-
ก่อนอื่นขอสวัสดีทุกคนก่อนน่ะคับ คือผมโดนแบนมาเกือบปีแล้ว เพิ่งได้รับอันแบน อิอิอิ+ เพื่อนๆก็ระวังด้วยน่ะคับอย่าทำผิดน้า
เลือดที่คุณบริจาค 1 ถุงเล็กๆ
-เขาแบ่งเม็ดเลือดแดง ไปให้คนที่ซีด เลือดจาง หรือเสียเลือดจากอุบัติเหตุ,โดนอาวุธ
-เขาแบ่งเม็ดเลือดขาว ไปให้คนภูมิคุ้มกันไ่ม่ดี เช่นคนเป็นมะเร็ง ได้ยาต้านมะเร็งเยอะๆ
-เขาแบ่งเกล็ดเลือด ไปให้คนเลือดออกง่าย เช่น เด็กเป็นไข้เลือดออก
-เขาแบ่งสารที่ทำให้เลือดแข็งตัว ไปห้ามเลือด ให้คนที่เป็นฮีโมฟีเลีย
-เขาแบ่งน้ำเลือด(พลาสม่า) ไปให้คนที่ช๊อค หรือคนขาดโปรตีนในเลือด เช่นตับแข็งท้องมาน
-พลาสม่าเก่าๆที่ยังไม่ให้ใคร สามารถแยกเป็น อัลบูมิน เก็นไว้ได้นาน ใช้แทนพลาสม่าในบางกรณี
-อาจจะมีอย่างอื่นอีก (ลองถามที่สภากาชาด)
บริจาคได้แค่ปีละ4ครั้ง (ยกเว้นบริจาคเฉพาะเกล็ดเลือดจะได้บ่อยกว่านี้)
ถ้าป่วย มีโรค กินยาหลายๆอย่าง(เช่น โรคในคนแก่) ก็บริจาคไม่ได้ซะแล้ว
ผมเองบริจาคโลหิตมา42ครั้งแล้ว (ช่วงนี้อดนอนบ่อยเลยห่างๆไป)
บอกตามตรงทุกครั้งที่บริจาค ...โดนเข็มก็เจ็บจริงๆ เหมือนกันทุกครั้ง
แต่ความรู้สึกที่ได้เป็นผู้ให้ ได้คิดว่าเขานำเลือดเราไปช่วยคน
เป็นความรู้สึกที่ดี
อยากให้ทุกท่านได้สัมผัสครับ
สถานที่รับบริจาคโลหิต
-
อืม ตอนแรกไม่คิดน่ะครับเพราะว่าเป็นคนที่ค่อนข้างกลัวเข็ม (แบบว่าตอนเด็กมีประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่) แต่ได้ไปบริจาคครั้งแรกที่ รพ.ลำปาง น่ะครับพอดีมีคนต้องการเลือดแล้วเค้าประกาศไปทางโรงเรียน เลยไปบริจาคครั้งแรก รู้สึกดีครับ เจ็บหน่อยแต่ก็โอเค ได้ช่วยคน แล้วจากนั้นผมก็เรื่อยๆครับ ไม่ค่อยมาก ประมาณ 6 ครั้ง แล้วคิดว่าจะทำต่อไปครับ
-
ขอเตือนหน่อยครับ
ไอ้ที่บอกว่าการบริจาคเลือดปีหนึ่งได้4ครั้ง
คือบริจาค1ครั้งแล้วให้พัก3เดือนจึงจะบริจาคได้อีก
ขอเตือนว่าไม่ควรทำสักเท่าไร เพราะที่เขาบอกไห้พัก3เดือนนั้น คือเราจะต้องกินยาเพิ่มเม็ดเลือดที่เขาได้ไห้เรามาหลังจากบริจาคแล้ว เป็นประจำจนหมด
แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยกินกัน(รวมทั้งผมด้วย) ดังนั้นเขาจึงบอกว่าการบริจาคเลือดที่ถูกต้อง
ควรจะพักอย่างน้อย 6 เดือน จึงจะบริจาคครั้งใหม่ โดยเฉพาะในผู้หญิง เพราะผู้หญิงนั้นมีประจำเดือนด้วย
-
พี่คงเป็นคนที่มีอุดมการณ์แรงกล้ามากเลยนะครับ
ผมเคยบริจาคแค่ 7 ครั้งเอง
แต่สำหรับพี่ที่ว่า สามเดือนครั้งอะครับ
พี่พยาบาล บอกผมว่า หลังจาก สามเดือนแล้ว ไม่มีอาการ จำพวก หน้ามืด เหนื่อยง่าย
หรือพวกอาการที่แสดงออกว่า เลือดน้อย อะครับ
เขาบอกว่าสามารถบริจาคได้เลยครับ
แต่ทุกอย่าง ก็เพื่อทุกคนนะครับ
-
เพิ่มเติม link ให้แล้วกัน รายละเอียด มีมากกว่านี้ครับ
http://www.nbc.in.th/data/location.htm
เป็นบุญ กุศล อันยิ่งใหญ่จริงๆ
คนไทยเลือดเข้มข้นมากครับ จริงมั๊ยครับ ขออำไพ
-
ผมเคยบริจาคไป 2 ครั้งนะครับ
บอกตามตรงว่า ชอบม๊ากมาก ยิ่งเวลาเค้าแทงเข็มล่ะ มันรู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูก(จะว่าผมซาดิสต์ก้อได้น่ะ)
มันมีครั้งที่ 2 ที่ผมบริจาค ผมอดนอนทั้งคืน แล้วตอนเช้าบริจาค ปรากฏว่าเลือดจม(แบบจมดิ่งเลย) คงเพราะผมเลือดเข้มมาก
เลยบริจาคได้ แต่ตอนที่ให้เลือดใส่ถุง เลือดไม่ยอมไหล
จนต้องวานหมอ ย้ายไปเจาะแขนอีกข้าง (ไหลออกน้อยกว่าเดิมอีก - -*) สรปบริจาคเลือดที ครึ่ง ช.ม.
เดินออกมา คนอื่นเค้าก้อนึกว่าบ้าพลัง บริจาคที 2ถุง 555+
แต่โอกาสผมไม่ค่อยมีไปบริจาค แต่บริจาคเสร็จแล้วมันรุ้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกนะครับ (อาหารที่เค้าเลี้ยงอร่อย กินเบิ้ล2ชุด เบิ่ล3ชุดก้อได้ :lol: )
-
เราก็ชอบบริจาคเลือด เพราะคงเป็นคนที่มีกรุ๊ปเลือดหายากด้วยอ่ะมั้งเลยบริจาคเผื่อคนกรุ๊ปเดียวกันต้องการด้วยน่ะ :rolleyes:
พี่น้องเรากรุ๊ปเดียวกันทั้งบ้านเลยด้วยน่ะเลยต้องบริจาคเผื่อไว้ แต่น้องเราบริจาคมากกว่าน่ะ
-
ได้บุญดีคับ แถมได้ฟอกเลือดด้วย :D
-
ผมเคยบริจาคไป 2 ครั้งครับ การบริจาคเลือดจะทำให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดมาทดแทนซึ่งจะทำให้เลือดภายในร่างกายดีขึ้นนะครับแถมได้บุญด้วย
-
-
โรงเรียนผมพออยู่ม.ปลายก็ไห้ไปบริจาคเลือดทุกคนนะครับ
-
การทำบุญอันยิ่งใหญ่ที่สุด คือการได้ช่วยชีวิตย์ไม่ว่าจะเป็นมนุษหรือสัตย์
สำหรับผม ถือว่าได้เกิดมาครบทั้ง 32 เป็นตัวเป็นตน ได้เรียน ได้งานทำ แค่นี้ก้แสดงว่าเรามีบุญมากแล้ว แต่หากเราใช้ชีวิตไปวันๆโดยไม่ทำบุยเลย ต่อไปเราจะไม่มีทางเป็นแบบนี้อีก
สิ่งที่ผมทำได้คือ ทำความดี เป็นคนดีของสังคม บริจากเลือด บริจากอวัยวะทุกสิ่งทุกอย่าง ให้แก่ รพ. ถ้าเราตายก้ถือว่าไม่ตายเปล่า
หากทุกคนคิดแบบนี้ คงดีเนอะ เฮ้อ ..........................................
-
จริงๆผมคิดไว้ว่าถ้าโตไปก็คงไปบริจาค แล้วจำไม่ได้ว่ารับเนี่ยเท่าไรครับ
ผมจำไม่ได้ว่ามีเกณฑ์ในการรับยังไงครับ เรื่องอายุ กับเรื่องน้ำหนัก ต้องเท่าไรครับ
-
ผมเคยครั้งนึงนะครับ
เมื่อปีที่แล้ว
หลังจากบริจาครู้สึกดีมากๆเลยครับ
เลือดถุงเล็กๆของผมอาจไปช่วยใครต่อใคร
ที่เขาอาจกำลังต้องการอย่างเอาเป็นเอาตายก็ได้^^
แต่ช่วงนี้ผมไม่ค่อยแข็งแรงอะครับ เลยไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย
แต่ผมต้องไปบริจาคอีกแน่นอนครับ..
ปล.พอบริจาคเสร็จเขาตรวจโรคให้เราด้วย โดยส่งจดหมายมาบอกผลให้ที่บ้าน
อันนี้ชอบมากๆเลยครับ ลุ้นดี อิอิ
-
เราไม่กลัวเข็มเลย
อาจจะกลัวเลือดอยู่บ้าง
แต่พอเห็นเค้ามารับบริจาคเลือดมันปวดใจทุกที
อยากเข้าไปบริจาค
มันเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่มากๆ
เหตุผลที่เราบริจาคไม่ได้
เพราะเราร่างกายไม่แข็งแรง
น้ำหนักไม่ถึงเกณฑ์
พักผ่อนน้อย
ถึงตอนนี้ร่างกายจะแข็งแรงปกติแล้ว
แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องน้ำหนักอยู่ดี
เศร้าจัง เกิดมาเป็นคนผอม
ตั้งแต่เกิดมาจนอายุจะ 20 นี้
น้ำหนักไม่เคยถึง 45 เลยซักครั้ง
แงๆๆ T^T
-
ผมจะบริจาคครับทั้งได้บุญแล้วได้เม็ดเลือดที่ร้าง
กายสร้างมาใหม่ครับ
-
ผมเป็นคนกลัวเข็มครับ
แต่ในบางทีเมื่อเห็นคนที่ต้องตายไปเพราะเสียเลือด
เราก็ทนไม่ได้เหมือนกันครับ
แต่ถึงผมจะเจ็บ ผมก็อยากจะบริจาคครับ
การบริจาคโลหิตก็ถือเป็นการทำบุยอย่างนึง
เราเกิดมาไม่พิการ มีครบทั้ง 32 ก็ถือว่าเรามบุญแล้วครับ
ผมเต็มใจแบ่งเลือกให้ผู้อื่นเพื้อยืด หรือรักษาชีวิตไว้ครับ
ขอบคุณครับ
Tickymick
-
ผมก็มีโอกาสบริจาคเลือดในชีวิตนี่ก็ แค่ 3ครั้งเอง
ไม่กลัวเข็มหรอกนะ แต่เวลาแทงไปที่แขนนี่ผมไม่มองหรอก
เพราะ ผมกลัวเลือด (ที่เจิ่งนอง หรือ เยอะๆนั่นแหละ) มันเป็นกรรมพันธ์อ่ะเพราะ แม่ผมก็เ็้ป็น
เคยมีครั้งดิ่มสุรากับเพื่อนฝูง พอเมาได้ที่ เพื่อนก้ดีเหลือเกิน ทำแก้วบาดมือพอดี มีเลือดออกนิดหน่อย
แต่ผมเป็นลมเลย (สลบกลางอากาศ)ที่บันไดซะด้วย - -
หัวฟาดสิครับ หลับไป2-3นาที เพื่อนๆจะแบกไปโรงพยาบาลแล้ว แต่ตื่นขึ้นมาซะก่อน
แ้ล้วก้มีเหตุการณืเกี่ยวกับหน้ามืดเป้นลมบ่อยๆ จนมีคนบอกเป็นความดันต่ำ รึปล่าว ให้จิบเบียร์ทุกวัน
หลังๆไม่อยากเป็นอีกครับ ก็เลยพยายามหาหนัง ที่เกี่ยวกับฆาตกรรม โหดๆ เลือดสาดมาดู
ให้มันกลัวๆๆ จนเลิกกลัว หรือชินไปเอง นั่นแหละ แต่ ก็ได้ผลเหมือนกันนะ
แต่เห็นจขกท.บอกเคยบริจาคไปตั้ง42ครั้ง ผมว่าน่าจะได้เกียรติบัตรจากสภากาชาดแล้ววมั้ง
เพราะอาผมก็ได้มาประดับบ้านแล้วหนึ่งใบ
-
ผมก็บริจาคหลายครั้งแล้วครับ แต่ก็ยังไม่ถึงสิบครั้งหรอก
ครั้งแรก ๆ ผมไม่มองเวลาเขาเจาะครับ
แต่หลัง ๆ มานี่ลองมองดู ก็ไม่ได้น่ากลัวหรือเจ็บอะไรมากมายครับ
-
เคยบริจาคไปนะคะครั้งนึงแต่ว่าหลังจากบริจาคแล้วรู้สึกระแวง :( ว่าราอาจจะเป็นโรคอะไร ถึงจะตรวจร่างกายก่อนแล้วว่าไม่เป็น
แต่มันก็เสียวๆอยู่ดีว่าถ้าเราเป็นโรคอะไรที่ติดต่อได้แล้วเขาติดโรคขึ้นมาเกรงว่าจะเป็นการไม่ดีก็เลยไม่ได้บริจาคต่ออีก
แต่ก็คิดจะไปบริจาคอีกเพราะว่าที่ผ่านมาก็ไม่มีโรคอะไรแสดงอาการ
-
ชอบบริจาคเหมือนกัน เอาเลือดในร่างกายไปทำคุณประโยชน์หลากหลาย แต่พอบริจาคเสร็จทีไร ตัวเองเกือบจะเป็นลมทุกที
-
-
เรายังไม่เคยนะ แต่ว่าก็อยากบริจาคอยู่ เพราะอยากช่วยคนที่เขากำลังเดือดร้อนครับ
ตัวผมเองก็อยากบริจาคแต่ร่างกายผมยังไม่พร้อมครับ
-
ถามว่าคิดจะบริจาคโลหิตหรือเปล่า เคยคิดนะแต่ตอนนี้คิดว่าสุขภาพร่างกายตัวเองยังไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไร่เลยยังไม่คิดจะบริจาค เพราะเกิดบริจาคไปแล้วตัวเองแย่คงไม่ดีแน่ หรือว่ายังไง เคยได้ยิน(หรือคิดไปเองก็ไม่รู้นะจำไม่ได้)มาว่ายิ่งบริจาคยิ่งดีเพราะเป็นการถ่ายเทเลือด โดยให้ร่างกายสร้างขึ้นมาใหม่ซึ่งจะมีคุณภาพที่ด้ีกว่าเลือดเก่าซึ่งอาจจะใช้มานานมากแล้ว
-
อยากบริจาคเหมือนกันคับแต่ว่าพอเห้นเข็มก็เป็นลมทุกทีเค้าเลยไม่ให้บริจาคครับผมควรทำไงดี
อยากได้บุญแต่ทำไม่ได้ซะงั้นอ่ะเหงเข็มเหงเลือดเป้นลม-*-
-
ผมก็ พยายามบริจาคเช่นเดียวกัน ครับ เพราะ จุดประสงค์หลักๆ คือ ต้องการตรวจสุขภาพไปด้วย และได้เป็นผู้ให้ บ้าง ทำให้เรา สบายใจ
หลายๆ คน อาจคิดว่า มีคนบริจาคเลือดกันเยอะแล้ว ก็อาจจะใช่ ในบางช่วงเวลา คุณอาจเคย ได้ยินการประชาสัมพันธ์ว่า ต้องการเลือดด่วน
เนื่องจากขาดเลือด นั่นก็เป็นเพราะว่า เลือดเองก็ มีอายุการใช้งาน เช่นเดียว กัน ครับ เท่าที่ผม ทราบ น่าจะ สี่เดือน นะ หลัง จาก นี้ก็ จะใช้ไม่ได้
เพราะฉะนั้น อยากให้ บริจาคกันเรื่อยๆ ไม่อิงตามกระแส เป็นครั้ง คราว นะ ครับ
-
อยากบริจาคมากค่ะ
คิดว่าชีวิตนี้ต้องบริจาคให้ได้
กลัวเข็มน่ะใช่ เราว่าใครๆก็กลัวอ่ะนะ
แต่ที่เรากลัวกว่าคือกลัวเป็นลมกะกลัวเลือดพุ่งตอนดึงเข็มออกง่ะค่ะ T-T
-
คือถ้าจะให้แบ่งก็แบ่งได้นะคับ และก็ทุกคนต้องการด้วยเพราะผม กรุ๊ป O
ทุกกรุ๊ปรับเลือดจาก O ได้หมดเลยอ่ะ เพิ่งเรียนมา 3-4 อาทิตย์ที่แล้ว
เป็นกรุ๊ป O ที่ก็เสียเปรียบหน่อยเนอะ - -*
แต่ AB นี่สิ.... รับได้ทุกประเภทเลยง่า
-
เดินไปที่ตรวจเลือดก่อนบริจาค หมอเห็นรูปร่างเเล้วบอกว่า
"น้อง...ไม่ต้องหรอกมั้ง...จะไหวจิงเหรอ"
ผมงงไปพักนึงหมอเลยบอกว่า
"น้ำหนักเเค่ 47 kg หมอกลัวน้องจะทำบาปให้ตัวเองมากกว่าที่จะทำบุญให้คนอื่น"
ผมละเศร้าจิงๆ <_<
อุส่าห์เเข็งใจทั้งๆที่กลัวทั้งเลือดเเละเข็มสุดชีวิต
จะเป็นลม...
-
ผมคนหนึ่งครับที่บริจาคทุกครั้งที่มีการมาขอรับบริจาคที่บริษัทครับ
ตอนนี้เป็นครั้งที่ 13 แล้วครับ
เพราะคิดว่าการบริจาคเนี่ยช่วยเหลือคนที่กำลังแย่หรือคนที่ต้องการได้มากนะครับ
เพราะช่วงเวลานั้นหากเขาต้องการแล้วไม่มีจะเกิดอะไรขึ้น
บริจาคเถอะครับได้บุญด้วย ช่วยชีวิตคนครับ :)
-
ผมก็อยากบริจาคเหมือนกันครับ อยากช่วยคนอื่นๆ อยากน้อย ถึงกรู๊ฟเลือด ไม่ตรงกันก็ยังเอาไปแลกได้
ช่วงก่อน ก็ว่าจะไปบริจาคให้พี่ ไปถึงห้องตรวจ กลายเป็นว่าน้ำหนักไม่ถึง ซ่ะงั้น [ณ ตอนนั้น]
[เศร้าเลย ตอนนี้พี่ก็เสียไปล่ะ]
-
เคยบริจาคอยู่ครั้งนึง บริจาคให้ยายของเพื่อนซึ่งเขาป่วยอยู่
ทีแรกก้อไม่คิดอะไรมาก พอพยาบาลเอาถุงใส่เลือดมาเห็นเข็มอันเบ้อเร่อเลย
หน้าถอดสีทันที แต่ก้อได้บริจาค ถ้ามีโอกาสอยากจะบริจาคอีก :lol:
-
ครั้งหนึ่งในชีวิตหรอครับ ถ้าอย่างนั้นผมก็ตรงประเด็นพอดี
ผมเคยบริจาคครั้งนึง ( ซึ่งผมเป็นคนกลัวเข็ม ) ที่ตอนนั้นบริจาคไป
เพราะเพื่อนสนิทขอร้องให้ช่วย ญาติเขาเข้าโรงพยาบาล
ต้องการเลือดจำนวนมาก ก็เลยต้อง อ๊าาาาาาา เจ็บ
-
เคยบริจาคนะครับ ตอนนั้นเรียน รด. ได้ข่าวว่า ถ้าบริจาคแล้วไม่ต้องไปฝึก
ก็เลยไปบริจาค ได้ทั้งบุญและไม่เหนื่อยครับ
-
คือ ผมเป็นคนที่กลัวเข็มฉีดยามากๆ แต่อยากบริจาคมากๆเช่นกัน ไว้มีโอกาส ผมคงต้องบีิจาคแล้วล่ะครับ :)
-
ผมเคยบริจาคเลือดนะ ตอนเรียน รด. ม. 4
ตอนนั้นยอมรับเลยว่ากลัวเข็มมากๆ เพราะยังเด็กและไม่เคยบริจาค
ทั้งยังมีข่าวเรื่องคนติดเอดส์เพราะบริจาคเลือดมากวนใจ แต่ท้ายที่สุด
ก็ได้บริจาค พอบริจาคแล้วความรู้สึกตอนนั้นคือ มึนหัวมากๆ จะเป็นลมเอา
หลังจากนั้นมาไม่เคยได้มีโอกาสไปบริจาคเลือดอีกเลย
ไม่คิดว่าจะมีประโยชน์ขนาดนี้ ได้อ่านบทความนี้แล้ว ทำให้อยากไปบริจาคอีกครั้ง
เพื่อจิตศรัทธาและอยากช่วยคนที่เขาต้องการจริง
-
ผมบริจาคตั้งแต่ม.4เลยครับ
พอดีคุณแม่เป็นพยาบาล
บริจาคปีละ3ครัง 4เดือนที
ตอนนี้บริจาคมาได้แปดปีละ ได้เข็มกาชาติสรรเสริญระดับ5เป็นรางวัลด้วยครับ
รับพระราชทานจากสมเด็จพระเทพ ด้วย ปลื้มสุดๆครับ
-
บริจาคครับ หากเราทำประโยชน์แก่ชาวโลกได้เราก้อจะทำ
-
ผมบริจาคประจำครับ
ตั้งแต่สามารถบริจาคได้
ก้อ 10 กว่าครั้งแล้วครับ
-
ปกติเรามักเห็นประชาสัมพันธ์การรับบริจาคโลหิต แต่เรายังไม่ทราบเพิ่มเติมอีกอย่าง
ที่คนเราสามารถบริจาคได้ นั่นคือการบริการไขกระดูก เพราะไขกระดูกเป็นตัวสร้างเม็ดเลือด
มีผู้ป่วยอีกมากที่สามารถหายขาดได้ถ้าได้รับการเปลี่ยนถ่ายไขกระดูกจากเรา เช่นผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือด
แต่ไม่ใช่ว่าจะนำไขกระดูกนี้ไปใส่ให้ใครๆเลยก้ได้ ต้องมีการตรวจการเข้ากันได้กับผู้ป่วยรายนั้นๆ
จึงต้องมีการทำฐานข้อมูลไขกระดูกสำหรับผู้ประสงค์จะบริจาคขึ้น แต่ประเทศไทยเรายังไม่มีในส่วนนี้มากนัก
ไขกระดูกคนเราสามารถเจริญเติบโตทดแทนได้ตลอด อยู่ในแกนกลางของกระดูก
ถ้าท่านสามารถบริจาคได้ โดยการตรวจและเก็บข้อมูลไว้ ยังไม่บริจาคทันที แต่จะเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยในอนาคต
ข้อมูลผมได้คร่าวๆจากสภากาชาด รู้สึกเหมือนไม่ค่อยมีการประชาสัมพันธ์เรื่องนี้มากนัก
อาจจะเนื่องจากขาดความพร้อมหลายๆด้านอยู่ก็ได้