Results 1 to 3 of 3

Thread: ฟังเขาสนทนากันสิ สุยดยอดเลย (เก็บมาเหลือ เผื่อมาฝาก) ผมชอบน่ะนอกตำราอ่ะ

  1. #1
    Junior Member
    Join Date
    Mar 2008
    Posts
    3


     พอดีตอนนี้กำลัวศึกษาด้วยตัวเองอยู่ เเต่ไม่ถึงกับเก่ง นะครับ ถ้าเราเชี่ยวชาญ จำเป็นหรือ เปล่า ที่ต้องขยับไปเป็น c+ java เเละ การเขียนโปรเเกรมนี่ มีหลักการจำยังไง
     isual basic 6 เหรอครับ สำหรับผม มันเป็นภาษารุ่นเก่าอ่ะ มันยังเป็น interpreter อยู่เลย เวลาจะหาบั๊ก มันจะหาลำบากกว่าละครับ ถ้าคิดว่าชอบ visual basic อาจจะขยับมาเล่น visual basic .net หรือ visual studio .net นี่แหละ น่าจะดีกว่าครับ เขียนเก่ง กับเขียนได้ คนละอย่างกันนะ คนเขียนเก่งจะสามารถเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ resource คุ้มค่า ดึงด้านเด่นของภาษาที่ใช้ออกมาได้และสามารถลบข้อด้อยของภาษานั้นๆอาจด้วยการดึงภาษาอื่นเข้ามาช่วย หรือวิธีอื่นๆ ทำนองนั้น เรื่องภาษาไม่เกี่ยวกับความเก่ง เป็น ความสามารถ ของแต่ละคน ว่าถนัดภาษาอะไร เขียน model แบบไหนยังไง รู้เยอะ หรือรู้ลึกอะไรทำนองนั้น
    ผมเรียน C++ กับ Java ตามหลักสูตรมหาอยู่งับ เก่งขนาดไหน ก็ไม่สำคัญเท่า Teamwork ครับผม ถึงจะทำคนเดียวได้ก็จริง แต่มันจะไม่คุ้มค่าคุ้มเวลาครับผม ผู้นำ 1 คนคอยควบคุมดูแล ที่เหลือช่วยกันปั่นงานแจ่มที่สุดครับผม(ผมว่านะ)
     ตอนนี้ผมทำเครื่องคิดเลยอย่างง่ายได้เเล้ว เเต่ก็อยู่ในขั้นที่พื้นฐานมากๆ
    มันอยู่ที่ algorithm ส่วนตัวครับ ถ้ารู้จักดีไซน์โค้ด รู้จักใช้ resource ให้คุ้มค่า แล้วก็อีกเยอะแยะมากมาย (search หัวข้อนี้ได้จาก google) ภาษาไหนก็เหมือนกัน
    นี่ยกตัวอย่าง Checklist ของภาษา Perl ที่ใช้อยู่

    = Performance =
    - No unnecessary processing overhead or resource usage
    - Proper reusable methods and variables (well structured methods)
    - Appropriate tracing level
    - Appropriate logging and alerting
    - Direct SQL queries only allowed when no xx wrapper available
    - Reasonable DB hits and optimal SQL statement
    - Optimal data structures
    - Proper business logic and work flow
    - Code adheres to xx security standards
    - Code is flexible
    - Code is efficient
    - Handles locking and concurrency
    - Correct usage of encryption

    = Coding Styles =
    [P|F|O] - PODs are defined and precise (at least key methods)
    - No Perl Critic issues
    - No Perl warning
    - Meet naming convention and xxx coding styles
    - Proper subroutine and its interface declaration
    - Clean variable and method declaration
    - Variables and Data states get validated
    - Code is easy to read and maintain
    - No deprecating code or interface is used
    - No old fashion perl syntax or style
    - Work is documented correctly and properly

    เขียนเป็นนี่ใครก็เขียนได้ทั้งนั้นแล่ะ ไปนั่งอ่านหนังสือคลำๆเอาก็เป็นแล้วแล้วแต่ชอบละครับ
    VB มันภาษาชั้นกลาง
    C++ มันภาษาชั้นล่าง
    ต่างกันตรงที่ เวลาใช้งาน VB จะเป็นไปได้มากกว่าในยุคเร่งด่วน ทำ program อะไรก็ทำจาก VB ทั้งง่ายกว่า และเสียค่าพัฒนาน้อยกว่า 1/4 ได้เลย

    C++ มันภาษาแบบชั้นล่าง ถ้าจะทำอะไรขึ้นมา แบบร่าง program ขึ้นมาจากศูนย์ หรือว่าต้องการ function ที่ระดับซับซ้อน C++ จะ เรียกใ้ช้งานได้ดีกว่า

    มันก็ต้องเทียบละครับ ระหว่าง รวดเร็ว กับ ใช้งานได้ลึกซึ้ง ว่า อยากได้อันไหน
    ตอบไม่ได้ว่าอันไหนดีกว่ากัน

    ผมไม่เคยลอง VB นะ ใช้ Java กับ C++ ไม่ค่อยต่างกันเท่าไรหรอก แต่ทำไมอาจารย์ชอบให้ทำแต่ C++ ก็ไม่รู้จำเป็นหรือเปล่าว่าเราต้องท่องจำไวยากรณ์ทุกตัว เเต่ผมรู้อะไรอย่างว่า คนที่เรียนจบทางนี้มานี้ไม่ใช่ง่ายเลย ผมว่าพวกคุณที่เป็นเวปมาสเตอร์นี่ต้องเก่งมาก เลย หรือเปล่า เรื่องการเขียนโปรเเกรมเนี่ย
     ไม่จำเป็นครับ ไวยากรณ์คือ function เรียกใช้ ใช่มั้ย???
    หลักสำคัญคืออย่างทั่หลายๆคนกล่าวไว้แล้ว ใช้ resource ให้เกิดประโยชน์ที่สุด
    ไม่มีใครจำ function ได้หมดหรอกครับ มันมีเป็นพันตัว เอาแค่หลักๆก็พอแล้วละครับ ผมจำได้แค่ 50 ตัวเอง
    เอามั่ง...ในฐานะที่จบ comsci มา แต่ดันทำงาน Network - - เรียน Programming ที่ต้องพัฒนาคือการคิด Algorithm ครับ พยายามฝึกการคิดให้เป็นแบบแผน เป็นขั้นตอนให้ได้ ส่วนเรื่อง Syntax เรามีหนังสือเป็น reference ได้ ไม่ต้องไปท่องจำครับ
    ภาษาที่ใช้ไม่ต้องไปซีเรียสว่าเรารู้ VB6 แล้วถือว่ายังไม่เก่ง ต้องรู้ C รู้ Perl ยึดว่าเราต้องเขียนโปรแกรมอะไร แล้วแต่ละภาษา หรือ compiler แต่ละตัวมีอะไรเด่น ใช้ตัวไหนเหมาะกว่าเราก็ค่อยเลือกใช้ตัวนั้น หรือจะเลือกตามความถนัดของเราก็ได้
    อย่างสมัยผมยังเรียนอยู่ ตอนนั้น Delphi มี object เกี่ยวกับ database ที่ใช้งานง่ายกว่า VB แต่ VB เขียนโปรแกรมง่ายกว่า ดังนั้นถ้าผมจะเขียนโปรแกรมเกี่ยวกับ DB ผมอาจเลือกใช้ Delphi (และผมถนัด Pascal ด้วยมั๊ง) แต่หลัง ๆ พอผมกะเขียนเอาเร็วเอาง่าย ผมก็เลือกใช้ VB แทน ต่อมาผมต้องเขียน Web App ผมเลือกใช้ PHP เพราะทำงานกับ MySQL และ Apache ได้ดี แต่ไม่ว่าภาษาอะไร มันก็อยู่ที่เราต้องคิด Algorithm ให้ได้ เขียน Flow Program ออกมาให้เคลียร์ แล้วลอง Test ทำ Function ที่เราสงสัยให้มันใช้งานได้จริงก่อน แล้วค่อยมาประกอบกันทีหลัง...
    ไวยากรณ์จำแป้ปเดียวก็ได้หมดแล้วครับมีไม่เยอะ
    ส่วนพวก function หรืออะไร เราไม่ต้องจำหรอก เปิดๆหนังสือดูเอา
    ไม่ต้องเก่งอะไรมากมายหรอกครับ ภาษาที่ใช้เป็น Web Application มันก็มีรายละเอียดระดับนึง แต่จะไม่ยากและซับซ้อนเท่าภาษาที่ใช้เขียนเป้น Application บน Windows หรือ Linux หรอก แต่บางตรรกกะก็ใช้ร่วมกันได้ เพราะมันคือการเขียนโปรแกรมเหมือนกัน (ที่เคยเขียนแล้วล้ำลึกสุดก็ Perl นี่แล่ะ มัน Inherit มาจาก C อีกทีนึงนะ ถ้าเขียนดูจะรู้สึกว่ามันคล้ายๆอยู่บ้าง)
    ขึ้นอยู่กับว่าเราจะทดลองศึกษาไปในทางไหน ไม่มีใครมานั่งจำกันหรอกครับ นึกไม่ออกก็เปิดหนังสือเช็คลูกเดียว ภาษามีเป็นร้อย
    Visual Basic 6 เป็น Component Base ยังห่างไกลกับคำว่า OOP ครับ
    ศึกษาไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็เก่งเอง ทุกคนต้องมีก้าวที่ 1 กันทั้งนั้น ยังไงถ้าเข้าใจ Concept ของการเขียนโปรแกรมเบื้องต้นแล้วให้ขยับ Tools ไปครับ อย่าไปมัวขลุกเพื่อให้เชี่ยวชาญ Visual Basic 6 เพราะ Tool มันถึงทางตันแล้ว และ Microsoft ก็เลิกสนับสนุนแล้วด้วย ถ้าอยากเชี่ยวชาญจริงๆมี มี 3 ตัวเลือก

    โลกของ Native ทำได้แทบทุกอย่างแต่ Complex เขียน Low Level ได้
    -C++/Visual C++

    โลกของ Framework ภาษารุ่นใหม่ ทันสมัย ใช้ง่าย แต่จำกัด Platform และต้องใช้ Framework ในการ Run เป็นภาษา High Level
    - .Net
    - Java

    การเขียนโปรแกรมมีมากกว่า Tools , Programming Language และ Algorithm ครับ

    ถ้ารักจะอยู่ในวงจรนี้จริงๆ แนะนำให้ศึกษา OOAD ด้วย
    บางทีอาจต้องทำงานเป็นทีม ถ้ามีความรู้เกี่ยวกับการควบคุมโครงการเช่น CMM ด้วยก็ยิ่งดี (Programmer เป็น 1 Role ในนั้น)
    visual basic อยู่ในสายของ "basic" ที่แปลว่า อย่างง่ายครับ ถ้าจะพูดถึงคนที่เขียนโปรแกรมเก่ง คุณต้องการจินตนาการ และการพลิกแพลง(เชิงวิธีคำณวน)ทำให้โปรแกรมไช้ทรัพยากรณ์น้อยที่สุด
    ผมแนะนำ basic ให้มือใหม่ที่อยากลองเล่นๆทุกคนเพราะมันไช้งานง่าน
    c, c++, java แนะนำสำหรับคนที่จะเอาไปเขียนโปรแกรมเป็นอาชีพ (โปรแกรมที่ใด้ต้องการ performance) vb, vb.net สำหรับงานตามสายการผลิต (ไม่ต้องการ performance แต่ต้องการปริมาณ) ส่วนถ้าอยากโหดคือต้องไปสึกษาภาษาเครื่องครับ (แต่เป็น geek ไปก็เท่านั้น บ้านเราไม่มีงาน -*-)

  2. #2
    Junior Member
    Join Date
    Dec 2007
    Posts
    0


    มันก็จริง อย่างที่เค้าว่าอะครับ เดี้ยวนี้เราที่เรียนๆ ใช้ๆ กัน เป็นเก่าหมดแล้วอะ
    พวกใหม่ แปลก ๆ แต่ไม่ค่อยใช้ก่อน

    ป.ล. เคยไปเจอข้อความประมาณว่าน่าเสียดายทุกวันนี้เรายังเรียน C กันอยู่เลย
    คือ ปัจจุบันมันมีภาษาใหม่ๆ แปลกๆ มากกว่า C แล้วอะครับ

  3. #3
    Junior Member
    Join Date
    Feb 2008
    Posts
    0



    ผมก็เป็นอีกคนที่จบ Programing คับ
    ผมเลยเห็นความสำคัญ ของ Performance ของ โปรแกรม
    มากกว่าภาษา หรือเครื่องมือที่ใช้ คับ Programer บางคน
    ใช้ภาษาสูง( พวก .Net- Java เป็นต้น) แต่พอเขียนออกมาแล้ว
    กินทรัพยากรมาก บางคนใช้ ดอทเน็ต แต่ก็ไม่รู้ว่า ไอ้พวก .net เนี่ยมันดีกว่าเดิมอย่างงัย
    คือใช้ ไปอย่างนั้นละ เห็นว่ามันไหม่ดี อรไรประมาณนีคับ
    ที่พูดอย่างนี้ไม่ใช่ว่าผมมีความรู้อะไรมากมายนะคับ ก็ปูๆปลาๆ อยู่เหมือนกัน
    แค่อยากสนับสนุน กับความคิดที่ให้ความสำคัญ กับ Algorithrm มากกว่าภาษาที่ใช้อะคับ
    ขอบคุณ noal07 ที่นำสิ่งดีๆมาแบ่งกันนะคับ


Members who have read this thread : 0

Actions : (View-Readers)

There are no names to display.

Tags for this Thread

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •