โฆษก สธ. เผยข้อมูลน่าตกใจคนไทยบริโภค
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปีละกว่าสองพันล้านซอง
เฉลี่ยวันละ 8 ล้านซอง เตือนประชาชนกินบะหมี่เกิน
วันละซองอาจเสี่ยงเป็นความดันโลหิตสูงและโรคไต
เพราะร่างกายรับสารโซเดียมเกินความต้องการ
แนะเติมผัก-ไข่-หมูลงทุกครั้ง เพื่อรับสารอาหาร
ครบถ้วน ไม่ควรกินแบบดิบ เพราะเส้นบะหมี่จะพอง
ตัวเกิดจุกแน่นในท้องได

เมื่อวันที่ 28 ต.ค. นายสง่า ดามาพงศ์ โฆษก
กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีกลุ่มผู้ผลิต
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จะขอรัฐบาลปรับขึ้นราคาอีกซองละ
1 บาท ว่า ให้ถือโอกาสการขึ้นราคานี้รับประทานบะ
หมี่ให้คุ้มค่า ให้เป็นคุณต่อร่างกาย ส่วนประกอบของ
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปส่วนใหญ่ ร้อยละ 60-70 เป็นแป้งสาลี
รองลงมาเป็นไขมัน และเกลือโซเดียม คือเกลือและผง
ชูรสในเครื่องปรุง หากกินมากกว่า 1 ซอง หรือ 1 ถ้วย
ต่อวัน จะทำให้ร่างกายได้รับปริมาณโซเดียมเกินความต้องการ
ของร่างกายต่อวัน 0.5-1 เท่าตัว ส่งผลต่อระบบการทำ
งานของไต เสี่ยงต่อการเกิดภาวะความดันโลหิตสูงได้


นายสง่ากล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชนเลือกรับประทาน
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ฉลากระบุว่าเติมสารไอโอดีน
ธาตุเหล็ก และวิตามินเอ และควรเพิ่มเติมไข่หรือเนื้อ
สัตว์และผักลงไปทุกครั้ง อาจเติมเครื่องปรุงครึ่งซอง
หรือน้อยกว่า และไม่ควรรับประทานแบบดิบ ๆ เพราะ
เส้นบะหมี่จะลงไปพองตัวในกระเพาะอาหาร เกิดการจุก
แน่นท้องได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรรับประทานบะหมี่กึ่ง
สำเร็จรูปติดต่อกันเป็นประจำนาน ๆ เพราะการกินซ้ำ
ซากจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน หรือ
ได้รับอย่างใดอย่างหนึ่งมากเกินไป

?ผมขอแนะนำว่าให้รับประทานอาหารไทยที่มีสาร
อาหารครบ 5 หมู่ สลับหรือทดแทน เช่น ข้าวราดแกง
ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ ขนมจีน ข้าวผัด แม้จะแพงกว่าเล็ก
น้อยก็ตาม เรามีข้อมูลว่าคนไทยรับประทานบะหมี่กึ่ง
สำเร็จรูปปีละมากกว่า 2,000 ล้านซอง เฉลี่ยประมาณ
วันละ 8 ล้านซองเลยทีเดียว? โฆษกสธ.กล่าวตอนท้าย.


credit postjung