ได้ FW Mail มาค่ะ เห็นว่ามีประโยชน์ เลยนำมาฝากค่ะ
Bios ของเมนบอร์ดสมัยใหม่จะมีฟังก์ชั่นพิเศษซ่อนอยู่มากมาย
เบื้องหลังการทำงานอะไรที่จะทำให้เครื่องทำงานได้เร็วบ้าง
Hyper Path2 เพิ่มความเร็วให้หน่วยความจำด้วยวงรอบในการรอที่สั้นกว่า
สิ่งที่เกิดขึ้น : ลดเวลาในการรอ หรือ Latency ของการติดต่อกันระหว่างหน่วยความจำ กับคอนโทรลเลอร์ในชิบเซ็ตให้สั้นลง เหมือนกับการทำงานของเทคนิค PAT ที่อินเทลนำมาใช้กับชิปเซ็ต i875P ซึ่งผลที่ตามมาก็คือ หน่วยความจำจะส่งผ่านข้อมูลได้เร็วขึ้นอีกประมาณ 10-15%
คำแนะนำ : ควรจะเปิดใช้ฟังก์ชั่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเมนบอร์ดที่ใช้ชิปเซ็ต i915 เพราะโดยค่ามาตราฐานแล้ว เมนบอร์ดจะปิดไว้(Disable) และเมื่อเปิดใช้งานแล้วฟังก์ชั่น Hyper Path2 จะทำให้ระบบทำงานได้เร็วเทียบเท่าเมนบอร์ดที่ใช้ชิปเซ็ต i925x เลยทีเดียว ส่วนเมนบอร์ดที่ใช้ชิปเซ็ต i925x นั้นจะไม่มีผลอะไร เพราะจะถูกให้ทำงานในค่าอัตโนมัติอยู่แล้ว (ฟังก์ชั่นนี้มีเฉพาะเมนบอร์ดของ Asus เท่านั้น แต่การทำงานก็ไม่ต่างอะไรกับเทคนิค PAT ของอินเทลเลยแม้แต่น้อย
Performance Mode ปรับค่าพารามิเตอร์ต่างๆ ให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์โดยอัตโนมัติ
สิ่งที่เกิดขึ้น : เมื่อกำหนดให้ทำงานในโหมดนี้ ระบบจะทำการปรับค่าพารามิเตอร์ต่างๆ ที่จำเป็นให้ทำงานได้อย่างเหมาะสมที่สุดโดยอัตโนมัติ แต่อย่างไรก็ตามค่ากำหนดต่างๆ จะแตกต่างกันไปตามผู้ผลิตเมนบอร์ด
คำแนะนำ : ให้เปิดใช้งานด้วยการกำหนดให้เป็น Enable แล้วเลือกให้ทำงานในโหมด Turbo จากนั้นตรวจสอบเสถียรภาพการทำงานของระบบด้วยการรันโปรแกรม 3D Mark ประมาณสามถึงห้ารอบ ถ้าเครื่องไม่สามารถทำงานได้ก็ให้เลิกใช้ฟังก์ชั่นนี้
PEG Link Mode เพิ่มความเร็วให้กับการ์ดแสดงผล Pci Express ที่ใช้ชิปกราฟิก Radeon x600
สิ่งที่เกิดขึ้น : Asus ได้นำฟังก์ชั่นนี้มาติดตั้งไว้กับเมนบอร์ดที่ใช้ชิปเซ็ต i915 และ i925 x ของตนเพื่อช่วยให้การ์ดแสดงผล Redeon x600 ของ ATI ทำงานได้เร็วขึ้น โดยเมื่อฟังก์ชั่นนี้ทำงานความเร็วของชิปกราฟิก และหน่วยความจำบนการ์ดแสดงผลจะทำงานได้เร็วขึ้นอีกเล็กน้อย
คำแนะนำ : แม้ว่าฟังก์ชั่นนี้จะทำให้การ์ดทำงานได้เร็วขึ้นจริง แต่ก็จะใช้งานอย่างได้ผลเฉพาะเมื่อการ์ดใช้ชิปกราฟิก Redeon x600 เท่านั้น ชิปกราฟิกรุ่นอื่นๆ จะไม่มีผลใดๆ ทั้งสิ้น หลังจากกำหนดค่าเป็น Faster แล้ว การ์ดจะแสดงผลได้เร็วขึ้น 2-3%
Pci Express Frequency เพิ่มความเร็วให้กับการ์ด Pci Express ทุกตัว
สิ่งที่เกิดขึ้น : เพิ่มความเร็วในการทำงาน ความเร็วที่เปลี่ยนไปนี้จะมีผลกับการเชื่อมต่อทั้งหมดที่เป็นมาตราฐาน Pci-Express บนเมนบอร์ด ถึงแม้ว่าความเร็วนี้จะทำให้ส่งผ่านข้อมูลได้เร็วขึ้น แต่ก็ทำให้อาจเกิดปัญหาขึ้นกับอุปกรณ์บางอย่างได้ เช่น คอนโทรลเลอร์สำหรับเน็ตเวิร์ก Gbit-LAN ที่จะถูกโอเวอร์คล๊อกไปพร้อมๆ กันด้วย
คำแนะนำ : ตั้งค่ากำหนดนี้เป็น Auto ดีกว่า เพราะความเร็วที่เพิ่มขึ้นยังไม่ทำให้เกิดประโยชน์อะไรในทางปฏิบัติ และในขณะเดียวกันก็ยังไม่มีอุปกรณ์ Pci-Express ตัวใดที่จะใช้ประโยชน์ของแบนด์วิดธ์ที่เพิ่มขึ้นมาได้ เพราะเพียงแค่ความเร็ว 4 GB/S ของระบบบัส Pci-Express x16 ก็มากเกินกว่าที่การ์ดยุคใหม่จะนำไปใช้แล้ว
ข้อมูลเพิ่มเติม : สำหรับเมนบอร์ซ็อกเก็ต 775 ของ Abit นั้นสามารถเพิ่มความเร็วให้กับอุปกรณ์ Pci-Express ได้ด้วยฟังก์ชั่น Pci-Express clock ซึ่งจะอยู่ในเมนู MyGuRu utility>OC Guru
CPU Lock Free ปลดล็อกตัวคูณสัญญาณนาฬิกาของ CPU Pentium4 Prescott
สิ่งที่เกิดขึ้น : ที่ผ่านมานั้นยังไม่มีวิธีการใดที่จะปลดล็อกตัวคูณสัญญาณนาฬิกาของ CPU Pentium4 ได้ แต่ตอนนี้สามารถปลดล็อกตัวคูณนี้ได้แล้ว หลังจากใช้ฟังก์ชั่นนี้จะสามารถเลือกใช้ค่าตัวคูณสัญญาณนาฬิกาได้ตั้งแต่ 14x จนถึง 18x อย่างไรก็ตามจะทำงานได้ผลก็ต่อเมื่อ CPU ที่ใช้สนับสนุนเท่านั้น นั่นคือ CPU ซ็อกเก็ต 775 จะต้องมีค่า PCG (Platform Compatibility Guide) เป็น 04B ในปัจจุบันมีเพียงรุ่น 550, 560, 570 ที่มีความเร็ว 3.4, 3.6 และ 3.8 GHz เท่านั้น
คำแนะนำ : กำหนดค่าไว้เป็น Enable เสมอ เพื่อให้สามารถเลือกใช้ตัวคูณสัญญาณนาฬิกาค่าต่างๆ ได้ จากนั้นจึงค่อยเพิ่มความเร็วบัส และปรับค่าที่จำเป็นต่างๆ สำหรับการโอเวอร์คล็อกต่อไป
Ratio CMOS-Setting เปลี่ยนค่าตัวคูณสัญญาณนาฬิกาเพื่อให้สามารถเพิ่มความเร็วบัสได้มากขึ้น
สิ่งที่เกิดขึ้น : หลังจากที่ CPU ถูกปลดล็อกตัวคูณสัญญาณนาใกาแล้ว จะสามารถเลือกใช้ค่าตัวคูณสัญญาณนาฬิกาสำหรับ CPU Pentium4 ได้ตั้งแต่ 14x จนถึง 18x
คำแนะนำ : โดยปกติแล้วมีทางเลือกอยู่สองทาง คือเลือกใช้ค่าตัวคูณที่สูงกว่าเดิม แต่วิธีการนี้ไม่แนะนำให้ใช้ค่าตัวคูณที่สูงเกินสองนั้นจากค่าปกติของ CPU เพราะ CPU จะมีเสถียรภาพในการทำงานที่ต่ำลงมาก ส่วนการเลือกใช้ค่าตัวคูณที่ต่ำลงนั้น แม้ว่าครั้งแรก CPU จะทำงานช้าลง แต่ก็จะเพิ่มความเร็วบัส (Cpu Frequency) ได้สูงกว่าปกติมาก และความเร็วของซีพียูก็จะสูงขึ้นมาเอง เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการแรกด้วยความเร็วที่เท่ากันแล้ว วิธีที่สองนี้จะทำให้เครื่องทำงานได้เร็วกว่า เพราะความเร็วบัสที่เพิ่มขึ้นได้ทำให้หน่วยความจำ และส่วนประกอบอื่นๆ ทำงานเร็วขึ้น
CPU Frequency เปลี่ยนความเร็วบัสเพื่อให้ (FSของซีพียูทำงานได้เร็วขึ้น
สิ่งที่เกิดขึ้น : ซีพียูจะรับ-ส่งข้อมูลกับชิปเซ็ต (MCH) โดยผ่านทาง FSB (Front side Bus) ซึ่งความเร็ว FSB ของซีพียู Pentium4 นี้จะเป็นผลมาจากการทำงานแบบ QDP กับระบบบัสความเร็ว 200 MHz หรือเร็วขึ้นอีกสี่เท่า ดังนั้นเมื่อเพิ่มความเร็วบัสของระบบให้สูงขึ้น นอกจากจะทำให้ความเร็วของซีพียูเร็วขึ้น ความเร็ว FSB ก็จะสูงขึ้น และระบบก็จะมีประสิทธิภาพโดยรวมที่สูงขึ้นด้วย
คำแนะนำ : ระบบที่ใช้ทดสอบสามารถเพิ่มความเร็วบัสได้สูงถึง 260 MHz ซึ่งเมื่อรวมกับการใช้ค่าตัวคูณสัญญาณนาฬิกา 15x แล้วซีพียู Pentium4 จึงมีความเร็วถึง 3.9 GHz และทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพ แต่เมื่อเพิ่มความเร็วถึง 4.0 GHz ระบบจะไม่สามารถทำงานต่อไปได้ และโดยทั่วไปหากต้องการให้เครื่องยังทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพก็ไม่ควรเพิ่มความเร็วบัสให้สูงเกินกว่า 15 หรือ 20%
AI N.O.S. ใช้ฟังก์ชั่นพิเศษ และออปชั่นเสริม สำหรับเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
สิ่งที่เกิดขึ้น : ฟังก์ชั่นพิเศษของ Asus ที่มาจากคำเต็มว่า Artificial Intelligence Non-delay overclocking ซึ่งใช้สำหรับโอเวอร์คล๊อก หรือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบให้สูงขึ้นอีก 20% โดยอัติโนมัติเมื่อเครื่องทำงานภายใต้สภาวะที่มีการโหลดการทำงานอย่างเต็มที่
คำแนะนำ : ที่เมนู Advanced>Jumperfree Configuration จะมีฟังก์ชั่น AI N.O.S. อยู่สำหรับทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของชิปพิเศษที่จัดการการทำงานของระบบในสภาวะโหลด กล่าวคือเมื่อมีระดับการโหลดมากๆ อย่างเช่น เล่นเกมสามมิติ และเข้ารหัสวีดีโอ จะมีการเพิ่มความเร็วบัสให้สูงขึ้นไปตามจำนวนเปอร์เซ็นที่กำหนดไว้ เพื่อระบบมีประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้น แต่เมื่อระบบไม่มีการโหลดแล้วฟังก์ชั่นนี้จะลดความเร็วบัสลงจนอยู่ในระดับปกติโดยอัติโนมัติ การกำหนดค่าแนะนำใตั้งค่า Turbo N.O.S ไว้ที่ Overclock 10% เพราะการทดสอบที่ผู้ใช้ซีพียู Pentium 560 นั้นทำงานได้เร็วถึง 3.9 GHz (18x220MHz) อย่างมีเสถียรภาพ ทั้งที่ใช้เพียงชุดระบายความร้อนธรรมดา สำหรับผู้ผลิตรายอื่นก็มีลักษณะคล้ายๆ กัน เช่น MSI ที่ใช้ชื่อว่า DOT (Dynamic Overclocking Technology) เมื่อเข้าไปในไบออสแล้วไปที่หัวข้อ Frequency / Voltage Control>Dynamic Overclocking โดยครั้งแรกให้เลือก General ก่อน จากนั้นจึงค่อยลดหรือเพิ่มขึ้นทีละขั้นตามแต่เสถียรภาพของระบบ
ข้อมูลเพิ่มเติม : เมื่อกำหนดค่าในหัวข้อ AiBooster Support ในเมนู Advanced->Jumperfree Configuration ให้เป็น Enable แล้วยังสามารถใช้โปรแกรม
AiBooster ปรับแต่งการทำงานของฟังก์ชั่น AiBooster ปรับแต่งการทำงานของ AI N.O.S ในโหมดวินโดว์ส และตรวจสอบค่าที่เปลี่ยนไปต่างๆ ได้ด้วย อย่างไรก็ตามการปรับแต่งโดยใช้โปรแกรม อาจมีการหน่วงเวลาอยู่บ้างเล็กน้อย
S-ATA Mode เลือกใช้โหมดการทำงานต่างๆ ของฮาร์ทดิสก์ Serial ATA
สิ่งที่เกิดขึ้น : เลือกได้ว่าจะให้ฮาร์ทดิสก์ทำงานในโหมด IDE, RAID, AHCI
คำแนะนำ : ไบออส Award เข้าไปที่เมนู Integrated Peripherals>On chip IDE Device เพื่อเลือกใช้โหมดต่างๆ บางเวอร์ชั่นจะมีการทำงานแบบ RAID ให้เลือกก็ต่อเมื่อกำหนดค่าในหัวข้อ Onchip Serial ATA เป็น Enhanced Mode แล้ว กรณีที่ไบออสเป็นของ AMI ให้เลือกที่เมนู Integrated Peripherals>SATA Devices Configuration แล้วกำหนดค่าในหัวข้อ ATA/IDE Configuration เป็น Enhanced
ข้อมูลเพิ่มเติม : ฮาร์ทดิสก์ที่เชื่อมต่อด้วยช่องต่อ E-IDE จะถูกเรียกว่าเป็นอุปกรณ์ P-ATA แต่ไม่ว่าจะเป็นไบออสของ Award (ที่หัวข้อ Onchip Serial ATA) หรือ AMI (ที่หัวข้อ ATA/IDE Configuration>Compatible) ก็จะสามารถกำหนดค่าให้ฮาร์ทดิสก์ทั้งแบบเก่า และแบบใหม่นี้ทำงานควบคู่ไปด้วยกันได้