ภาษา C [C Language]
เป็นภาษาที่เก่าแก่ถือกำเนิดมายาวนาน โดยแต่เดิมนั้นภาษา C ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้เป็นภาษาสำหรับการสร้างระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ เนื่องจากในขณะนั้นระบบปฏิบัติการยูนิกซ์เขียนด้วยภาษาแอสเซมบลี [Assembly] ซึ่งเป็นภาษาที่ยึดติดกับฮาร์ดแวร์ของเครื่อง ดังนั้นการที่จะย้ายระบบปฏิบัติการไปใช้กับเครื่องอื่นจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ซึ่งนับเป็นข้อเสียใหญ่ของภาษาแอสเซมบลี ดังนั้นภาษา C ซึ่งเป็นภาษาที่ไม่ยึดติดกับฮาร์ดแวร์จึงถูกพัฒนาขึ้นมา ในปัจจุบัน
ภาษา C ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่งานสร้างระบบปฏิบัติการเท่านั้น แต่สามารถนำไปใช้สร้างโปรแกรมเพื่องานในทุกประเภท เช่น งานเกี่ยวกับการคำนวณ ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์/ฮาร์ดแวร์ชนิดต่างๆ การจัดการฐานข้อมูล หรือสร้างโปรแกรมสำหรับจัดพิมพ์เอกสาร เป็นต้น
ประวัติของภาษา C
ภาษา C คิดค้นขึ้นเป็นครั้งแรกโดย เดนนิส ริทชี่[Dennis Ritchie] ที่ห้องแล็บเบล [Bell Labs] ในปี ค.ศ.1972 โดยได้แนวคิดมาจากภาษา BCPL พัฒนาขึ้นโดย มาร์ติน ริชาร์ด[Martin Richards] และภาษา B ที่เขียนขึ้นโดย เคน ทอมพ์สัน[Ken Thompson] เพื่อนำมาพัฒนาต่อจนได้ภาษาใหม่ที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูง หลังจากนั้นในปี ค.ศ.1978 ภาษา C จึงได้รับการเผยแพร่อย่างเป็นทางการโดย เคอร์นิกแฮน[Kernighan] และเดนนิส ริทชี่
จุดเด่นของภาษา C
ในปัจจุบันภาษา C ได้รับการยอมรรับและใช้งานกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุมาจากภาษา C เป็นภาษาที่มีการกำหนดมาตรฐานสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกรุ่น [IBM PC, Mac, …] และระบบปฎิบัติการทุกชนิด [Windows, Unix, Linux, …] ทำให้โครงสร้างทางภาษา ฟังก์ชันและไลบราลี[Library] ต่างๆสามารถนำไปใช้งานระหว่างเครื่องแต่ละ
รุ่นและระบบปฏิบัตการแต่ละชนิดได้ ปัจจุบันนี้มีการพัฒนาตัวแปลภาษา C ขึ้นมา สำหรับใช้กับเครื่องทุกรุ่น และระบบปฏิบัตการทุกชนิด ดังนั้นไม่ว่าจะใช้เครื่องรุ่นใด และใช้ระบบปฏิบัติการชนิดใดก็ตาม ก็สามารถเขียนโปรแกรมภาษา C ได้
โปรแกรมที่เขียนด้วยภาษา C มีขนาดเล็กและทำงานได้เร็ว
ภาษา C มีโครงสร้างทางภาษาที่ดี และเครื่องหมายสำหรับดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณทางคณิตศาสตร์ ตรรกศาสตร์ หรือการเปรียบเทียบ มีประสิทธิภาพการทำงานสูงสามารถเขียนคำสั่งภาษา C เพื่อควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์บางส่วนได้
มีฟังก์ช้นสำเร็จรูปสำหรับงานประเภทต่างๆ ให้เลือกใช้มากมาย ซึ่งช่วยประหยัดเวลาใสการเขียนคำสั่ง นอกจากนี้ถ้าฟังก์ชันที่ภาษา C เตรียมไว้ให้ ใช้งานได้ไม่ตรงตามต้องการทั้งหมด เราสามรถเขียนคำสั่งเพิ่มเติมลงไปได้
การนำภาษา C ไปใช้งาน
ถึงแม้ว่าเริ่มแรกของการพัฒนาภาษาcถูกใช้งานเกี่ยวกับการสร้างระบบปฏิบิตการเป็นหลักแต่เนื่องจากข้อดีหลายประการและความง่ายของภาษา ทำให้ภาษา C ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยมีการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา C เพื่อใช้งานประเภทต่างๆมากมาย สรุปเป็นหัวข้อได้ดังนี้
สร้างระบบปฏิบัติการ ภาษา C ถูกนำไปใช้เขียนโปรแกรมเพื่อสร้างระบบปฏิบัติการ [Operating System] อย่างเช่น ยูนิกซ์ ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์แรกที่ทำให้มีการคิดค้นภาษา C ขึ้นมางานทางด้านควบคุมอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เนื่องจากภาษา C เป็นภาษาระดับกลาง ทำความเข้าใจได้ง่ายและสามารถเขียนคำสั่งเพื่อติดต่อกับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ได้สะดวก ดังนั้นภาษา Cจึงถูกนำมาใช้เพื่อควบคุมการทำงานของเครื่องจักรกล อุปกรณ์พวกไอซี หรือสร้างเป็นไดรเวอร์ของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์
สร้างโปรแกรมสำหรับจัดพิมพ์เอกสาร และโปรแกรมเกี่ยวกับการป้อนงานและจัดลำดับการพิมพ์งานของเครื่องพิมพ์
สร้างตัวแปลภาษาอื่น ภาษา C สามารถนำไปใช้เพื่อสร้างตัวแปลภาษาอื่นได้ จากที่กล่าวไปแล้วว่าภาษา C เขียนง่ายและติดต่อกับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ได้สะดวก ดังนั้นภาษา C จึงถูกนำไปใช้สร้างตัวแปลภาษาเพื่อแปลจากภาษาระดับสูงเป็นภาษาเครื่อง
สร้างโปรแกรมเพื่อใช้สำหรับงานทั่วไป อย่างเช่น โปรแกรมคำนวณบัญชี โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล[Database]
โปรแกรมสำหรับการจัดการกับไดเร็คทอรีและไฟล์ หรือโปรแกรมอำนวยความสะดวกกับการทำงานทั่วไปตามความต้องการของเรา
ภาษา C เป็นรากฐานที่สำคัญของภาษาใหม่จำนวนมาก หลังจากที่ภาษา C คิดค้นขึ้นมา และมีการยอมรับกันอย่างแพร่หลาย ภาษา C จึงถูกนำไปใช้เป็นต้นแบบของภาษาใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมาในระยะหลังเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะภาษาที่ใช้สำหรับการเขียนโปรแกรมบนเว็บ อย่างเช่น Perl, PHP ดังนั้นถ้าสามารถเขียนโปรแกรมด้วยภาษา C ได้
จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะเรียนรู้ภาษาอื่นๆต่อไป