นายประจวบ ตันตินนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีทีแอนด์ที ซับสไครเบอร์ เซอร์วิสเซส จำกัด กล่าวว่า บริษัทวางแผนเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงอย่างต่อ เนื่อง เพื่อให้ลูกค้าของทีทีแอนด์ทีได้รับความสะดวกสบาย มั่นใจในคุณภาพ ความเร็ว และความเสถียรในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต จึงได้ขยายแบนด์วิธไปยังต่างประเทศ (International Bandwidth) จาก 1.9 Gbps เป็น 3.88 Gbps ในไตรมาสแรก โดยกลุ่มพันธมิตรทั้ง 5 บริษัทจะออกแบบวงจรเชื่อมต่อให้มีความหลากหลาย สร้างความเสถียรแก่ระบบในการให้บริการ
กก.ผจก.บริษัท ทีทีแอนด์ทีฯ กล่าวต่อว่า บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้แก่ 1. Hutchison Global Communications ขยายแบนด์วิธจำนวนสองเส้นทางเพิ่มเป็น 1244 Mbps เชื่อมต่อเข้า Internet Node ประเทศฮ่องกง 2. KT Networks ขยายแบนด์วิธจำนวนสองเส้นทางเพิ่มเป็น 1244 Mbps เชื่อมต่อเข้า Internet Node ที่เมืองลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา 3. Verizon Business เชื่อมต่อเข้า Internet Node เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส ขนาด 155 Mbps 4.NTT Communications เชื่อมต่อกับ Internet Node ประเทศสิงค์โปร์ ขนาด 622 Mbps และ 5. TATA Communications เชื่อมต่อเข้า Internet Node ประเทศสิงค์โปร์ ขนาด 622 Mbps
นายประจวบ กล่าวอีกว่า การขยายแบนด์วิธครั้งนี้ ทำให้แม็กซ์เน็ตมีวงจรอินเทอร์เน็ตเชื่อมต่อออกไปยังต่างประเทศรวม 3.88 Gbps และมีเส้นทางหลายสายทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางเสริมเชื่อมต่อไปทุกพื้นที่ ทั่วโลกในกรณีที่มีเหตุขัดข้อง รวมทั้งขยายแบนด์วิธภายในประเทศเป็น 18 Gbps โดยการเพิ่มประสิทธิภาพและการขยายแบนด์วิธดังกล่าว บริษัทลงทุนเพิ่มกว่า 600 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทวางแผนงานขยายเพิ่มวงจรต่างประเทศอีกในระยะต่อไป เพื่อรองรับการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของจำนวนผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตความ เร็วสูง
กก.ผจก.บริษัท ทีทีแอนด์ที กล่าวด้วยว่า นอกจากการลงทุนขยายแบนด์วิธต่างประเทศ บริษัทได้ลงทุนขยาย node เพิ่มอีกแห่งหนึ่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความเสถียรของการให้บริการ และรองรับการให้บริการศูนย์รับฝากระบบคอมพิวเตอร์ (IDC) ใช้เงินลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท ทั้งนี้ การลงทุนอย่างต่อเนื่องของบริษัท เพื่อรองรับบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่มีการขยายตัวและเติบโตอย่าง รวดเร็ว โดยคาดหวังเพิ่มจำนวนลูกค้าให้ได้ 500,000 ราย และสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาท ภายในปี 2551 นี้
ข่าวโดย ไทยรัฐ