WiMax การสื่อสารไร้สายแห่งอนาคต
บรอดแบนด์ไร้สายจะปฏิวัติไลฟ์สไตล์ของเราด้วยการช่วยให้เราสามารถเชื่อมต่อโดยตรงถึงข้อมูลที่คุณต้องการอย่างรวดเร็ว ได้ทุกที่และทุกเวลาที่ต้องการ
บริการข้อมูลทางบรอดแบนด์เช่น อินเทอร์เน็ต โปรโตคอลและมีเดีย คอนเทนต์ที่เต็มไปด้วยภาพและเสียง มีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในการสร้างความหลากหลายของบริการและส่งผลต่อรายรับของผู้ให้บริการเครือข่ายซึ่งต้องการขยายขอบเขตการครอบคลุมของเครือข่ายข้อมูลบรอดแบนด์โดยไม่จำเป็นต้องมีต้นทุนการก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐานราคาแพง การส่งข้อมูลในลักษณะบรอดแบนด์ความเร็วสูงแบบไร้สายโดยการส่งผ่านข้อมูลนั้นทางเครือข่ายเสียงเพิ่งจะเกิดขึ้นไม่นาน โดยสิ่งที่กระตุ้นให้ผู้ให้บริการต้องหันมาให้บริการในแนวนี้ก็เพราะเสียงเรียกร้องที่นับวันจะมากขึ้นๆ ของผู้บริโภคและองค์กรต่างๆ ที่ต้องการสื่อสารข้อมูลที่เป็นมัลติมีเดียมากๆ ต้องการใช้บริการและแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้ทุกที่ทุกเวลาแม้ขณะเดินทาง
ไวแม็กซ์คืออะไรกันแน่
ไวแม็กซ์ (WiMAX ซึ่งย่อมาจากคำว่า Worldwide Interoperability for Microwave Access) คือ เทคโนโลยีสำหรับบรอดแบนด์ "ไร้สาย" บางคนเรียกไวแม็กซ์ว่าเป็น "ไว-ไฟที่ใส่ยาโด๊ป" ปัจจุบันถ้าคุณต้องการบรอดแบนด์ คุณสามารถเชื่อมต่อกับสายเคเบิ้ลซึ่งเรียกว่าสายแลนด์โดยใช้ T1, DSL หรือโมเด็มเคเบิล ไวแม็กซ์ คือ มาตรฐานที่มีการวิวัฒนาการสำหรับการสร้างเครือข่ายไร้สายแบบหนึ่งจุดเชื่อมต่อไปยังอีกหลายจุด และทำงานได้ในรัศมีเป็นไมล์ๆ ในทำนองเดียวกันกับที่จุดฮอตสปอต
ไว-ไฟทำงานในการสร้างเครือข่ายได้ในระยะหนึ่งร้อยฟุตภายในอาคารหรือบ้าน นอกจากการเชื่อมต่อบรอดแบนด์ได้ในรัศมีเป็นไมล์ๆ แล้ว ไวแม็กซ์ยังมีแอพพลิเคชั่นที่หลากหลาย ณ จุดฮอตสปอต มีช่องสื่อสารภาคพื้นดินไร้สาย และยังสามารถเชื่อมต่อด้วยความเร็วสูงอย่างที่องค์กรธุรกิจต่างๆ ต้องการ
ในอีกสองถึงสามปีข้างหน้า เมื่อมีการนำไวแม็กซ์มาใช้เต็มที่ สถานีฐานไวแม็กซ์จะสามารถแผ่ขยายการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไปยังบ้านและธุรกิจในรัศมีถึง 50 กิโลเมตร (30 ไมล์) (โดยทั่วไปจะทำการได้ในรัศมี 3-5 กิโลเมตร เนื่องจากสิ่งกีดขวาง) ในที่สุดสถานีฐานเหล่านี้จะแผ่รัศมีการสื่อสารไร้สายความเร็วสูงครอบคลุมบริเวณปริมณฑลทั้งหมด ทำให้บริเวณดังกล่าวกลายเป็น WMAN และเป็นเครือข่ายการสื่อสารไร้สายอย่างแท้จริง
ความสามารถในการเชื่อมต่อบรอดแบนด์ไร้สายโดยไม่ต้องวางสายหรือเคเบิลที่พื้น ช่วยลดต้นทุนการให้บริการในลักษณะดังกล่าวได้เป็นอย่างมาก ดังนั้นไวแม็กซ์จึงอาจช่วยเปลี่ยนสภาพเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลซึ่งไม่มีโอกาสจะมีระบบการสื่อสารแบบสายเคเบิลความเร็วสูง
เนื่องจากต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากเช่นที่มักเกิดขึ้นในประเทศที่กำลังพัฒนา ในประเทศอย่างอินเดีย เม็กซิโก และประเทศจีน ซึ่งในปัจจุบันกำลังประสบปัญหาการขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐานของการสื่อสารแบบมีสาย ระบบไวแม็กซ์อาจเป็นคำตอบหนึ่งของการวางระบบสื่อสารความเร็วสูง
ไวแม็กซ์ทำงานได้อย่างไร
ไวแม็กซ์ได้รับการพัฒนาปรับปรุงเพื่อให้กลายเป็นรากฐานทางเทคนิคที่สำคัญของเครือข่ายข้อมูลเฉพาะที่ พกพาไปได้และไร้สาย ไวแม็กซ์คือการนำมาตรฐานใหม่ที่เป็น IEEE 802.16 มาใช้ มาตรฐานดังกล่าวนี้ใช้ Orthogonal Frequency Division Multiplexing (OFDM) ในการทำให้การบริการข้อมูล
ไร้สายให้มีความสามารถสูงสุด หลักการของเทคโนโลยี OFDM นี้ก็คือการนำคลื่นความถี่วิทยุเล็กๆ (sub-carrier) มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการนำคลื่นความถี่วิทยุเล็กๆ (ระดับ kHz) มาจัดสรรให้แก่ผู้ใช้ตามข้อกำหนดคลื่นความถี่วิทยุ การที่เราสามารถนำคลื่นความถี่วิทยุที่มีอยู่ทั้งหมดมาใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเช่นนี้ทำให้เครือข่าย OFDM มีประโยชน์มหาศาล และมีความเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเชื่อมต่อข้อมูลความเร็วสูงสำหรับผู้ใช้ทั้งที่อยู่ภายในสถานที่และนอกสถานที่ ปัจจุบันเครือข่ายไร้สาย Wireless Wide Area Network หรือ WWAN ที่อิงเทคโนโลยี OFDM ล้วนแต่เป็นมาตรฐานชนิด IEEE 802.16 ทั้งสิ้น
ผู้ให้บริการจะใช้ไวแม็กซ์บนความถี่ทั้งที่ได้รับอนุญาตและไม่ได้รับอนุญาต เทคโนโลยีนี้ช่วยให้เราสามารถสื่อสารแบบไร้สายได้ในระยะทางไกลๆ ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 75 เมกะบิตต่อวินาทีในทางทฤษฏี (ความเร็วปกติจะช้ากว่านี้ขึ้นอยู่กับว่าผู้ให้บริการปรับแต่งสถานีฐานสำหรับการใช้เสปคตรัมของคลื่นความถี่วิทยุอย่างไร) แวนไร้สายที่ใช้เทคโนโลยีไวแม็กซ์ครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างขวางมากกว่าเครือข่ายไร้สายเฉพาะที่หรือ Wireless Local Area Networks (WLAN) โดยจะสามารถเชื่อมต่อการสื่อสารไร้สายข้ามไปมาระหว่างอาคารต่างๆ แม้ว่าจะอยู่ห่างไกลกันเป็นบริเวณกว้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เรายังสามารถนำไวแม็กซ์มาใช้กับแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้จำนวนมากรวมถึงการเชื่อมต่อบรอดแบนด์ในระยะไกลเป็นไมล์ๆ แบบฮอตสปอตและ ระบบเซลลูลาร์ และการเชื่อมต่อด้วยความเร็วสูงสำหรับธุรกิจ
ข้อมูลโดย http://itmeesara.blogspot.com/