สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายพอล โอเทลลินี่ ประธานคณะผู้บริหาร (ซีอีโอ) อินเทล ระบุถึงสถานการณ์ตลาดชิพความจำไตรมาสแรกนี้ว่า ราคาปรับลงเกือบ 2 เท่าจากที่เคยคาดการณ์ไว้
ก่อนหน้านี้ อินเทล คาดว่าราคาชิพหน่วยความจำแฟลชแนนด์ ช่วงไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมาถึงไตรมาสแรกปีนี้จะลดลงประมาณ 27% แต่ในความเป็นจริงกลับอยู่ที่ 53% ซึ่งเป็นผลจากกำไรสินค้าปรับตัวลง และภาระด้านสินค้าคงคลัง
ขณะที่ เมื่อวันจันทร์ผ่านมา (3 มี.ค.) อินเทล ประกาศประมาณการตัวเลขกำไรสุทธิไตรมาสแรกใหม่ โดยปรับมาอยู่ที่ 54% จากเดิม 56% หลังจากชิพหน่วยความจำแฟลชแนนด์ ที่ใช้ในโทรศัพท์มือถือ และเครื่องเล่นเพลงดิจิทัล มีราคาลดลง
เนื่องจากปัจจัยสินค้าล้นตลาด ความต้องการผู้บริโภคชะลอตัว และการแข่งขันที่รุนแรงจากทั้งคู่แข่งสัญชาติเดียวกันและผู้ผลิ ตจากเอเชีย
นายโอเทลลินี่ ยังยืนยันแผนรุกหนักตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ในกลุ่มคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) ทั้งแบบตั้งโต๊ะและโน้ตบุ๊ค ที่มีระดับราคา 250 ดอลลาร์ (ประมาณ 8,000 บาท) โดยล่าสุดได้ประกาศชื่อชิพตระกูลใหม่ "อะตอม" สำหรับตลาดที่บริษัทให้ชื่อว่า "เน็ตบุ๊ค พีซี" ซึ่งเป็นกลุ่มคอนซูเมอร์ในตลาดเกิดใหม่
รวมทั้งมุ่งมั่นในจุดมุ่งหมาย ที่จะขยายฐานไปยังตลาดดิจิทัล ครอบคลุมทั้งอุปกรณ์กลุ่มโมบายอินเทอร์เน็ต จนถึงเครื่องแม่ข่ายระดับสูง สำหรับเครือข่ายองค์กร
ขณะที่ นายสเตซี่ สมิธ ซีเอฟโอ ของอินเทล กล่าวว่า เขาคาดหมายว่าโรงงานชิพกว่า 10 แห่งของอินเทลที่กระจายอยู่ทั่วโลก จะสามารถเดินเครื่องกำลังการผลิตได้ถึง 90% ในช่วง 1-2 ปีนี้
โดย NOL-News Online : กรุงเทพธุรกิจ
ที่มา
http://www.arip.co.th/2006/news.php?ofsm=3...8&id=407239