ทีโอทีสกัด “มิลคอม” หากินแบบครอบจักวาล
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 31 ตุลาคม 2549
ทีโอทีเลิกสัญญามิลคอมของเธียรสิน ภู่ธนา หลังกิจการร่วมค้าไทยโมบายเซ็นบันทึกข้อตกลงร่วมทำการตลาดบริการไอพี เซอร์วิส แบบมีเลศนัย แปลงสภาพมิลคอมให้กลายเป็นทีโอที 2 ให้บริการได้ครอบจักรวาล แถมพิมพ์บิลเก็บเงินเอง แบ่งรายได้ทีโอทีแค่ 25%
แหล่งข่าวจากบริษัท ทีโอที กล่าวว่า ก่อนพ้นตำแหน่งรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ของพล.อ.ท.สมชาย เธียรอนันท์ ได้สั่งการให้มีการยกเลิกสัญญาของบริษัท มิลคอมซิสเต็มซ์ หลังพบว่าทำให้ทีโอทีเสียหายอย่างมาก โดยที่สัญญาดังกล่าวเป็นการทำบันทึกข้อตกลงร่วมทำการตลาดบริการ IP (IP Service) ผ่านกิจการร่วมค้าไทยโมบาย ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือย่านความถี่ 1900 เมกะเฮิรตซ์ ในสมัยนายธีรวิทย์ จารุวัฒน์เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีโอที และนายวาสุกรี กล้าไพรี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ทีโอที เป็นผู้จัดการกิจการร่วมค้า ไม่ใช่เป็นสัญญาที่ทำระหว่างมิลคอม กับบริษัท ทีโอที โดยตรง
“มิลคอมให้ความร่วมมือกับทีโอทีอย่างดี ยินยอมยกเลิกสัญญา เพียงแต่ขอเวลาระยะหนึ่งในการแจ้งลูกค้าล่วงหน้า ส่วนกรณีหลังจากมิลคอมได้ไลเซนส์ใหม่จาก กทช.จะมาทำธุรกิจอะไรร่วมกันกับทีโอทีก็ค่อยว่ากันใหม่”
สำหรับมิลคอมเป็นของนายเธียรสิน ภู่ธนา ชื่อเดิมเธียร ปฏิเวชวงศ์ เจ้าของตำนานโทรศัพท์มือถือในระบบซีดีเอ็มเอของกสทที่โด่งดังอื้อฉาวจนถึงทุกวันนี้
การยกเลิกสัญญาของมิลคอม เป็นเพราะสัญญาดังกล่าวจะทำให้มิลคอมเหมือนเป็นบริษัท ทีโอที 2 คือสามารถให้บริการได้ครอบจักรวาล รวมทั้งสามารถออกบิล เรียกเก็บเงินเอง โดยได้รับส่วนแบ่งรายได้สูงถึง 75% ในขณะที่ทีโอทีได้ส่วนแบ่ง 25%
นอกจากนี้ ทีโอทียังตกลงจัดสรรเลขหมายและวงจรเชื่อมโยง (Non-Charge) ระหว่างชุมสายของทีโอทีกับอุปกรณ์ Voice Gateway ของบริษัทจำนวนอย่างน้อย 48 E1โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ภายในกำหนดเวลา 45 วัน นับแต่วันที่บริษัทแจ้งทีโอที รวมทั้งยังกำหนดเงินค้ำประกันแค่ 3 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าต่ำมากหากเทียบกับมูลค่าธุรกิจ โดยที่สัญญานี้ดีมากจนถึงขนาดมีเอกชนอีกหลายรายกำลังศึกษารายละเอียดเพื่อหาทางทำตาม
“สัญญานี้เรียกได้ว่าทีโอทีเสียเปรียบมากที่สุด เพราะนอกจากตัวสัญญาเสียเปรียบแล้ว ยังเป็นการแย่งลูกค้าโทร.ต่างประเทศ 008 ของทีโอทีเอง การที่ไทยโมบายที่ปัจจุบันมีค่าใช้จ่ายประจำเดือนละ 34 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าบริหารลูกค้า 10 ล้านบาทและค่าระบบบิล 24 ล้านบาท ในขณะที่ลูกค้าเพียงไม่ถึงแสนคน แต่ผู้บริหารแทนที่จะคิดอุดรูรั่ว แต่กลับคิดโครงการร่วมกับเอกชนมาเจาะยางบริษัทแม่เพิ่มเติมอีก”
สำหรับสัญญามิลคอมมีอายุ 2 ปีเริ่มจาก 1 มี.ค.2549-28 ก.พ.2551โดยให้บริษัทร่วมทำการตลาดโดยมีรูปแบบบริการดังนี้ 1.บริการ Voice Over IP ประกอบด้วยบริการพีซีทูโฟน ,บริการโฟนทูโฟน,Voice/Tele Conference (Over IP) เป็นการให้บริการประชุมทางสายทั้งภาพและเสียง ผ่านเครื่องหรืออุปกรณ์แปลงสัญญาณเพื่อส่งผ่านระหว่างกันในรูปแบบไอพี ,Wi-Fi Mobile Hand Phone เป็นการให้บริการทางเสียงในรูปแบบไอพีแบบไร้สายผ่านจุดเชื่อมต่อ โดยอุปกรณ์ปลายทางสามารถเป็นได้ทั้งพีซี โน้ตบุ๊ก พีดีเอ ,IP Private Phone ,International & Domestic VoIP Calling Service หรือบริการทางเสียงระหว่างประเทศและในประเทศในรูปแบบไอพี โดยสามารถติดต่อกันได้ผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ในกรณีที่เป็นอุปกรณ์ที่อยู่ในรูปแบบไอพีเหมือนกัน หรือใช้อุปกรณ์แปลงสัญญาณเพื่อเชื่อมต่อกับโทรศัพท์พื้นฐานหรือโทรศัพท์ระบบอื่น
2.Broadband/Hotspot IP Service ประกอบด้วยบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแก่ลูกค้าองค์กรหรือบุคคลทั่วไป,บริการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆผ่านอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ,บริการเกมออนไลน์,บริการ Broadband Kiosk หรือบริการข้อมูลข่าวสาร โฆษณา ประชาสัมพันธ์ผ่านหน้าจอหรืออุปกรณ์แสดงผล เชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ต,Movie on DemandและInternational & Domestic Roaming Hotspot เป็นการให้บริการอินเทอร์เน็ตกับลูกค้าของผู้ให้บริการรายอื่นทั้งลูกค้าในประเทศและต่างประเทศเพื่อให้สามารถใช้อินเทอร์เน็ตผ่านจุดเชื่อมต่อตามสถานที่ต่างๆที่บริษัทติดตั้งอยู่ในขณะนั้น
3.บริการเสริมพิเศษอื่นตามความต้องการลูกค้าในพื้นที่ที่มีสัญญาณครอบคลุมถึงเช่นบริการ Auto Tracking,บริการ Point of Sales, บริการ Wireless IP Camera บริการด้านความปลอดภัยและสุขภาพ
