ภาคเอกชน-ธุรกิจพร้อมรับพ.ร.บ.คอมฯ50 สภาอุตฯ-สภาหอฯขานรับชี้ถึงเวลาปรับตัว
วงการธุรกิจขานรับพ.ร.บ.คอมฯ2550 หนุนแก้ปัญหาคุ้มครองสิทธิและการล่วงละเมิด ไอซีทียันผลักดันสังคมไซเบอร์ให้ดีขึ้น ด้านสภาอุตฯ-สภาหอฯหนุน ระบุให้เวลาเอกชนได้เตรียมตัวล่วงหน้า
รายงานข่าวจากวงการภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมเปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้ประกอบธุรกิจไม่ว่าจะเป็นขนาดใหญ่ รวมถึงประเภทเอสเอ็มอี(ขนาดกลางและเล็ก) รวมถึงประชาชนทั่วไป พร้อมปรับตัวเพื่อรองรับการที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารหรือ ไอซีที ได้ประกาศใช้พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ซึ่งออกมาคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้คอมพิวเตอร์หากโดนล่วงละเมิดหรือได้รับ ความเสียหายด้านต่างๆ อันเกิดจากการกระทำผิดโดยคอมพิวเตอร์ ซึ่งกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถนำผู้กระทำความผิดมารับโทษได้อย่าง เหมาะสม
ปัจจุบันเว็บไซต์ ที่เข้าข่ายไม่เหมาะสม ทางกระทรวงไอซีทีจะไม่มีอำนาจในการตัดสินใจปิดเว็บต่างๆ แต่จะต้องรวบรวมหลักฐานเพื่อทำการขอหมายศาลก่อนการดำเนินการทุกครั้ง ในส่วนของการสืบสวนสอบสวนนั้น พนักงานเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับการแต่ตั้งก็มีอำนาจในการอายัด ตรวจค้น และเรียกหาข้อมูลจากผู้ประกอบการเพื่อสืบหาผู้กระทำความผิดต่างๆ เช่นพวก hacker พวกที่ ขโมยข้อมูล ตัดต่อภาพลามกอนาจาร หรืออื่นมาลงโทษได้ โดยบทบัญญัติในการลงโทษก็มีทั้งโทษจำคุก โทษปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามฐานความผิดที่บุคคลเหล่านั้นได้กระทำลงไป- อย่างไรก็ตามกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้ทำความเข้าใจ และพัฒนาความร่วมมือกับกลุ่มผู้ประกอบการเป็นอย่างดี กระทรวงฯ ตระหนักถึงความสำคัญของภาคเอกชนที่จะมีส่วนสำคัญร่วมกับภาครัฐในการพัฒนา ประเทศโดยเฉพาะ ในสังคมแห่งการเรียนรู้สังคมแห่งยุคดิจิตอลในปัจจุบัน
ในช่วงแรก ผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นไอเอสพี หรือผู้ให้บริการในลักษณะอื่นๆ คงจะต้องจัดระเบียบในการดำเนินการทางธุรกิจใหม่ เนื่องจาก พ.ร.บ. ฉบับนี้ มีผลบังคับให้ผู้ประกอบการต้องเก็บข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้ไม่น้อย กว่า 90 วัน
แนว ทางและนโยบายต่อไปที่กระทรวงไอซีทีจะดำเนินการหลังจากใช้พระราชบัญญัติมา ระยะหนึ่งแล้ว ในช่วงแรกกระทรวงฯยังคงให้เวลากับผู้ประกอบการและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้มี โอกาสได้ปรับตัวและจัดระบบธุรกิจของตนเองให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ. ฉบับนี้ การประชาสัมพันธ์ และการให้ความรู้ในเวทีต่างๆ ยังคงกระทำอยู่อย่างต่อเนื่อง ในความเป็นจริง พ.ร.บ. ฉบับนี้ประสงค์ที่จะมีไว้เพื่อดำเนินการกับอาชญากรทางคอมพิวเตอร์ ที่เข้ามา hack ข้อมูล หรือฉ้อโกง หลอกลวงผู้คน โดยใช้เทคโนโลยีและเทคนิคที่ซับซ้อน ซึ่งปัจจุบันกฎหมายที่มีอยู่ยังไม่ครอบคลุม
นายวรพัฒน์ ทิวถนอม รองปลัดกระทรวงไอซีที กล่าวว่า เชื่อว่าหลังจากพ.ร.บ.ฉบับนี้ออกมา จะทำให้สังคมไฟเบอร์มีการเปลี่ยนแปลงไปสู่แนวทางที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตามสังคมจะดีได้เร็วหรือช้าก็คงไม่ใช่เพียงกฎหมายจะเป็นตัวกำหนด เพราะกฎหมายเองคงเป็นเพียงฟันเฟืองเล็กๆ ขึ้นกับบุคคลทั่วไปหรือภาคธุรกิจจะปฎิบัติตามหรือไม่มากกว่านั่นเอง
ด้านแหล่งข่าวในสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสภาหอการค้าแห่ง ประเทศไทยกล่าวว่า ขณะนี้สมาชิกของทั้ง 2 สภาได้ทราบข้อมูลของพ.ร.บ.ดังกล่าวแล้ว และเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาเพราะทางไอซีทีได้ให้เวลาผู้ประกอบการเตรียมการ ล่วงหน้า จึงเชื่อว่าจะสามารถปรับตัวได้ทัน
Credit : http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews...D=9500000119874
เวบผู้จัีดการครับ