โห้ เจองี้ไปเครียดเรยนะนี้
โห้ เจองี้ไปเครียดเรยนะนี้
มันก็น่าจะจริงนะครับ การกระทำที่ทำร้ายตนเองให้ต่ำกว่าเดิมก็ถือเป็นการทำบาปทั้งสิ้น
ผมว่า ยังไงก็คงไม่ผิดศีลหรอกครับ หากแต่เราทำอยู่เพียงฝ่ายเดียว ไม่ไปทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ต่อการกระทำของเรา แต่หากหมกมุ่นกับเรื่องพวกนี้บ่อยๆ จะทำให้ความคิดเกิดการหมดมุ่นแต่เรื่องเดิมๆ อาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่นได้ เช่นไปข่มขืนผู้อื่น หรืออะไรหลายๆอย่าง หลักธรรมะ พระพุทธเจ้าสอนให้คิดเสมอครับ ถึงยังไง ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีเหตุผลในตัวของมันเอง
เหอๆๆ
ต้องคิดอีกแง่ครับ ผมคิดว่า
ถ้าไม่มีการช่วยตัวเองแล้ว สิ่งที่ตามมาคือ ?
การไปหาทางออก[ที่ระบายอารมณ์]ที่อื่น ประชากรที่เกินสมดุล โรคติดต่อ และก็วันๆไม่ทำอะไร อะนะ - -''
สิ่งต่างๆ อาจจะทำให้เกิดบาปลูกโซ่ที่มากขึ้น
ทำเช่นนี้ไม่ได้ ไปทำกับผู้อื่น ทำ ทำ ทำ ทำ ... ไม่มีวันหมดสิ้น เมื่อมีคนนำ ก็ต้องมีคนตาม
สรุปบาปน้อย ก็ยังดีกว่า นะครับ
เอาอย่างนี้ดีกว่าครับ
ถ้ารู้ว่าเป็นสิ่งที่ผิดแล้วยังทำ เรียกว่าบาปครับ
ถ้าไม่รู้แล้วทำ เรียกว่าผิด
แต่ทั้งสองขึ้นอยู่กับการสำนึกว่าผิดไปแล้วต้องไปปรับปรุงแก้ไขไม่กระทำซ้ำอีก
แต่ถ้ารู้แล้วยังทำมันก็จะติดเป็นสันดานและแก้ไขอยากครับ
ธรรมชาติของคนที่เป็นเพศผู้ หรือเพศชายนั้น อสุจิจักต้องเคลื่อนอยู่แล้ว ไม่มีผู้ใดที่สามารถเก็บมันไว้ได้โดยไม่ให้มันเคลื่อนไป2.ตั้งใจทำให้อสุจิเคลื่อน บาป ผิดศีล ทำให้สิ่งมีชีวิตหลายล้านตัว ตายไป[/b]
หากจักเก็บมันไว้ มันจักเป็นความทรมานตัวเองเปล่าๆ
![]()
ในส่วนตัวของผมคิดว่าไม่บาปน่ะครับ
ถ้าปฎิบัติในทางที่ถูก อย่างการช่วยตัวเองไีรประมานเนี่ย
ก้อพึ่งเรียนผ่านมามันเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์เราในเรื่องเพศ
ความอยากหรือพวกผิดปกติทางเพศ ถ้าเกิดดูสิ่งเหล่านั้นแล้วไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับ
คนอื่นในความคิดผมผมคิดว่าดูไปเหอะ ดีกว่าเกิดอาการอยากแล้วไปเที่ยวไล่ฆ่าข่มขืนคนอื่นเค้า
เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น ^^
สนับสนุนโอกาสการทำความดีของทุกคนครับ
บาปนั้นมันอยู่ที่จิตเราปรุงแต่งแบบใดมนุษยืเรา มีองค์ประกอบหลัก 2 อย่าง ตามสมการ คือ กรรมดี กรรมชั่ว
ซึ้งเราเป็นคนที่นำมันมายึดติดเอง ตามสมการที่ผมค้นพบในการศึกษาพระธรรมของเด็กม.3 ผมรู้ว่าเราเป้นคนกำหนดให้เกิดให้ตายจิตเราปรุงแต่งตลอดเวลา ตามทฤษฏีแล้วดลกมีกำ 3 ข้อคือเกิดขึ้น ตั้งอยุ่ และดับไป แต่นิพพาน นั้นขัดแย้งกับ ทฤษฏีนี้คือเกิดขึ้น ตั้งอยุ่ แต่ไม่ดับไป นี้เป็นปริศนาธรรม ผมยังหาคำตอบได้ 50 %ต้องหาอีกนานอยุ่ครับ
ผมว่าเราต้องคิดถึงว่าเราจำเป็นหรือที่ต้องทำสิ่งนั้นถ้าไม่จะทำทำไมคิดแบบนี้ก็ทำแล้วเราจะปรงตัวเองใน
จิต
โหหหห เยี่ยมมากเลยกระทู้นี้โดนอย่างจัง 555
แต่ผมว่าการที่จะบาปไม่บาปมันก็ขึ้นอยู่กับจิตใจนะครับ ที่กล่าวมาก็อาจจะถูกอยู่บ้าง คือมันต้องแล้วแต่เหตุการณ์และสถานะการณ์ ณ ตอนนั้นหน่ะครับ ก็แล้วแต่คนจะคิดกันแล้วหล่ะครับ อิอิ ถ้าเราไม่หมกมุ่นกับเรื่องแบบนี้จนเกินไป มันก็ไม่ทำให้จิตใจเราต่ำลงไปได้หรอกครับ จริงไหม ??
Actions : (View-Readers)
There are no names to display.