Results 1 to 9 of 9

Thread: สิ่งที่จิตระลึกก่อนตาย มี 3 ชนิด

  1. #1
    Junior Member
    Join Date
    Oct 2007
    Posts
    1


    สิ่งที่จิตระลึกก่อนตาย มี 3 ชนิด ของพระธรรมโกศาจารย์

    ๑. กรรม

    ภาพกรรมดีกรรมชั่วที่เคยทำในอดีตมักหวนกลับมาปรากฏให้เห็นทั้งๆ ที่เราลืมไปนานแล้ว เช่นใครเคยฆ่าคนตาย ภาพเหตุการณ์เกี่ยวกับฆาตกรรมจะกลับมาปรากฏในจิต ถ้าเคยช่วยชีวิตคนไว้ภาพตอนนั้นจะมาปรากฏ นี้แสดงว่านึกถึงกรรมหรือกระบวนการทำความดีหรือความชั่ว ดังพระบาลีว่าในสมัยนั้น กรรมทั้งหลายที่ตนทำไว้ก่อนนั้น ย่อมเกาะติดในจิตของบุคคลผู้ใกล้ตายนั้น

    ๒. กรรมนิมิต

    บางคนเคยเห็นภาพที่เป็นสัญลักษณ์ของการทำกรรม เช่นบางคนเห็นมีดที่ตนเคยใช้ฆ่าวัว บางคนนึกถึงภาพโบสถ์วิหารที่ตนเคยสร้าง เราระลึกถึงนิมิตของกรรมใด ก็จะไปเกิดใหม่ตามพลังของกรรมนั้น

    ๓. คตินิมิต

    บางคนไม่นึกถึงกรรมในอดีต แต่กลับนึกถึงภาพของที่ที่จะไปเกิดในชาติหน้านั้น คือเห็นคตินิมิต หมายถึงภาพเกี่ยวกับที่ที่จะไปเกิด เช่นใครที่จะไปเกิดในสวรรค์ คนนั้นจะนึกเห็นวิมาน ใครจะไปเกิดเป็นประเภทสัตว์กินหญ้า จะนึกเห็นทุ่งหญ้าเขียวขจี ภาพเหล่านี้เป็นนิมิตที่บอกล่วงหน้าว่าเราจะไปเกิดในภพภูมิใด คงเหมือนกับภาพที่บางคนฝันเห็นล่วงหน้าก่อนเกิดเหตุการณ์จริงๆ (สุบิน)

    รวมความว่าในวาระสุดท้ายของชีวิต จิตของเราระลึกถึงกรรม กรรมนิมิตหรือคตินิมิตประเภทใด เราจะไปเกิดในภพภูมิอันสอดคล้องกับกรรม กรรมนิมิตหรือคตินิมิตประเภทนั้น ดังนั้นบางคนวางแผนลักไก่คือชั่วชีวิตเขาทำบาปมากกว่าบุญ เขาจึงกะจะนึกถึงกรรมดีนิดหน่อยนั้นก่อนตาย ถ้านึกถึงพระด้วยตนเองไม่ได้ ก็สั่งลูกช่วยเตือนความจำ คนเรามักจะเตือนคนใกล้ดับจิตให้นึกถึงพระเอาไว้ แต่ใครทำบาปไว้มากคงไม่อาจหลอกตัวเองก่อนตายได้ ดังมีเรื่องเล่าว่า เสี่ยคนหนึ่งเป็นพ่อค้าขายข้าวเปลือก ชอบโกงชาวบ้านด้วยวิธีตวงข้าวเปลือกไม่เต็มถัง พอเสี่ยคนนี้ใกล้ตาย ลูกสาวก็กระซิบให้เตี่ยนึกถึงพระด้วยการบริกรรมว่า สัมมา อะระหังๆ แต่เตี่ยบริกรรมตามว่า สัมมา กี่ถังๆ

    แท้ที่จริงนั้น กรรมที่ปรากฏในจิตก่อนตาย มีลำดับการให้ผลก่อนหลัง ซึ่งแบ่งออกเป็น ๔ ชนิดคือ

    ๑. ครุกรรม (กรรมหนัก)

    กรรมหนักจะให้ผลก่อนกรรมอื่นๆ ถ้าใครทำกรรมหนักภาพของกรรมหนักจะปรากฏในจิตก่อนตาย กรรมอื่นต้องรอโอกาสต่อไป กรรมหนักฝ่ายดี เช่น สมาบัติ ๘ กรรมหนักฝ่ายไม่ดี คืออนันตริยกรรม ๕ เช่น ฆ่าพ่อฆ่าแม่ เป็นต้น

    ๒. อาจิณกรรม (กรรมที่ทำจนชิน)

    ถ้าไม่มีกรรมหนัก อาจิณกรรมจะให้ผลก่อนคือปรากฏในจิตก่อนตาย อาจิณกรรมหมายถึงกรรมที่ทำสม่ำเสมอจนเป็นนิสัย กรรมประเภทนี้มีความสำคัญรองมาจากครุกรรม

    ๓. อาสันกรรม (กรรมใกล้ตาย)

    ถ้าไม่มีครุกรรมและอาจิณกรรม อาสันกรรมจะให้ผล อาสันกรรมหมายถึงกรรมทำก่อนสิ้นใจ เช่นการทำสังฆทานก่อนตาย หรือนิมนต์พระมาสวดมนต์ให้ฟังในวาระสุดท้าย

    ๔. กตัตตากรรม (กรรมที่สักว่าทำ)

    ถ้ากรรมสามอย่างข้างต้นไม่มี กตัตตากรรมจะให้ผลโดยมาปรากฏในจิตก่อนตาย กตัตตากรรมหมายถึงกรรมด้วยเจตนาอันอ่อน คือไม่ได้ตั้งใจทำ เช่น เพื่อนเอาซองผ้าป่าให้ เราก็เอาเงินทำบุญใส่ซองทำบุญอย่างเสียไม่ได้ หรือแม่สั่งให้เราใส่บาตรพระเราก็ใส่ไปอย่างนั้นเอง นี้เป็นกตัตตากรรม ที่มีน้ำหนักน้อย เพราะเจตนาอ่อน

    เหตุดังกล่าวนี้เองทำให้เราไม่สามารถลักไก่ได้ นั่นคือ เช่นคนที่ทำอาสันกรรมด้วยการใส่บาตรพระ ก่อนตัวเองจะตายย่อมไม่สามารถหนีกรรมหนักที่เกิดจากการฆ่าพ่อแม่ไปได้ เป็นต้น เพราะกรรมต่างๆ ให้ผลตามลำดับอย่างนี้ เราจะไปเกิดที่ไหนก็ขึ้นอยู่กับกรรม กรรมนิมิต หรือคตินิมิตที่เรานึกถึงก่อนตาย


    บทความธรรมะนี้คัดจากธรรมเทศนาโดย พระเมธีธรรมาภรณ์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต)
    ปัจจุบันคือ พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต)


    ขอขอบพระคุณ
    พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต)

    ขอบคุณคุณ poivang
    จากWEBSITEhttp://www.dhamajak.net/board/viewtopic.php?t=3437&sid=fff060a0af046504919c2d462d6025c

    กุศลผลบุญใดที่พึงบังเกิดจากธรรมทานนี้ ขอน้อมถวายแด่พระเมธีธรรมาภรณ์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) และจงเป็นบุญเป็นปัจจัยแด่ท่านผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในธรรมทานนี้ทุกๆ ท่าน


  2. #2
    Junior Member
    Join Date
    Oct 2007
    Posts
    7


    เคยได้ยินมาว่าหากก่อนตายสภาวะจิตผ่องใสก็จะไปสู่สถานที่ที่ผ่องใส หากจิตตอนนั้นขุ่นมัวก็จะมุ่งไปหาที่ๆขุ่นมัว หากจิตฝักไฝ่สิ่งใดก็จะมุ่งไปกับสิ่งนั้นๆ เช่นหากนึกถึงปลาดุกที่ทุบหัวขายอยู่ประจำ จิตเป็นอกุศล ก็จะไปสู่อบายภูมิ พระท่านจึงแนะนำให้กำหนดจิตตลอดเวลา โดยการจับลมหายใจเข้าออก ทุกครั้งที่นึกได้ เพราะหากเราต้องตาย จิตจะได้ไม่วุ่นวาย ไม่มุ่งสู่อบายภูมิ อย่าน้อยหากที่ผ่านมาได้ทำบาปไว้เยอะหนักจะได้เป็นเบา

  3. #3
    Junior Member
    Join Date
    Oct 2006
    Location
    KKU
    Posts
    1


    กรรมคือการกระทำ การกระทำทุกอย่างที่เราแสดงออกมาเกิดความคิด เมื่อมีความคิด ความคิดนั้นจะถูกเก็บบันทึกบนจิตใต้สำนึกของเรา เมื่อถึงเวลาจิตใต้สำนึกของเราจะแสดงออกมาให้เห็นเป็นนามธรรมในแบบนิมิต
    [url="http://www.speedtest.net"][img]http://www.speedtest.net/result/197078644.png[/img][/url]

  4. #4
    Junior Member
    Join Date
    Jan 2008
    Posts
    5


    ผมเคยได้ยินมาว่า ก่อนที่จะตายให้นึกถึงพระพุทธเจ้านั้น จะได้ขึ้นสวรรค์เลยทันที ไม่ว่าจะทำกรรมมามากแค่ไหน

    ถ้าได้ขึ้นสวรรค์แล้ว จะมีวิมานเป็นของตนเอง หากว่าวิมานหรือกายหม่นหมอง หมายความว่าบุญที่เราได้ทำมา ใกล้หมดลงแล้ว และจะได้ลงมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง เพื่อสร้างสมบุญบารมีให้กับตนต่อไป


  5. #5
    Junior Member
    Join Date
    Feb 2008
    Posts
    6


    จากที่เราเคยอ่านมานะ ชีวิตของเรามีกรรมนำมาเกิด และที่เราเกิดก็เพื่อมาใช้กรรมและสร้างกรรม
    ซึ่งเเล้วเเต่ว่าแต่ละคนจะสร้างกรรมที่ดี หรือกรรมที่ชั่ว
    แต่เมื่อตายไป ผลของกรรมก็จะส่งผลให้ไปเกิดยังสถานที่ที่สมควรกับผลของกรรม

    ซึ่งก่อนตายการจิตนั้นระลึกถึงสิ่งต่างๆที่ทำลงไป ถ้าระลึกถึงสิ่งที่ดีได้ ก็จะนำพาไปสู่สถานที่ที่ดี แต่ถ้าจิตหม่นหมอง ระลึกได้แต่สิ่งที่ไม่ดี และตนทำกรรมชั่วไว้มากมาย ก็จะนำพาไปสู่สถานที่ที่ไม่ดี

  6. #6
    Junior Member
    Join Date
    Mar 2008
    Posts
    3


    ใช่ๆครับ
    จากที่ผมเคยเรียนมา วิชา พระพุทธศาสนา อาจาร์ย ก็เลยเล่าให้ฟังเรื่องนี้แหละ
    ว่า เวลาก่อนคนเราจะตาย จะเห็นบาป บุญ คุณ โทษ ที่เคยได้ทำมา
    และถ้าใครนึกถึง คุณงามความดี ก็จะได้ขึ้นสวรรค์
    ผมก็เลยถามว่า ถ้าก่อนผมจะตาย ผมนึกผม ยมบาล ละครับ ผมจะได้เป็นยมบาลไหม
    อาจาร์ย ก็บอกว่าอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับ บุญของเรา.
    เอามาจากหนังสือแน่เลย

    หลายคนเชื่อว่าเกิดมาเพื่อใช้กรรม จากชาติที่แล้ว
    ผมเลยสงสัยว่า อ้าว ถ้าเราเกิดมาเพื่อใช้กรรมจากชาติที่แล้วจริงๆ
    เกิดมาชาตินี้เรายังต้องทำกรรมอีก ตายไปก็ต้องไปใช้ต่อในนรก
    พอใช้กรรมในนรกหมด ก็ได้มาเกิดเพื่อใช้กรรมอีก เฮ้อ
    สรุป ไม่ว่าจะทำไง กรรม ก็ไม่หมด
    เกิดเป็นคนมันแสนจะวุ่นวาย

  7. #7
    Junior Member
    Join Date
    Feb 2008
    Posts
    12


    ผมเคยอ่านในหนังสือของ Super Richy มีตอนนึงที่เค้าบอกว่าเพื่อนของเค้าโดนรถชนตาย เลยทำให้จิตของเพื่อนเค้าแตกออกเป็น 10 กว่าส่วน เหมือนคนแยกร่างออกจากกัน อะไรประมาณเนี้ย แต่พอมาอ่าน สิ่งที่จิตระลึกก่อนตาย มี 3 ชนิด ของพระธรรมโกศาจารย์ ที่ท่าน post มารู้สึกว่ามันจะไม่ค่อยเป็นไปในแนวเดียวกันเลยครับ

  8. #8
    Junior Member
    Join Date
    Mar 2008
    Posts
    13


    เคยมีผุ้เฒ่าผู้แก่เล่าให้ฟังครับว่า

    กรรมนั้นเกิดจากการกระทำของเราในชาติปางก่อน

    ไม่ว่ากรรมดีหรือกรรมชั่วนั้น จะส่งผลให้เราในชาติภพปัจจุบันและอนาคต

    เพราะฉะนั้นจะคิดทำสิ่งใด ควรระลึกถึงเหตุผลเป็นหลัก

    และพยายามทำความดีให้มาก ครับ

  9. #9
    Junior Member
    Join Date
    Oct 2007
    Location
    Thailand
    Posts
    7


    ผมไม่เชื่อหรอกน่ะว่าตายแล้วจะมีนรกสวรรค์ แต่ก็ไม่เคยลบหลู่น่ะครับ เมื่อก่อนก็เชื่อ

    แต่ว่าผมคิดว่า มันอยุ่ที่เกิดมาแล้วโดนปลูกฝังมายังไง อย่างเช่นถูกปลูกฝังให้รู้จักบาปบุญคุณโทษ คนที่รู้จักบาปบุญคุณโทษก็จะไม่ทำชั่ว แต่พอทำแล้ว ก็ตองกลัว เมื่อเวลาใกล้ตายก็ต้องคิดเพราะคิดว่าเราจะต้องโดนตัดสินแล้ว เลยต้องคิดถึงเรื่องเก่าๆ เอาง่ายๆ อย่างเราโดนแม่ใช้ใหไปซื้อของที่ร้านๆหนึ่ง แล้วเราก็ขับรถออกจากบ้านไป เราก็ต้องจำ และเมื่อใกล้ถึงร้าน เท่าไหร่เราก็ต้องรีบทบทวน ว่าแม่ให้ซื้ออะไร ประมาณเนี่ย


    อีกอย่างน่ะคับ เวลาคนเราสลบ จิตไปอยู่ไหน เวลาคนเราไม่หายใจ จิตเราอยู่ไหน แล้วทำไมวิญญาณถึงสิงคนได้ แล้วทำไมวิญญาณที่สิงคนได้เขาไม่สิงร่างกายตัวเอง หรือคนอื่นหละ ผมไม่รุ้เหมืนกันว่าผมเป็นอะไร คิดอะไรไม่รุ้ งงตัวเอง พอละยิ่งพิมยิ่งงง ถ้าใคร งง ก็ไม่ต้องคิดมาก ผมง่วงนอนแล้วคับ
    ความสุขที่มีคุณค่าสูงสุด ไม่ได้มาจากทางกาย แต่ได้มาจากทางใจ

Similar Threads

  1. Replies: 0
    Last Post: 02-08-2008, 07:48 PM

Members who have read this thread : 0

Actions : (View-Readers)

There are no names to display.

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •