โดยสามารถดาวน์โหลดได้ที่ http://widgets.yahoo.com

เมื่อดาวน์โหลดมาแล้ว ขั้นตอนการติดตั้งอย่างง่ายจะปรากฏขึ้นบนหน้าจอ เพียงแค่ทำตามคำสั่งก็สามารถติดตั้งได้อย่างสมบูรณ์ และหลังจากโปรแกรมติดตั้งแนะนำวิธีใช้เสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณก็จะพบกับวิจิตส์ต่างๆ จำนวนหนึ่งลอยเด่นขึ้นมาบนเดสก์ทอปของคุณทันที โอ้ววว....จอร์จ...มันสุดยอดจริงๆ เลยนะเนี่ยย

สิ่งที่อยากจะแนะนำมือใหม่ที่หัดใช้วิจิตส์ก็คือ คุณควรจัดสรรพื้นที่เฉพาะสำหรับไอคอนโปรแกรมปกติไว้ที่ด้านซ้ายของเดสก์ทอป เพื่อเหลือพื้นที่ไว้สำหรับวิจิตส์ อีกวิธีหนึ่งก็คือ การเลือกใช้สีแบ็กกราวนด์เข้มๆ โดยคลิ้กขวาบนพื้นที่ว่างของเดสก์ทอป เลือกคำสั่ง Properties คลิ้กแท็บ Desktop เลือกสีที่ Color : ซึ่งจะทำให้คุณเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง (ไอคอนโปรแกรม และวิจิตส์) ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น หลังจากที่คุณติดตั้งกลไกการทำงานร่วมกับวิจิตส์บนเดสก์ทอปของคุณเรียบร้อยแล้ว คุณจะพบว่าไฟล์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะถูกจัดเก็บไว้ในโฟลเดอร์ My Documents ของคุณ และถ้าคุณต้องการวิจิตส์อื่นๆ เพิ่มเติมก็สามารถดาวน์โหลดได้ที่ http://widgets.yahoo.com/gallery/ ซึ่งที่นี่จะมีวิจิตส์ให้ดาวน์โหลดไปใช้หลายพันรายการ ตั้งแต่พยากรณ์อากาศ ไปจนถึงรายงานผลฟุตบอลโลก
สมมติว่า คุณดาวน์โหลดวิจิตมาตัวหนึ่ง วิธีสั่งให้มันทำงานก็ง่ายมาก เพียงดับเบิลคลิ้กบนไอคอนของวิจิตส์ และเมื่อไรที่คุณต้องการถอดถอนวิจิส์ออกจากเดสก์ทอป หรือเปลี่ยนแปลงค่ากำหนดที่ตั้งไว้ก็สามารถทำได้โดยคลิ้กขวาบนตัวมัน แล้วเลือกคำสั่งตามที่ต้องการ

12. สวิตช์ผู้ใช้ หรือล็อกเครื่องแบบเร่งด่วน
เอาละครับ แล้วก็มาถึงเทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยให้การใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP ของคุณสะดวกยิ่งขึ้น กล่าวคือ ถ้าปกติคุณเลือกใช้วิธีล็อกเอาต์ (log out) จากระบบปฏิบัติการ Windows XP แทนการชัตดาวน์ ลองใช้วิธีกดปุ่ม Windows พร้อมกับปุ่ม L ที่ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนไปล็อกออนบัญชีผู้ใช้คนอื่นๆ ที่อยู่บนคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวกันได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่มันยังเป็นการล็อก (lock) เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณให้ผู้อื่นไม่สามารถใช้งานได้อีกด้วยโดยขึ้นอยู่กับการตั้งข้อกำหนดของระบบรักษาความปลอดภัยของคุณ (เช่น การตั้งพาสส์เวิร์ด)

การกดปุ่ม Windows (ปุ่มที่มีรูปโลโก้ Windows) กับปุ่มตัว L พร้อมกัน แม้ระบบปฎิบัติการจะทำเหมือนคุณล็อกเอาต์ออกมา แต่จริงๆ แล้วคุณยังคงล็อกออนอยู่ในระบบ (เซสชันการใช้งาน Windows ของคุณยังอยู่นั่นเอง) ในขณะเดียวกัน คุณจะสามารถสวิตช์ไปใช้บัญชีผู้ใช้คนอื่นๆ ได้ และหากบัญชีผู้ใช้นั้นๆ ต้องการรหัสผ่าน มันก็เท่ากับว่า คอมพิวเตอร์ของคุณถูกล็อกการใช้งานจนกว่าจะได้รับการป้อนรหัสผ่านที่ถูกต้องเข้าไป ซึ่งเมื่อคุณล็อกออนกลับเข้าไปยังบัญชีผู้ใช้ของคุณเอง คุณจะพบว่า เอกสาร ตลอดจนแอพพลิเคชันต่างๆ ยังคงเปิดอยู่พร้อมใช้งานเหมือนเดิมก่อนที่คุณจะกดปุ่ม Windows + L นับว่าเป็นเทคนิคง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณสามารถสวิตช์บัญชีผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว แถมยังเป็นวิธีล็อกเครื่อง (กรณีใส่พาสส์เวิร์ด) ไม่ให้ผู้อื่นใช้งานได้ง่ายๆ อีกด้วย

13. Defrag อย่างไร ไม่ให้สะดุด!!!
บ่อยครั้งที่เราทำการ Defrag ไปได้ระยะหนึ่ง อาจจะ 10-20 นาที แล้วมันก็สะดุด และต้องเริ่มทำใหม่ แล้วก็เป็นเหมือนเดิมอีก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดมาก อย่างไรก็ตาม กรณีนี้อาจแก้ไขได้ด้วยข้อกำหนดเริ่มต้นของการทำงานของวินโดวส์ (Windows Startup) จะช่วยให้การจัดระเบียบฮาร์ดดิสก์ด้วยยูทิลิตี Defragmenter ให้ทำงานได้อย่างต่อเนื่องแล้ว มันยังมีอีกขั้นตอนหนึ่งที่ทำให้การทำงานของยูทิลิตีตัวนี้สะดุด ทำงานช้าลง หรือแน่นิ่งไปเลย นั่นก็คือ โปรแกรมรักษาหน้าจอ (screen saver) บนวินโดวส์ที่มักจะโผล่เด้งขึ้นมาตามเวลาที่กำหนด ซึ่งการแก้ไขในขั้นตอนนี้สามารถทำได้ง่ายมาก เพราะเพียงแค่เปลี่ยนข้อกำหนดเกี่ยวกับเวลาทำงานของพวกมันก็พอแล้ว

เนื่องจากโปรแกรมรักษาหน้าจอส่วนใหญ่จะได้รับการกำหนดให้เริ่มทำงานเมื่อไม่มีการแตะต้องเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นเวลา 15 นาที หรือขึ้นอยู่กับผู้ใช้แต่ละคนกำหนดไว้ ผมไม่ปฏิเสธครับว่า โปรแกรมรักษาหน้าจอมีคุณอนันต์ต่อมอนิเตอร์ แต่หากคุณต้องการรัน Defragmenter แนะนำให้ตั้งค่าเวลาทำงานของโปรแกรมรักษาหน้าจอให้ยาวนานออกไปอีกจะดีกว่า เพราะไม่เช่นนั้น มันอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้โปรแกรม Defragmenter หยุดชะงักชั่วคราว หรือพักยาวไปเลยก็ได้

เนื่องจากมันทำให้โพรเซสการทำงานโดยรวมของระบบช้าลงนั่นเอง
บางครั้งผู้ใช้อาจจะได้รับการแจ้งข้อผิดพลาดของการทำงานในลักษณะที่ว่า Defragmenter ไม่สามารถทำงานต่อไปได้ เนื่องจากมันมีภารกิจบางอย่างที่ทำให้ต้องเริ่มทำงานกันใหม่ ซึ่งหาใช่ใครที่ไหนที่ป่วนการทำงานของมัน นอกจากเจ้าโปรแกรมพักหน้าจอที่เรากำลังพูดถึงนั่นเอง
เพื่อป้องกันปัญหาข้างต้น ให้คุณคลิ้กขวาบนพื้นที่ว่างของเดสก์ทอป แล้วเลือกคำสั่ง Properties คลิ้กแท็บ Screen Saver ในช่อง Wait minutes เปลี่ยนช่วงเวลารอคอยของการทำงานเป็น 60 นาที หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับว่า คอมพิวเตอร์ของคุณจะใช้เวลาดีแฟรกนานแค่ไหน ? พยายามตั้งค่าเวลาให้มากกว่าก็แล้วกัน เสร็จแล้วคลิ้กปุ่ม OK การทำเช่นนี้ ก็เพื่อให้ช่วงเวลาที่รันโปรแกรม Defragmenter ไม่มีอะไรมารบกวนนั่นเอง หลังจากที่ทำดีแฟรกเสร็จแล้ว คุณสามารถกลับไปแก้ไขเวลาทำงานของ Screen Saver เหมือนเดิมได้แล้วครับ

14. พิมพ์สั้นๆ ก็พอ!!!
ผมเชื่อว่ายังมีผู้ใช้จำนวนหนึ่งที่ยังต้องใช้หน้าต่างคอมมานด์ (cmd.exe) เพื่อพิมพ์คำสั่งโดยตรง แต่ก็อย่างที่ทราบกันดีว่า ชื่อโฟลเดอร์ใน Windows มักจะยาวมาก ทำให้โอกาสพิมพ์ผิดสูงตามไปด้วย เช่น สมมติว่า ผมต้องการเข้าไปที่ไดเรกทอรี Start Menu ซึ่งอยู่ที่ Cocuments and SettingsAll UsersStart Menu ถ้าไม่แม่นจริง พิมพ์ผิดแน่นอน ดังนั้น ครั้งนี้ผมจึงเทคนิคง่ายๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้หน้าต่างคอมมานด์สะดวกสบายขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า ผู้ใช้บางคนอาจจะยังไม่ทราบว่า คำสั่งเปลี่ยนไดเรกทอรีในหน้าต่างคอมมานด์จะรับรูปแบบคำสั่งที่เป็นไวลด์คาร์ด (wild card) ด้วย นั่นหมายความว่า คุณสามารถใช้ * แทนส่วนที่ตามมาในคำสั่งได้ ดังนั้น การพิมพ์คำสั่งเพื่อเข้าไปยังไดเร็กทอรีข้างต้นสามารถพิมพ์พร้อมไวลด์คาร์ดสั้นๆ ดังนี้

C:>cddocu*a*s*

หวังว่า ทิปเล็กๆ นี้คงจะถูกใจคุณผู้อ่านที่ต้องใช้หน้าต่างคอมมานด์ทำงานนะครับ ส่วนผู้ที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้ ก็น่าจะได้รู้จักไว้ เผื่อต้องใช้ในอนาคตจะได้ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์อะไรยาวๆ ให้เสียเวลา แถมยังอาจพิมพ์ผิดต้องพิมพ์กันใหม่อีกต่างหาก

15. My Documents มันหายไป จะเอากลับมาได้อย่างไร ?
เรื่องมันมีอยู่ว่า ไอคอนเอกสารของฉัน (My Documents) มันหายไปจากในหน้าต่างคอมพิวเตอร์ของฉัน (My Computer) จะทำอย่างไรถึงจะเรียกคืนข้อมูลกลับมาได้เหมือนเดิม

สำหรับประเด็นนี้ ผมเข้าใจว่า รายละเอียดโฟลเดอร์ของยูสเซอร์ใน DocFolderPaths ถูกลบออกไปนั้น เห็นทีจะต้องพึ่งยูทิลิตี Registy Editor ช่วยแล้วละครับ โดยขั้นตอนการแก้ไขมีดังนี้

- คลิ้กปุ่ม Start เลือกคำสั่ง Run แล้วพิมพ์ regedit แล้วคลิ้กปุ่ม OK
- ที่กรอบทางด้านซ้ายมือ คลิ้กเข้าไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE/Software/Microsoft/Windows/CurrentVersion/Explorer/DocFolderPaths
- ในกรอบด้านขวามือ คลิ้กขวาบนพื้นที่ว่างเลือก New -> String Value
- Value Name พิมพ์ชื่อยูสเซอร์ของคุณ
- ดับเบิลคลิ้กบนชื่อยูสเซอร์ที่พิมพ์เข้าไป ไดอะล็อกบ็อกซ์ Edit String จะปรากฏขึ้นมา ในช่อง Value Data พิมพ์พาธของโฟลเดอร์ ซึ่งปกติจะอยู่ที่ Cocuments and Settingsชื่อยูสเซอร์ของคุณMy Documents เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ให้ออกจากโปรแกรม แล้วลองเปิดหน้าต่าง My Computer อีกครั้ง คราวนี้ ไอคอนโฟลเดอร์ My Document ของคุณน่าจะปรากฏขึ้นมาแล้ว ขอให้แก้ไขได้สำเร็จนะครับ

16. ของดีที่ซ่อนไว้ในแผ่น Windows XP
ใครที่มีแผ่นซีดีของระบบปฏิบัติการ Windows XP อยู่ในตัว ณ ตอนนี้ คุณรู้มั้ยครับว่า ในแผ่นนี้จะมีซอฟต์แวร์ยูทิลิตีเล็กๆ น่าใช้ซุกซ่อนไว้ให้บรรดาเซียนได้ค้นหา อยากรู้มั้ยครับว่า น่าสนใจแค่ไหน ถ้างั้นไปดูเลยครับ

ขั้นตอนแรกให้คุณนำแผ่นซีดีใส่เข้าไปในไดรฟ์ จากนั้นคลิ้กเข้าไปที่ไดเรกทอรี SupportTools ซึ่งในไดเรกทอรีนี้จะมีโปรแกรมยูทิลิตีเล็กๆ ที่ช่วยสนับสนุนการทำงาน และช่วยแก้ปัญหาต่างๆ มากมาย ผู้ใช้สามารถรันโปรแกรม SETUP จากไดเรกทอรีเดียวกันนี้ เพื่อติดตั้งโปรแกรมต่างๆ เข้าไปได้ ข้างล่างนี้เป็นตัวอย่างบางส่วนของโปรแกรมยูทิลิตีเล็กๆ ที่คุณสามารถพบได้ในแผ่นซีดีของ Windows XP

Diruse : แสดงสถานะการใช้ฮาร์ดดิสก์
Dupfinder : ค้นหาไฟล์ซ้ำซ้อนในฮาร์ดดิสก์ของคุณ
Getmac : แสดงหมายเลข MAC address ของการ์ดเน็ตเวิร์กในเครื่องคอมพิวเตอร์
Hostname : แสดงชื่อโฮสต์ของคอมพิวเตอร์
Netdiag : วินิจฉัยองค์ประกอบของการทำงานในส่วนต่างๆ ของเครือข่าย
Pviewer : แสดงรายชื่อโพรเซส, รายละเอียดของหน่วยความจำและกำจัดโพรเซสที่ไม่ต้องการ
Windiff : เปรียบเทียบไฟล์ และไดเรกทอรี

17. ยูทิลีตี (ดีๆ ) ที่ซ่อนอยู่ใน Windows
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งทิปที่น่าสนใจ คือมีโปรแกรมยูทิลิตีที่ซ่อนไว้ในวินโดวส์ โดยเป็นยูทิลิตีที่สามารถแจ้งให้คุณได้ทราบถึงรายละเอียดต่างๆ มากมายเกี่ยวกับเครื่องพีซีของคุณ รวมถึงข้อมูลที่หลากหลายตั้งแต่เวอร์ชันของ BIOS จนถึงความเร็วของ CPU หน่วยความจำ ส่วนแสดงผล และการ์ดเสียง
สำหรับวิธีเรียกใช้ยูทิลิตีที่ซ่อนไว้ใน Windows นี้ ให้คุณคลิ้กปุ่ม Start เลือกคำสั่ง Run (หรือกดปุ่ม Windows + R) ในช่องข้อความ Open: พิมพ์ dxdiag แล้วคลิ้กปุ่ม OK ระบบปฏิบัติการจะเปิดยูทิลิตีชื่อว่า DirectX diagnostic tool ขึ้นมา

ซึ่งภายในโปรแกรมจะแสดงข้อมูลต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย เช่น แท็บ System จะเป็นการแสดงข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับองค์ประกอบต่างๆ ในพีซีของคุณ ส่วนแท็บ Display และ Sound จะให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการ์ดแสดงผล และการ์ดเสียง ขณะเดียวกัน คุณสามารถทดสอบการทำงานของ DirectX ที่ติดตั้งบนพีซีของคุณ หากพบว่า มีปัญหา โปรแกรมก็จะแสดงผลให้ทราบในกรอบพื้นที่ Notes ที่อยู่ด้านล่าง ลองเรียกใช้ดูนะครับ

18. Blue Screen of Death
เคยไหมครับที่อยู่ดีๆ คอมพิวเตอร์ของคุณก็เปลี่ยนทั้งหน้าจอเป็นสีน้ำเงินไปซะเฉยๆ ซึ่งมันอาจเกิดขึ้นได้กับพวกเราทุกคนไม่ว่าเวลาใดก็ตาม ข้อเท็จจริงที่ควรทราบก็คือ อาการดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นหลายๆ ครั้งติดต่อกันก็ได้ ผมเองก็เคยประสบปัญหาดังกล่าวเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดมากทีเดียว
แล้วสิ่งที่เรียกว่าหน้าจอสีน้ำเงิน (Blue Screen) ที่ผมพูดถึงนั้นหมายถึงอะไรล่ะ ? คำว่า ?Blue Screen? เป็นชื่อส