X-Fi Xtreme Audio Notebook



มี​ไครที่​ใช้​งานโน้ตบุ๊ก​เป็น​ประจำ​บ้างไหมครับ​ ​ผมเชื่อว่าคง​จะ​มี​อยู่​อย่างแน่นอน​ ​เพราะ​โน้ตบุ๊ก​ใน​ปัจจุบัน​ทั้ง​สะดวก​ ​คล่องตัวเวลา​ใช้​งาน​ ​และ​มี​ความ​เร็ว​ที่​เทียบ​เท่า​หรือ​ใกล็​เคียง​กับ​ PC ​เข้า​ไปทุกขณะ​ ​แต่ท่าน​ทั้ง​หลายที่​ใช้​โน้ตบุ๊กทุกๆ​ ​วัน​ ​ทั้ง​ทำ​งาน​ ​และ​การบันเทิง​ ​โดย​เฉพาะด้านการบันเทิง​ ​เคยอยากที่​จะ​ให้​โน้ตบุ๊กของตัวเองมี​เสียงที่ดีขึ้น​ ​หรือ​ดูหนัง​ได้​ใน​แบบระบบเสียง​ 5.1 ​บ้างไหมครับ​ ​ถ้า​เป็น​แบบนี้​ ​วันนี้ผมก็มีของฝากที่​จะ​ตอบสนอง​ความ​ต้อง​การ​ใน​เรื่องนี้ครับ​

ทุกวันนี้ระบบภาพ​และ​เสียงของโน้ตบุ๊กเองก็ก้าวหน้า​ไป​ไกล​แล้ว​ ​โดย​มีระบบเสียงแบบ​ HD 24 ​บิต​ ​เข้า​มา​ให้​ความ​บันเทิง​ ​ผ่านลำ​โพงสเตอริ​โอ​ 1 ​คู่​ ​เล็กๆ​ ​ที่ซ่อน​อยู่​ภาย​ใต้​รูปทรงอันเพียวบาง​ ​เสียงที่​ได้​ก็พอ​จะ​ฟัง​ได้​ ​แบบ​ไม่​ขี้​เหร่จนเกินไปนัก​ ​หรือ​ถ้า​ต้อง​การเสียงที่ดีกว่า​ ​ก็​เพียงแค่มองหาหูฟังดีๆ​ ​สักคู่​ ​มา​ใช้​งาน​ ​แต่​ ​ถ้า​อยาก​จะ​สัมผัส​กับ​ระบบเสียง​ 5.1 ​หรือ​ 7.1 ​กับ​เขา​บ้าง​ ​เวลาที่​ใช้​งาน​อยู่​กับ​ที่​ ​ก็คง​ต้อง​พึ่งซาวดน์การ์ดแบบภายนอก​กัน​หละ​ ​ซึ่ง​ก็มีหลากหลายแบบ​ ​เช่น​ ​แบบ​ USB ​แต่ว่า​ ​วันนี้ของฝากของผม​จะ​ทำ​ให้​ประทับใจมากกว่า​ ​ด้วย​ ​ซาวดน์การ์ดอันเลืองชื่อ​ X-Fi ​ที่มา​ใน​รูปแบบของ​ ExpressCard/54 ​ที่รับส่งข้อมูล​ด้วย​ความ​เร็ว​สูง​ ​และ​ใช้​งาน​ได้​ง่าย​ ​รองรับระบบเสียง​ถึง​ 7.1 ​แชนแนล



รู้จัก​กัน​ก่อน

X-Fi Xtreme Audio Notebook ​เป็น​ซาวดน์การ์ดรุ่น​ใหม่​ที่ออกแบบมา​ใช้​กับ​โน้ตบุ๊ก​ ​เพื่อตอบสนอง​ความ​ต้อง​การอัน​ไม่​สิ้นสุด​ ​ความ​ต้อง​การรับฟังเสียงที่ดีกว่า​ ​แม้ว่า​จะ​ใช้​งานโน้ตบุ๊ก​ ​ก็​เป็น​สิ่งที่​จะ​ปฏิ​เสธเสีย​ไม่​ได้​ ​ไครบ้าง​ไม่​อยากฟังเพลง​เพราะ​ ​ถ้า​มีทางเลือก​ให้​เดิน​ ​ใช่​ใหมครับ​ ​ซาวดน์การ์ดตัวนี้​เป็น​เสมือนหนึ่งการนำ​เอาซาวดน์การ์ดรุ่น​ X-Fi Xtreme Audio ​ซึ่ง​เป็น​รุ่นล่างสุด​ ​ของ​ X-Fi ​มาย่อ​ส่วน​ใส่​ไว้​ใน​รูปแบบการ์ด​ ExpressCard/54 ​ที่ออกมา​ใช้​งาน​กับ​โน้ตบุ๊กแทนที่การ์ดแบบ​ PCMCIA ​โดย​ที่​ xpressCard/54 ​มี​ความ​ไว​ใน​การส่งข้อมูลสูงกว่า​ ​รองรับมาตรฐานข้อมูล​ทั้ง​แบบ​ PCI Express ​และ​ USB 2.0 ​ที่​สามารถ​ใช้​งาน​ได้​พร้อมๆ​ ​กัน​ ​หรือ​จะ​เลือก​ใช้​งานแบบ​ใด​แบบหนึ่งก็​ได้​ตาม​ความ​ต้อง​การ​ ​ซึ่ง​ถ้า​เป็น​แบบ​ PCI Express 1x ​ก็​จะ​สามารถ​ส่งข้อมูล​ได้​ที่​ความ​เร็ว​ 2.5Gbps ​ใน​ขณะที่รูปทรงก็​เล็ก​กระทัดรัดพกพา​ใช้​งาน​ได้​อย่างสะดวก​ ​ง่ายต่อการติดตั้ง​และ​ใช้​งานมากกว่า​เดิมอีก​ด้วย​

X-Fi Xtreme Audio Notebook ​รองรับคุณภาพเสียงเช่นเดียว​กัน​กับ​ X-Fi Xtreme Audio ​โดย​ออกแบบมา​เพื่อการ​ใช้​งานด้าน​ ​ความ​บันเทิง​ ​ทางด้านการดูหนัง​ ​และ​ฟังเพลง​ ​เป็น​หลัก​ ​รองรับระบบเสียง​ 7.1 ​แชนแนล​ ​ภาคเอาต์พุตแบบ​ 24 ​บิต​ 96 KHz 7.1 ​แชนแนล​ ​อินพุตแบบ​ 24 ​บิต​ 96KHz ​เช่น​กัน​ ​รอบรับการ​ใช้​งานร่วม​กับ​สัญฐานเสียงดิจิตอลแบบ​ SPDIF ​ทั้ง​อินพุต​ ​และ​เอาต์พุต​ ​ตั้งแต่​ 16 ​บิต​ ​และ​ 24 ​บิต​ ​กับ​อัตรา​แซมปลิ้งที่​ 8, 11.025, 16, 22.05, 24, 32, 44.1, 48 ​และ​ 96 kHz ​ใน​ส่วน​อินพุต​ ​และ​ 44.1, 48 ​และ​ 96 kHz ​ใน​ส่วน​ของเอาต์พุต​ ​จึง​รองรับการ​ใช้​งานที่หลากหลาย​ ​ตั้งแต่ด้าน​ความ​บันเทิง​ ​ไปจน​ถึง​ ​การบันทึกเสียง​

X-Fi Xtreme Audio Notebook ​มีระบบที่​ช่วย​สร้างสรรค์​ความ​บันเทิงติดตัวมาตั้งแต่​เกิด​ได้​แก่​ X-Fi Crystalizer ​ที่​ช่วย​เพิ่มไดนามิกเรนจ์ของเสียง​ ​ให้​มี​ความ​สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น​ ​และ​แน่นอนว่า​ ​ให้​เสียงที่ดีขึ้นอย่างเห็น​ได้​ชัดเจน​ X-Fi CMSS-3D ​ความ​สามารถ​ใน​การสร้างสรรค์ระบบเสียง​ 5.1 ​ให้​อยู่​ใน​รูปของหูฟัง​ ​หรือ​ลำ​โพงแบบเสตอริ​โอ​ ​ให้​ความ​รู้สึก​ถึง​เสียงรอบทิศทาง​ ​แม้​ใช้​ลำ​โพงเพียงแค่​ 2 ​ตัว​ ​หรือ​ ​เพียงแค่หูฟังคู่​เดียว​ ​นอก​จาก​นี้ก็รองรับระบบ​ DTS ​และ​ DALBY DIGITAL EX ​ที่​เป็น​หัวใจสำ​คัญสำ​หรับการดูหนังอีก​ด้วย​

แกะกล่องลองเล่น



หลัง​จาก​ที่บรรยายสรรพคุณมาจนเหนื่อย​แล้ว​ ​ก็มาดูของจริง​กัน​ดีกว่าครับ​ ​ผมเชื่อว่าทุกๆ​ ​ท่านคงรู้จัก​กับ​คำ​ว่า​ X-Fi ​เป็น​อย่างดี​ ​ซึ่ง​เมื่อครั้งออกมา​ใหม่ๆ​ ​ผมเองก็มี​โอกาสทดสอบลองของ​กับ​เขา​อยู่​เหมือน​กัน​ ​ซึ่ง​ก็รับรู้​ถึง​ความ​สามารถ​ของการ์ดเสียง​ ​ที่​แม้​จะ​เป็น​รุ่น​เล็ก​สุดๆ​ ​ใน​ขณะ​นั้น​ก็ตาม​ ​แต่หลัง​จาก​นั้น​มา​ X-Fi ​ก็​แตกแขนงรุ่น​ใหม่ๆ​ ​มาอีกหลายรุ่น​ ​โดย​รุ่นที่​เล็ก​สุดๆ​ ​กลับกลาย​เป็น​รุ่น​ X-Fi Xtreme Audio ​แทน​ ​ซึ่ง​นับว่า​เป็น​รุ่นที่รองรับ​ใน​โหมด​ความ​บันเทิง​ได้​เป็น​อย่างดี​ ​ใน​ขณะที่ค่าตัวก็มี​ความ​เป็น​มิตร​กับ​กระ​เป๋าสตางค์ของเราๆ​ ​ท่านๆ​ ​มากขึ้น​ ​ใน​คราวนี้​ X-Fi Xtreme Audio ​ได้​กลายสภาพมา​อยู่​ใน​รูปแบบ​ ExpressCard/54 ​เพื่อ​ให้​ใช้​งาน​กับ​โน้ตบุ๊กรุ่น​ใหม่ๆ​ ​ได้​ ​นั่นเอง​ ​ซึ่ง​คุณภาพ​จะ​เป็น​อย่างไร​ ​เดี๋ยวเรา​จะ​มาทดสอบ​ให้​ดู​กัน​ครับ​ ​แต่ตอนนี้มา​แกะกล่องออกมาก่อนดีกว่า​ ​กล่องบรรจุ​ ​เอามา​ให้​ดู​กับ​แบบชัดๆ​ ​เลย​ ​เพื่อที่ชัวร์ๆ​ ​ว่า​จะ​ไม่​เจอ​ ​ของปลอม​และ​ลอกเลียนแบบ​ ​อย่างแน่นอน​ ​ตัวกล่องบ่งบอกรายละ​เอียด​ไว้​ค่อนข้างครบถ้วน​ ​และ​มีรูปร่างหน้าตาของการ์ด​ให้​เห็น​กัน​แบบชัดๆ​ ​เลย



เมื่อชำ​แหละ​แกะออกมา​จาก​กล่อง​ ​ก็​ต้อง​ให้​ความ​สำ​คัญ​กับ​ตัวการ​ ​ก่อนอุปกรณ์รายรอบ​ใช่​ไหมครับ​ ​โดย​ที่ตัวการของเรา​ใน​ที่นี้ก็คือ​ X-Fi Xtreme Audio Notebook ​ที่มา​ใน​รูปแบบ​ ExpressCard/54 ​ซึ่ง​มีรูปร่าง​ใน​แบบมาตรฐาน​ ​ที่มี​ความ​กว้าง​ 54 ​มิลลิ​เมตร​ ​แต่มี​ความ​ยาว​ ​วัด​จาก​หัวจรดหาง​ได้​ที่​ 10 ​เซนติ​เมตรพอดิบพอดี​ ​ไม่​ขาด​ไม่​เกิน​ ​นั่นหมาย​ความ​ว่า​จะ​มี​ส่วน​หนึ่งที่ยื่นโผล่ออกมา​ ​ซึ่ง​ก็พอ​จะ​มองออกมา​เป็น​ส่วน​หัว​ ​ที่​เป็น​จุดต่อต่างๆ​ ​ที่มี​ความ​ยาวประมาณ​ 2 ​เซ็นติ​เมตรนั่นเอง​ ​ซึ่ง​ก็น่า​จะ​ไม่​เกะกะต่อการ​ใช้​งานมากนัก​ ​ด้านบนตัวการ์ดก็มี​โลโก้​แปะบ่งบอก​ถึง​พลังอำ​นาจเรียบร้อย​แล้ว​ ​ตัว​ใหญ่ๆ​ ​มองเห็น​กัน​แบบชัดๆ​ ​ไปเลย



มาดู​กัน​ที่ด้านหน้า​ ​ที่​ไม่​ใช่​ ​หน้าด้าน​ ​กัน​บ้างครับ​ ​ตรง​ส่วน​ของจุดต่อสายสัญญาณที่ปกติ​จะ​ยื่นออกมา​จาก​ตัวโน้ตบุ๊ก​ ​จะ​มีจุดต่อเพียงแค่​ 3 ​จุด​ ​เท่า​นั้น​คือ​ ​จุดต่อหูฟัง​ ​ที่ปกติ​จะ​ใช้​งาน​กับ​หูฟังแต่ก็สามารปรับเปลี่ยน​ให้​เป็น​จุดต่อ​ ​สัญญาณเสียงแบบ​ ​ออฟติคอลเอาต์พุต​ได้​ด้วย​ ​ตรงกลางก็คือ​ Speaker Docking Module ​สำ​หรับเชื่อมต่อ​เข้า​กับ​อุปกรณ์​เสริมการ​ใช้​งาน​ ​และ​สุดท้ายก็คือ​ ​จุดต่อไมโครโฟน​ ​หรือ​ ​ไลน์อิน​ ​ตามแต่การ​ใช้​งาน​ ​และ​ยัง​เป็น​จุดต่อ​ ​ออฟติคอลอินพุตอีก​ด้วย​ ​คราวนี้หลายๆ​ ​ท่านคงสงสัย​แล้ว​ละสิ​ ​ว่ามัน​จะ​เป็น​ 7.1 ​ได้​อย่างไร​ ​ไม่​ต้อง​กังวลครับ​ ​เพราะ​ความ​ลับ​อยู่​ที่​ Speaker Docking Module ​นั่นแหละครับ



Speaker Docking Module ​ถือ​เป็น​ส่วน​สำ​คัญเมื่อ​ใช้​งาน​กับ​ระบบเสียง​ 7.1 ​แชนแนล​ ​โดย​จะ​ทำ​หน้าที่​เป็น​ตัวแยกลำ​โพง​ ​ซึ่ง​ใน​ยามปกติ​ ​จะ​แยกออก​จาก​ตัวซาวดน์การ์ด​ได้​ ​ทั้ง​นี้ก็​เพื่อ​ความ​สะดวก​ใน​การ​ใช้​งาน​ ​โดย​ที่​สามารถ​พกพาซาวดน์การ์ดที่มีขนาด​เล็ก​กว่า​ ​ไป​ใช้​งานควบคู่​กับ​หูฟัง​ได้​ ​และ​เมื่อกลับ​ถึง​บ้านยามอยากดูหนังก็​สามารถ​นำ​ Speaker Docking Module ​มา​เชื่อมต่อเพื่อ​ให้​เป็น​ระบบเสียงรอบทิศทาง​ได้



Speaker Docking Module ​จะ​มีจุดต่อหลักๆ​ 4 ​จุดคือ​ ​ไล่​จาก​ซ้ายมือ​ ​สี​เขียว​ ​สำ​หรับเชื่อมต่อ​กับ​ลำ​โพงคู่หน้า​ ​สี​เทา​ ​สำ​หรับลำ​โพงด้านข้าง​ (5.1 ​ไม่​ใช้​งาน) ​สีส้มสำ​หรับลำ​โพงเซ็นเตอร์​ ​และ​ซับวูฟเฟอร​ ​์​ ​และ​สีดำ​คือลำ​โพงด้านหลังสุด​ ​ซึ่ง​การ​ใช้​งานว่า​จะ​เป็น​ระบบไหนก็ขึ้น​อยู่​กับ​การตั้งค่าที่ซอฟแวร์​เป็น​หลักครับ



การเชื่อมต่อ​เข้า​กับ​ Speaker Docking Module ​ก็​สามารถ​ทำ​ได้​ง่ายๆ​ ​โดย​ใช้​คอนเน็คเตอร์ที่ปลายสาย​ ​มา​เชื่อมต่อ​เข้า​กับ​ ​ซาวดน์การ์ด​ ​แบบนี้ครับ​ ​สะดวกดี​ไม่​ใช่​เล่นเลย

บทความ Review ยาวมากครับ ขออนุญาตแปะ Link ให้เพื่อนๆเข้าไปติดตามต่อที่ OVERCLOCKZONE น่ะครับ
Page: 2/4 http://www.overclockzone.com/tns/Year2007/...book/index2.htm
Page: 3/4 http://www.overclockzone.com/tns/Year2007/...book/index3.htm
Page: 4/4 http://www.overclockzone.com/tns/Year2007/...book/index4.htm