Low Level Format ต่างกับการ format ธรรมดาอย่างไร พร้อมตัวอย่างวิธีทำ

LLF หรือ Low Level Format ฮาร์ดดิสก์ ในสมัยก่อน ๆ จะเป็นขั้นตอนของการทำการ format ฮาร์ดดิสก์ในระดับลึก ๆ ที่ไม่ใช่การ format ธรรมดา โดยจุดประสงค์คือ เพื่อเป็นการจัดระบบการเก็บข้อมูลของ ฮาร์ดดิสก์ใหม่ และแก้ไขปัญหา bad sector ของฮาร์ดดิสก์ได้ด้วย แต่ในปัจจุบันนี้ ฮาร์ดดิสก์ส่วนใหญ่ มักจะไม่จำเป็นจะต้องทำการ Low Level Format แล้ว เพียงแค่ใช้วิธีการ format ธรรมดาก็มีความหมายเหมือนกัน โดยที่การทำ Low Level Format สมัยใหม่ ๆ นี้จะเป็นเพียงแค่การทำ Zero Fill หรือการลบข้อมูลออกไปโดยการเขียนข้อมูลทับให้หมด นั่นเอง
Low Level Format ต่างกับการ format ธรรมดาอย่างไรฮาร์ดดิสก์ เมื่อซื้อมาใช้งานครั้งแรก จำเป็นต้องทำการ format ก่อนเพื่อให้สามารถใช้งาน สำหรับการเก็บข้อมูลต่าง ๆ ได้ แต่เมื่อเรามีการใช้งาน ฮาร์ดดิสก์นั้น ไปนาน ๆ ในบางครั้ง หากพบว่า ฮาร์ดดิสก์เริ่มจะมีปัญหา เช่นการอ่านหรือเขียน ข้อมูลต่าง ๆ เริ่มมีอาการสะดุดหรือค้างเป็นบางครั้ง และหากใช้โปรแกรม scan disk ตรวจสอบ อาจจะพบว่า เริ่มจะมีส่วนของ bad sector เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ นั่นคืออาการเริ่มต้น ของฮาร์ดดิสก์ที่ใกล้จะมีปัญหา การทำการ format ฮาร์ดดิสก์แบบธรรมดา โดยใช้คำสั่ง format ที่มากับระบบ DOS หรือ Windows จะเป็นเพียงแค่การทดสอบว่า พื้นที่ของฮาร์ดดิสก์ส่วนนั้น เสียจริงหรือไม่ หากตรวจสอบแล้วพบว่าเสีย ก็จะทำการ mark ตำแหน่งนั้นไว้ว่าเสีย และจะไม่มีการใช้งานพื้นที่ส่วนนั้นอีกต่อไป หรือที่มักจะเรียกพื้นที่ที่เสียนั้นว่า bad sector นั่นเอง ดังนั้น หากฮาร์ดดิสก์มี bad sector เกิดขึ้น ก็ไม่ต้องสนใจอะไรมากนัก เพียงแค่การ mark bad sector ก็เพียงพอแล้วแต่ในกรณีที่ พื้นที่ของฮาร์ดดิสก์ เริ่มที่จะมีจุด bad sector เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ นั่นเป็นอาการที่แสดงว่า ฮาร์ดดิสก์เริ่มจะมีปัญหา ซึ่งหากเราใช้วิธีการ format ธรรมดา หรือการ mark bad ก็ไม่ช่วยอะไรได้มากนัก เพราะว่าพื้นที่ของฮาร์ดดิสก์ จะมีพื้นที่ที่เสีย เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ จนไม่สามารถใช้งาน เก็บข้อมูลต่าง ๆ ได้ ดังนั้น หากเป็นถึงระดับนี้ การทำ Low Level Format อาจจะเป็นหนทางหนึ่ง ที่จะสามารถช่วยต่ออายุการใช้งานฮาร์ดดิสก์ ออกไปได้อีกระยะหนึ่ง