Results 1 to 3 of 3

Thread: ความแตกต่างระหว่าง Virus, Worm, Spyware, Trojan, Malware

  1. #1
    Junior Member
    Join Date
    Mar 2008
    Posts
    0


    ความแตกต่างระหว่าง Virus, Worm, Spyware, Trojan, Malware


    จาก...http://www.pantip.com/tech/software/...SV1631943.html

    Virus = แพร่เชื้อไปติดไฟล์อื่นๆในคอมพิวเตอร์โดยการแนบตัวมันเองเข้าไป มันไม่สามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆได้ต้องอาศัยไฟล์พาหะ สิ่งที่มันทำคือสร้างความเสียหายให้กับไฟล์


    Worm = คัดลอกตัวเองและสามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆได้อย่างอิสระ โดยอาศัยอีเมลล์หรือช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการ มักจะไม่แพร่เชื่อไปติดไฟล์อื่น สิ่งที่มันทำคือมักจะสร้างความเสียหายให้กับระบบเครือข่าย


    Trojan = ไม่แพร่เชื้อไปติดไฟล์อื่นๆ ไม่สามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆได้ ต้องอาศัยการหลอกคนใช้ให้ดาวโหลดเอาไปใส่เครื่องเองหรือด้วยวิธีอื่นๆ สิ่งที่มันทำคือเปิดโอกาสให้ผู้ไม่ประสงค์ดีเข้ามาควบคุมเครื่องที่ติดเชื้อจากระยะไ
    กล ซึ่งจะทำอะไรก็ได้ และโทรจันยังมีอีกหลายชนิด


    Spyware = ไม่แพร่เชื้อไปติดไฟล์อื่นๆ ไม่สามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆได้ ต้องอาศัยการหลอกคนใช้ให้ดาวโหลดเอาไปใส่เครื่องเองหรืออาศัยช่องโหว่ของ web browser ในการติดตั้งตัวเองลงในเครื่องเหยื่อ สิ่งที่มันทำคือรบกวนและละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้


    Hybrid malware/Blended Threats = คือ malware ที่รวมความสามารถของ virus, worm, trojan, spyware เข้าไว้ด้วยกัน


    Phishing = เป็นเทคนิคการทำ social engineer โดยใช้อีเมลล์เพื่อหลอกให้เหยื่อเปิดเผยข้อมูลการทำธุรกรรมทางการเงินบนอินเตอร์เน็ต
    เช่น บัตรเครดิตหรือพวก online bank account


    Zombie Network = เครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมากๆ จากทั่วโลกที่ตกเป็นเหยื่อของ worm, trojan และ malware อย่างอื่น (compromised machine) ซึ่งจะถูก attacker/hacker ใช้เป็นฐานปฏิบัติการในการส่ง spam mail, phishing, DoS หรือเอาไว้เก็บไฟล์หรือซอฟแวร์ที่ผิดกฎหมาย


    Malware ย่อมาจาก Malicious Software หมายถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทุกชนิดที่มีจุดประสงค์ร้ายต่อคอมพิวเตอร์และเครือข่าย หรือเป็นคำที่ใช้เรียกโปรแกรมที่มีจุดประสงค์ร้ายต่อระบบคอมพิวเตอร์ทุกชนิดแบบรวมๆ โปรแกรมพวกนี้ก็เช่น virus, worm, trojan, spyware, keylogger, hack tool, dialer, phishing, toolbar, BHO, etc

    แต่เนื่องจาก virus คือ malware ชนิดแรกที่เกิดขึ้นบนโลกนี้และอยู่มานาน ดังนั้นโดยทั่วไปตามข่าวหรือบทความต่างๆที่ไม่เน้นไปในทางวิชาการมากเกินไป หรือเพื่อความง่าย ก็จะใช้คำว่า virus แทนคำว่า malware แต่ถ้าจะคิดถึงความจริงแล้วมันไม่ถูกต้อง malware แต่ละชนิดไม่เหมือนกัน


    จาก...http://www.pantip.com/tech/software/...SV1682232.html

    คำว่าไวรัส (virus) ในปัจจุบันนี้ถูกใช้แบบไม่ค่อยจะถูกต้องตรงกับความเป็นจริงเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะความเคยชินหรืออะไรก็ตามแต่ (ผมเองก็เป็น) มันกลายเป็นว่าคนส่วนใหญ่ใช้คำว่า virus แทน worm, trojan, adware, spyware, malicious code, etc. ใช้เรียกแทนยังไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเข้าใจว่า virus คือ malicious software ทั้งหมดที่บอกไปนั่น อันนี้เป็นความเข้าใจที่ผิด แม้กระทั่งในร่างกฎหมายอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ก็ยังมีการเสนอขอให้แก้ไขคำว่า virus โดยเปลี่ยนไปใช้คำว่า malware แทน เพราะถ้าไม่งั้นแล้วคนที่ใช้ worm, trojan โจมตีคนอื่นอาจจะไม่มีความผิด เพราะ worm, trojan ไม่ใช่ virus

    ที่ถูกต้องใช้คำว่ามาลแวร์ ซึ่งมาจากคำในภาษาอังกฤษว่า malware (malicious software) อันหมายถึง โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทั้งหมดที่ถูกออกแบบมาให้มีจุดประสงค์ร้ายต่อระบบคอมพิวเตอร์และเ
    ครือข่าย โปรแกรมเหล่านี้ก็เช่น classic virus, worm, trojan, adware, spyware, toolbar, BHO, hijacker, downloader, phishing, exploit malware รวมไปถึง zero-day attack, zombie network และอื่นๆ

    ความแตกต่างระหว่าง ไวรัส worm spyware trojan malware : http://www.pantip.com/tech/software/top … 31943.html

    ITW malware ใน the wildlist (แม้กระทั่งใน supplemental list) มากกว่า 90% เป็น worm (hybrid worm) ครับ ไม่ใช่ virus (classic virus) ก็ตามที่ความคิดเห็นที่ 2 บอกนั่นล่ะครับ classic virus โดยเฉพาะแบบ file infector ที่แนบตัวมันเองเข้าไปยังส่วนต่างๆของไฟล์อื่น (host file) และ boot sector virus มันแทบจะหมดยุคไปแล้ว (อาจจะมีพวก proof-of-concept virus บ้าง) ที่ยังพบเห็นอยู่ใน the wildlist ส่วนใหญ่จะเป็น macro virus (ซึ่งเป็น virus บน PC ในยุคท้ายๆ) ซึ่งยังพบเห็นการแพร่ระบาดอยู่บ้าง และ virus ที่ชื่อ VBS/Redlof คือตัวอย่างของ classic virus ที่ยังพอพบเห็นได้ทั่วไป

    Malware ที่พบเห็นการแพร่ระบาดทั่วไปและเหมือนจะสร้างความเสียหายให้กับระบบเศรษฐกิจมากที่สุ
    ดก็คือ worm และ worm ก็ยังแบ่งออกเป็นชนิดแยกย่อยได้ดังต่อไปนี้

    - Email Worm เช่น mass-mailing worm ที่ค้นหารายชื่ออีเมลล์ในเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อแล้วก็ส่งตัวเองไปหาอีเมลล์เหล่านั้

    - File-sharing Networks Worm คัดลอกตัวเองไปไว้ในโฟลเดอร์ที่ขึ้นค้นหรือประกอบด้วยคำว่าด้วย sha และแชร์โฟลเดอร์ของโปรแกรม P2P เช่น KaZaa
    - Internet Worm, Network Worm โจมตีช่องโหว่ของโปรแกรมและระบบปฎิบัติการเช่นเวิร์ม Blaster, Sasser ที่เรารู้จักกันดี
    - IRC Worm ส่งตัวเองจากเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อไปหาคนที่อยู่ในห้องสนทนาเดียวกัน
    - Instant Messaging Worm ส่งตัวเองจากเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อไปหาคนที่อยู่ใน contact list ผ่านทางโปรแกรม IM เช่น MSN, ICQ

    Trojan เป็น malware อีกชนิดที่พบเห็นการแพร่ระบาดได้ทั่วไป trojan ยังแบ่งออกได้เป็นหลายชนิดดังนี้

    - Remote Access Trojan (RAT) หรือ Backdoor ที่เปิดช่องทางให้ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถเข้ามาควบคุมหรือทำอะไรก็ได้บนเครื่องที่ตกเ
    ป็นเหยื่อในแบบระยะไกล
    - Data Sending/Password Sending Trojan โขมยรหัสผ่านแล้วส่งไปให้ผู้ไม่ประสงค์ดี
    - Keylogger Trojan ดักจับทุกข้อความที่พิมพ์ผ่านแป้นพิมพ์
    - Destructive Trojan ลบไฟล์บนเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อ
    - Denial of Service (DoS) Attack Trojan ใช้ทำ DDoS เพื่อโจมตีระบบอื่น
    - Proxy Trojan เปลี่ยนเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อให้กลายเป็น proxy server หรือ web server, mail server เพื่อสร้าง zombie network
    - FTP Trojan เปลี่ยนเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อให้กลายเป็น FTP server
    - Security software Killer Trojan ฆ่า process หรือลบโปรแกรมป้องกันไวรัส/โทรจัน/ไฟล์วอลบนเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อ
    - Trojan Downloader ดาวน์โหลด adware, spyware, worm เอามาติดตั้งบนเครื่องเหยื่อ

    และ malware ที่พบเห็นได้ง่ายทั่วไปในปัจจุบันและสร้างความรำคาญให้มากที่สุดก็คือ spyware (บางตำราอาจใช้คำว่า grayware) ซึ่งแบ่งออกได้เป็นหลายชนิด (ซึ่งบางส่วนก็มีพฤติกรรมคล้ายๆ trojan ด้วย) เช่น

    - Adware ดาวน์โหลดและแสดงแบนเนอร์โฆษณา
    - Dialer อยู่ตามเว็บโป๊เพื่อใช้ต่อโทรศัพท์ทางไกลไปต่างประเทศ
    - Spyware เก็บรวมรวมพฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ตบนเครื่องเหยื่อ
    - Hijacker เปลี่ยนแปลง start page, bookmark บนบราวเซอร์เช่นใน IE
    - Trojan like เช่น trojan downlaoder ดาวน์โหลด spyware หรือแบนเนอร์โฆษณา
    - BHO (Browser Helper Objects) ยัดเยียดฟังก์ชั่นที่ไม่พึงประสงค์บนบราวเซอร์เช่นใน IE
    - Toolbar ยัดเยียด toolbar ที่ไม่พึงประสงค์บนบราวเซอร์เช่นใน IE

    และต่อไปนี้คือ trend ใหม่ของ malware บน PC ที่เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบันและกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ซึ่งแต่เดิมนักเขียนไวรัสยุคโบราณเขียนไวรัสขึ้นเพราะความสนุก แต่ attacker ในปัจจุบันเขียน malware เพื่อเงินกันแล้ว มีการซื้อขายแลกเปลี่ยน zombie กันด้วยเช่น zombie จำนวน 5,000 เครื่องขาย 500 เหรีญอะไรแบบนี้

    Hybrid malware/Blended Threat คือ malware ที่รวมความสามารถของ virus, worm, trojan, spyware เข้าไว้ด้วยกัน

    Zero-day attack ในที่นี้หมายถึง การโจมตีของมาลแวร์/แฮคเกอร์ โดยการใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ (vulnerability) ที่มีอยู่ในซอฟแวร์หรือระบบปฎิบัติการซึ่งไม่มีใครรู้มาก่อนว่ามีช่องโหว่นั้นอยู่ หรือรู้แล้วแต่ยังไม่มี patch สำหรับอุดช่องโหว่ หรือยังไม่มี signature ของโปรแกรมด้าน security สำหรับตรวจหาการโจมตีที่ว่าในเวลานั้น

    Zombie Network คือ เครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมากๆ จากทั่วโลกที่ตกเป็นเหยื่อของ worm, trojan และ malware อย่างอื่น (compromised machine) ซึ่งจะถูก attacker/hacker ใช้เป็นฐานปฏิบัติการในการส่ง spam mail, phishing, DoS หรือเอาไว้เก็บไฟล์หรือซอฟแวร์ที่ผิดกฎหมาย

    จะเห็นได้ว่า worm, trojan, spyware (grayware) ซึ่งพบเห็นการแพร่ระบาดทั่วไปในปัจจุบันนี้มันไม่ใช่ virus และโปรแกรมป้องกันไวรัสทั่วไปส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถป้องกัน malware พวกนี้ได้ทั้งหมดด้วย โปรแกรมป้องกันไวรัสทั่วไปให้ผลดีแทบจะ 100% กับ ITW malware แต่กับมาลแวร์อื่นๆแล้วมันยังไม่มีมาตรฐานอะไรมาทดสอบโปรแกรมป้องกันไวรัส ดังนั้นแค่โปรแกรมป้องกันไวรัส (จริงๆแล้วน่าจะเรียกว่าโปรแกรมป้องกันมาลแวร์มากกว่า) แค่อย่างเดียวไม่สามารถป้องกันมาลแวร์ที่กล่าวมาได้ทั้งหมด

    แต่มีโปรแกรมป้องกันไวรัสอยู่ยี่ห้อหนึ่งซึ่งเน้นการตรวจหามาลแวร์ทุกๆอย่างที่กล่าว
    มาแบบเอาจริงเอาจัง แบบเอาเป็นเอาตาย (ไม่มาลแวร์ก็เครื่องของเราได้ตายกันไปข้างหนึ่ง) โปรแกรมนั้นคือ Kaspersky Anti-Virus (KAV) อันนี้ผมไม่ได้ค่าโฆษณา ผมไม่ได้ขาย KAV และไม่ได้ชี้นำใครนะครับ แต่บอกจากความรู้และประสบการณ์ที่ผมมี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าโปรแกรมอื่นๆ ไม่ดีนะครับ ก็อย่างที่บอกคือ โปรแกรมป้องกันไวรัสแทบจะทุกยี่ห้อสามารถป้องกันกลุ่มมาลแวร์ที่สำคัญที่สุด ที่พวกเรามีโอกาสพบเจอมากที่สุด อันตรายที่สุด ที่เรียกว่า ITW malware ได้แบบ 100% หากเราอัพเดทมันทันเวลาและใช้มันอย่างถูกต้อง ส่วนมาลแวร์อื่นๆที่เหลือเราก็ใช้โปรแกรมเฉพาะทางอื่นๆ ช่วย เช่น โปรแกรมป้องกันโทรจัน โปรแกรมป้องกันสปายแวร์ ไฟล์วอล และอื่นๆ


    และสุดท้ายจาก...http://www.pantip.com/tech/software/...SV1659498.html

    สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้คอมพิวเตอร์ติด malware (virus, worm, trojan, spyware, etc)

    1. ทางอีเมลล์ โดยเฉพาะการดูดอีเมลล์จาก pop3 server ด้วยโปรแกรมอย่าง Outlook Express ส่วนใหญ่จะเป็นพวกหนอนอินเตอร์เน็ตประเภท

    mass-mailing worm เช่น Netsky, Beagle, Mydoom

    2. จากช่องโหว่ (vulnerability) ของระบบปฏิบัติการหรือของโปรแกรม โดย network worm, mass-mailing worm ที่โจมตีช่องโหว่ของ Windows เช่น Blaster, Sasser, Bobax ซึ่งต่อไปอาจจะเป็นกรณีของ zero-day attack

    3. จากการเข้าไปในเว็บที่มี malicious script/malware ซ่อนอยู่ก็อย่างเว็บโป๊ เว็บ crack ทั้งหลาย เช่นพวก dialer, trojan downloader,

    spyware, browser hijacker

    4. จากการเข้าไปในเว็บธรรมดาที่ติดไวรัสเช่น VBS/Redlof

    5. จากการเคลื่อนย้ายไฟล์จากเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งผ่านทางแผ่นดิสก์เช่น macro virus ที่อยู่ในไฟล์ของ MS Office

    6. การดาวโหลดไฟล์จากเครือข่าย P2P อย่างเช่น KaZaA เช่น P2P worm และโทรจันทั้งหลาย

    7. จากการดาวโหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถืออย่างเช่นเว็บ crack, warez ส่วนใหญ่จะเป็นพวก private/modified trojan

    8. จากการเล่นหรือรับไฟล์จากโปรแกรมประเภท Instant Message เช่น MSN, ICQ

    9. จากการเล่นโปรแกรมประเภท IRC เช่น Pirch98 เช่น IRC Worm และอื่นๆ ที่ยังนึกไม่ออกตอนนี้

    เรามาดูความหมายของชื่อไวรัสกันครับ

    เพื่อนๆคงจะเห็นรายชื่ออัพเดทไวรัสตรงหน้าเว็บต่างๆเป็นประจำ และเคยสงสัยกันบ้างไหมครับ ว่าชื่อของไวรัสที่เห็นทั่วไปนั้นมีความหมายว่าอย่างไร

    ส่วนประกอบของชื่อไวรัสนั้นแบ่งได้เป็นส่วนๆ ดังนี้ครับ
    Family_Names Group_Name Variant Tail
    W32 Mydoom bb @mm



    1. ส่วนแรกแสดงชื่อตระกูลของไวรัส (Family_Names)
    ส่วนมากแล้วจะตั้งตามที่ไวรัสตัวนั้น ก่อปัญหาขึ้นกับระบบปฏิบัติการอะไร หรือภาษาที่ใช้ในการเขียนของไวรัส ดังตารางนี้

    Family_Names ความหมาย

    WM ไวรัสที่เป็นมาโครของโปรแกรม Word
    W97M ไวรัสที่เป็นมาโครของโปรแกรม Word 97
    XM ไวรัสที่เป็นมาโครของโปรแกรม Excel
    X97M ไวรัสที่เป็นมาโครของโปรแกรม Excel 97
    W95 ไวรัสที่มีผลกระทบกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 95
    W32/Win32 ไวรัสที่มีผลกระทบกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 32 บิต
    WNT ไวรัสที่มีผลกระทบกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ NT 32 บิต
    I-Worm/Worm หนอนอินเทอร์เน็ต
    Trojan/Troj โทรจัน
    VBS ไวรัสที่ถูกพัฒนาด้วย Visual Basic Script
    AOL โทรจัน America Online
    PWSTEAL โทรจันที่มีความสามารถในการขโมยรหัสผ่าน
    Java ไวรัสที่ถูกพัฒนาด้วยภาษาจาวา
    Linux ไวรัสที่มีผลกระทบกับระบบปฏิบัติการลินุกซ์
    Palm ไวรัสที่มีผลกระทบกับระบบปฏิบัติการ Palm OS
    Backdoor เปิดช่องให้ผู้บุกรุกเข้าถึงเครื่องได้
    HILLW บ่งบอกว่าไวรัสถูกคอมไพล์ด้วยภาษาระดับสูง


    2. ส่วนชื่อของไวรัส (Group_Name)
    ตัวนี้จะถูกตั้งขึ้นจากชื่อของผู้ที่เขียนไวรัส หรือนามแฝง ที่ใช้แทรกในโค้ดของตัวโปรแกรมไวรัส


    3. ส่วนของ Variant
    รายละเอียดส่วนนี้จะบอกว่าสายพันธุ์ของไวรัสชนิดนั้นๆ มีการปรับปรุงสายพันธุ์จนมีความสามารถต่างจากสายพันธุ์เดิมที่มีอยู่

    Vvariant มี 2 ลักษณะคือ

    Major_Variants จะตามหลังส่วนชื่อของไวรัส เพื่อบ่งบอกว่ามีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน เช่น W32.Mydoom.bb@MM (bb เป็น Major_Variant) แตกต่างจาก W32.Mydoom.Q@MM อย่างชัดเจน
    Minor_Variants ใช้บ่งบอกในกรณีที่แตกต่างกันนิดหน่อย ในบางครั้ง Minor_Variant เป็นตัวเลขที่บอกขนาดไฟล์ของไวรัส ตัวอย่างเช่น W32.Funlove.4099 หนอนชนิดนี้มีขนาด 4099 KB.

    4. ส่วนท้าย (Tail)
    เป็นส่วนที่จะบอกว่าวิธีการแพร่กระจาย ประกอบด้วย

    @M หรือ @m บอกให้รู้ว่าไวรัสหรือหนอนชนิดนี้เป็น "mailer" ที่จะส่งตัวเองผ่านทางอี-เมล์เมื่อผู้ใช้ส่งอี-เมล์เท่านั้น
    @MM หรือ @mm บอกให้รู้ว่าไวรัสหรือหนอนชนิดนี้เป็น "mass-mailer" ที่จะส่งตัวเองผ่านทุกอี-เมล์แอดเดรสที่อยู่ในเมล์บอกซ์

    ตัวอย่าง
    W32/Mydoom.bb@mm หมายความว่า
    ไวรัสชนิดนี้โจมตีในเพลตฟอร์มของวินโดว 32 บิต
    ชื่อของไวรัสคือ Mydoom
    Variant สายพันธุ์ของตัวนี้คือ bb
    และมีความสามารถที่จะส่งตัวเองผ่านทุกอี-เมล์แอดเดรสที่อยู่ในเมล์บอกซ์


  2. #2
    Junior Member
    Join Date
    Mar 2008
    Posts
    5


    ครับผม

    เข้าใจแล้วครับ

    เพราะผมก็ไม่รู้ว่า มันจะมีหลายๆ ชนิดขนาดนี้

    อ้อ ครับ

    ก่อนที่ผมจะไป

    ผมขอถามคำถามอย่างนึงครับ คือ

    Stealth Virus คืออะไร

    เเค่นี้ครับ

    ว.พ.แม็คเบลน
    [b][color=#FF0000]YOU MUSN'T GIVE A FISH TO A CHILD BUT RATHER TEACH A CHILD HOW TO FISH[/color][/b][size=7]

  3. #3
    Junior Member
    Join Date
    Mar 2008
    Posts
    12


    Wink

    อ่านแล้วทำให้เข้าใจอีกว่าเป้าหมายของ virus คืออะไร worm คืออะไร spyware คืออะไร
    จะได้เอาไปใช้ได้ถูกที่รึ ก้อแก้ได้ถูกที่ถูกทาง ขอบคุงที่ให้ความรู้เพิ่มคับ
    กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว >>> ใช้กับคนขี้เกียจไม่ได้
    I am Legend
    [img]http://thumbnail076.mylivepage.com/chunk76/1299664/841/small_wolf_9.jpg.jpg[/img]

Similar Threads

  1. ความแตกต่างระหว่าง Virus, Worm, Spyware, Trojan, Malware
    By piece303 in forum บทความ คอมพิวเตอร์ ทัวไป
    Replies: 0
    Last Post: 13-10-2007, 11:41 PM
  2. Replies: 0
    Last Post: 16-07-2007, 12:33 AM

Members who have read this thread : 0

Actions : (View-Readers)

There are no names to display.

Tags for this Thread

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •