<div align="center"> บทนำ</div>
<blockquote>การพัฒนายาให้มีประสิทธิภาพนั้นมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องที่หลากหลาย ได้แก่ ส่วนประกอบต่างๆในตำรับ, คุณสมบัติทางเคมีกายภาพของสารที่ใช้ และสภาวะการผลิต ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ส่งผลไปถึงคุณภาพของตำรับ ในด้านต่างๆ เช่น ประสิทธิภาพ, ความปลอดภัย, ความคงตัว, การยอมรับจากผู้ใช้ เป็นต้น ทำให้ การพัฒนาสูตรตำรับยาด้วยวิธีดั้งเดิมต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ และประสบการของผู้พัฒนาตำรับมาก อีกทั้งยังสิ้นเปลืองทั้งเวลาและงบประมาณ เนื่องจากต้องมีการทดลองสูตรตำรับต่างๆ และทดสอบคุณภาพต่างๆ ในห้องปฏิบัติการ</blockquote>
<div align="center">
รูปที่ 1 กระบวนการพัฒนาสูตรตำรับยา</div>

<blockquote>ปัจจุบันจึงมีการใช้เครื่องมือต่างๆ มาช่วยในการพัฒนาสูตรตำรับ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องมือทดสอบแบบอัตโนมัติต่างๆ หรือวิธีการทางสถิติใหม่ๆ เพื่อลดจำนวนตัวอย่างที่ใช้ทดสอบลง แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่มาก ทำให้มีการพัฒนาเครื่องมือที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการช่วยพัฒนาสูตรตำรับ ซึ่งเป็นวิธีการที่มีศักยภาพ อีกทั้งยังประหยัดเวลาและงบประมาณ
การใช้คอมพิวเตอร์ในการพัฒนาสูตรตำรับนั้นสามารถใช้ได้ในหลายๆ ขึ้นตอน ตั้งแต่การศึกษาก่อนตั้งตำรับ จนถึงเสร็จสิ้นออกมาเป็นตำรับพร้อมที่จะจำหน่ายได้
1. ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในศึกษาก่อนตั้งตำรับ (Pre-formulation study)
ในขั้นตอนศึกษาก่อนตั้งตำรับนั้น คอมพิวเตอร์สามารถช่วยในการทำนาย คุณสมบัติต่างๆ ของสารที่ใช้ในตำรับ จากโครงสร้างทางเคมี เช่น สมบัติการละลายน้ำของสัณฐานต่างๆ ,ค่า partition coefficient ของสาร, คุณสมบัติความเป็นกรดเบสของสาร ตลอดจน การเกิดความไม่เข้ากันของสารต่างๆ ได้
2. ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการคัดเลือกตำหรับที่เหมาะสม
คอมพิวเตอร์สามรถช่วยในการคัดเลือกสูตรตำรับ ที่จะนำไปทดสอบจริงในห้องปฏิบัติการได้ คอมพิวเตอร์สามารถจำลองประสิทธิภาพของตำรับจากปัจจัยต่างๆ ในตำรับได้ เสมือนการทำการทดลองจริงได้
3. ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการจัดระเบียบและประมวลผลข้อมูล
ผลการทดลองที่ได้สามารถนำมาบันทึกในระบบฐานข้อมูลของคอมพิวเตอร์เพื่อนำไปแปรรูปและประมวลผลให้ได้ข้อมูลใหม่ที่มีประโยชน์มากขึ้น เช่นการทำเหมืองข้อมูล (Data mining) </blockquote>
<div align="center"></div>
[/hide]