-
ตำรวจกองปราบปรามจับกุมหนุ่มไทยใช้ความเป็นอัจฉริยะเข้าไปเจาะฐานข้อมูลของ “เอไอเอส” ขโมยรหัสผ่านแก้ไขวงเงินบัตรเติมเงิน ทำบริษัทเสียหายนับร้อยล้านบาท พบประวัติเคยเจาะฐานข้อมูลของ “ทรู” พังพินาศมากว่าร้อยล้านเช่นเดียวกัน แถมเคยเจาะฐานข้อมูลของ “นาซา” ที่ว่าแน่ๆ มาแล้ว สุดท้ายต้องเข้าไปใช้ความอัจฉริยะในกำแพงสี่เหลี่ยม แต่เจ้าตัวยังปฏิเสธ
วันนี้ (15 พ.ค.) ที่กองบังคับการกองปราบปราม ตำรวจกองกำกับการ 1 กองปราบปราม แถลงการจับกุม นายทวีทรัพย์ หรือภูมิพัฒน์ ลลิตศศิวิมล อายุ 34 ปี ที่ห้องพักเลขที่ 2918 วงศ์เจริญแมนชั่น หรือแกรนด์ แมนดาริน ซอยลาดพร้าว 130 เขตบางกะปิ พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ฮาร์ดดิสก์ บัตรเอทีเอ็ม บัตรวีซ่า และสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร หลังได้รับการร้องเรียนจากบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ว่าถูกคนร้ายเจาะฐานข้อมูลระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทฯ เพื่อขโมยรหัสผ่านในการใช้เข้าไปแก้ไขวงเงินในบัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือให้กับลูกค้าผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยใช้วิธีจ่ายเงินผ่านบัญชีธนาคารในชื่อของบุคคลอื่น สร้างความเสียหายให้แก่เอไอเอสนับร้อยล้านบาท
นอกจากนี้ จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ยังเชื่อว่านายทวีทรัพย์น่าจะเป็นคนเดียวกันกับผู้ต้องหาที่เคยเข้าไปเจาะฐานข้อมูลของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เมื่อปี 2548 จนทำให้ทรูฯ ได้รับความเสียหายมาแล้วเป็นมูลกว่า 100 ล้านบาท กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้และอยู่ระหว่างการประกันตัวต่อสู้คดี แต่กลับมาก่อเหตุซ้ำอีก
สำหรับ นายทวีทรัพย์ นับว่ามีความเชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ในขั้นอัจฉริยะ ก่อนหน้านี้เคยเจาะฐานข้อมูลของสถาบันการเงินหลายแห่งเพื่อขโมยรหัสบัตรเครดิต และเจาะฐานข้อมูลขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือนาซา มาแล้ว อย่างไรก็ตาม นายทวีทรัพย์ให้การปฏิเสธ แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม โดยสอบสวนสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป เพราะไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาจะลงมือเพียงคนเดียว
ทั้งนี้ ผู้เชื่ยวชาญเกี่ยวกับการเจาะข้อมูลอันดับต้นๆ ของเมืองไทยซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านตรวจสอบระบบ ทำให้ทราบว่าการเจาะระบบฐานข้อมูลของบริษัทมือถือ มีการกระทำมานาน โดยเฉพาะค่ายมือถือ 2 ยักษ์ใหญ่ ซึ่งสูญเงินไปกว่า 1,000 ล้านบาท โดยในขั้นตอนดังกล่าว ต้องมีพนักงานที่ทำงานในบริษัทรู้เห็นเป็นใจ และอยู่ในกลุ่มขบวนการเพื่อคอยประสานงานด้านแก้ไขข้อมูล ยกตัวอย่างเช่น หากมีลูกค้าซื้อบัตรเติมเงินไปจำนวน 1,000 บาท ขบวนการมิจฉาชีพนี้ก็จะมีการแก้ไขในคอมพิวเตอร์เพื่อหักเงินส่วนต่างไป
นอกจากนี้จะมีการนำบัตรเติมเงินที่มีการคีย์ข้อมูลนั้น ไปตั้งโต๊ะประกาศขายในแหล่งชุมชนต่างๆ เช่น ตามศูนย์การค้า หรือสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน ซึ่งในตรงจุดนี้ขบวนการมิจฉาชีพจะมีการใช้คอมพิวเตอร์แก้ไขข้อมูลในบัตรเติมเงินไว้เรียบร้อยแล้ว โดยจะหักเอาเงินส่วนที่เกินเข้ากระเป๋า และค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจะเกิดกับบริษัทเจ้าของมือถือ ส่วนกรณีซิมการ์ด จะมีหน้าม้าคอยเอาซิมไปตั้งโต๊ะให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการโดยไม่ต้องเสียค่าจดทะเบียน ซึ่งในจุดนี้ ขบวนการมิจฉาชีพจะหารายได้ ด้วยการแก้ไขโปรโมชันในซิมการ์ด และหักเงินค่าส่วนต่างเข้ากระเป๋า เช่นโปรโมชัน 1,300 จะถูกแก้เป็น 1,000 บาทเป็นต้น
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน
-
ทำไมข่าวมันลงไม่ตรงกันหว่า?
เพิ่งได้อ่านในหนังสือพิมพ์เมื่อกี้นี่เอง
ของทรูตรงกัน 100 ล้าน
แต่ของ AIS อันใหม่นี่ ในหนังสือพิมพ์บอกแค่ 80 ล้าน
แหล่งข่าวเดียวกันไหมเนี่ย?
แถมคนทำไม่ได้เรียนมาทางด้านคอมพิวเตอร์อีก
มีใครในนี้สมรู้ร่วมคิดหรือเปล่าครับ?
เห็นเค้าตามหากันอยู่ให้ควั่กเลย :lol:
-
ผมว่าพีเค้าเก่งจริงๆนะครับ
ไม่ได้เรียนด้านคอมพิวเตอร์ด้วยอ่ะ
ขนาดผมเรียนมาสี่ปียังทำไม่ได้แบบพี่เค้าเลย
ผมว่าต้องเอาเค้ามารับใช้ชาตินะ
ไม่ได้เอามาขังคุกอย่างเดียว
เหมือนเอาของดีๆไปทิ้งเปล่า
-
ดูไว้เป็นอุทาหรณ์เถอะครับ นำความรู้ที่มีอยู่ไปใช้ในทางที่ผิด สร้างความเดือดร้อนมหันต์ให้เขา ซักวันมันก็ย้อนเข้าหาตัว
ถ้าพี่เขาได้คิดซักหน่อยก่อนจะลงมือทำ เรื่องก็คงจะไม่จบลงอย่างนี้
-
จริงๆแล้วถ้าดึงความสามารถของเขามาไช้ให้เป็นประโยชน์มันคุ้มค่ากับสิ่งที่ประเทศไทยจะได้รับนะครับ
อย่างต่างประเทศถ้าเกิดคดีแนวนี้ เค้าไม่นำมาเป็นผู้ต้องหาหรอก ในทางกลับกันถูกกักไว้เป็นพยาน
เพื่อจะดึงตัวมาไว้ช่วยในทางราชการลับ หรือมาพัฒนาโคตรข่ายอื่นๆต่อไป
น่าเสียดายมากกว่าที่จะไปตอกย้ำเขานะครับ
-
เฮ้อไม่น่าเลยนะคะคนเรา <_< น่าจะนำความรู้ที่มีไปใช้ในทางที่ถูกที่ควร อันนี้เป็นบทเรียนสอนใจที่ดีให้กับพวกเราเลยค่ะว่าคนที่ทำไม่ดีก็จะต้องได้รับผลกรรมนั้นเข้าซักวันหนึ่ง ใครที่คิดจะทำก็ควรเลิกซะนะคะ นำความรู้ที่มีไปใช้ให้เกิดประโยชน์และไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนดีกว่าค่ะ
-
ผมว่า เขาเก่ง แต่ไม่ดี อิอิ
//เหอะๆ งงดี ทำไม ป.ตรี ไม่สอนพวกวิทคอม วิศวะคอมให้สร้างพวก devicedriver บ้างหนอ สอนแต่หลักการอะไรไม่รู้
-
:o ผมตกใจที่ได้ฟังว่า เค้าไม่ได้เรียนคอมมาเลย นะซิครับ อันนี้อาจเป็นความพยายามของพี่เค้าจิงๆ
อีกอย่าง ผมฟังจากหลายๆปากมาว่า เป็นแฮ็คเกอร์ที่ ติด topten ยิ่งตกใจ
;) จะเอาอย่างความพยายาม แต่จะไม่ทำตามในสิ่งที่ไม่ดี +.+
-
เสียดายความเก่งกาจของเขาครับ
ไม่น่าเลยถ้าเขาไปทำในทางที่ดีคงจะมีประโยชน์แก่ประเทศแบบมากมายมหาศาล
สรุปแล้ว ให้ทุกคนที่คิดจะทำแบบเขา
ให้คิดก่อนทำครับจะได้ไม่ถลำลึกแบบเขาคนนี้
-
คนที่นำความสามารถมาใช้ เอาเปรียบคนอื่น อย่างนี้ ไม่ใช่อัจฉริยะ หรอกครับ เป็นแค่ คนเลว ที่มุ่งหวัง แต่หาผลประโยชน์ จากช่องโหว่ ที่มีอยู่เท่านั้นเอง อย่าไปเรียกอย่างชื่นชม ว่าอัจฉริยะเลย ครับ ฟังแล้วรู้สึกไม่ดีเรย