มจธ.คิดเครื่องปรับอากาศประหยัดไฟตัวจริง(KMUTT)

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ช่วยชาติประหยัดไฟ พัฒนาเครื่องปรับอากาศแบบใหม่ ประสิทธิภาพสูงกว่าเก่า โดยติดอุปกรณ์ควบคุม การทำงานของคอมเพรสเซอร์ จนทำให้ประหยัดพลังงานไฟฟ้า ยิ่งกว่าเครื่องปรับอากาศเบอร์ 5



ดร.วีระพล โมนยะกุล จากสำนักวิจัยและบริการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี หัวหน้าโครงการวิจัยและพัฒนาเครื่องปรับอากาศที่ควบคุมด้วยอินเวอร์เตอร์ เล่าถึงนวัตกรรมเครื่องปรับอากาศแบบใหม่นี้ว่าสามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้ากว่าแบบเบอร์ 5 ถึงร้อยละ 30 โดยความลับของการประหยัดไฟฟ้าในครั้งนี้อยู่ที่การปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของคอมเพรสเซอร์ หรืออุปกรณ์อัดสารทำความเย็นในเครื่องปรับอากาศ และการควบคุมการไหลของน้ำยา

"เครื่องปรับอากาศในระบบเก่า เมื่ออุณหภูมิในห้องอยู่ในระดับความเย็นที่ตั้งไว้แล้ว ตัวคอมเพรสเซอร์จะตัดการทำงานไป ทำให้ระดับอุณหภูมิในห้องเปลี่ยนไป และเมื่ออุณหภูมิกลับมาสูงใหม่ คอมเพรสเซอร์ก็จะกลับมาทำงานอีกครั้งหนึ่ง" ดร.วีระพล กล่าว

แต่สำหรับเครื่องปรับอากาศในระบบใหม่ได้เพิ่มอุปกรณ์อินเวอร์เตอร์ หรือตัวแปลงกระแสไฟฟ้าจากกระแสตรงเป็นกระแสสลับ เข้ามาควบคุมการทำงานของคอมเพรสเซอร์ในด้านความเร็วรอบให้มีประสิทธิภาพ

"เมื่อเปิดเครื่องปรับอากาศจนได้ในอุณหภูมิที่ต้องการแล้ว อินเวอร์เตอร์จะควบคุมให้ตัวคอมเพรสเซอร์ปรับความเร็วรอบในการทำงานให้ต่ำลง (ลดความเร็วรอบ) หากอุณหภูมิกลับขึ้นมาสูงใหม่ อินเวอร์เตอร์จะควบคุมให้คอมเพรสเซอร์เพิ่มความเร็วรอบในการทำงานให้สูงขึ้น" ดร.วีระพล อธิบาย

หลักการทำงานของอินเวอร์เตอร์นี้ คือ อินเวอร์เตอร์จะมีอยู่ 2 ส่วน กล่าวคือ ส่วนที่อยู่ในเครื่องปรับอากาศตัวภายในอาคาร และตัวที่อยู่กับคอมเพรสเซอร์ที่ติดตั้งภายนอกอาคาร ตัวที่อยู่ภายในอาคารจะมีอุปกรณ์รับสัญญาณจากรีโมทคอนโทรลสำหรับตั้งอุณหภูมิ และมีเซ็นเซอร์รับอุณหภูมิ

อินเวอร์เตอร์ตัวในอาคารนี้จะทำการตรวจสอบอุณหภูมิภายในห้องเปรียบเทียบกับอุณหภูมิที่ตั้งไว้ว่าสัมพันธ์กันหรือไม่ หากยังไม่ตรงกันจะส่งสัญญาณไปที่อินเวอร์เตอร์ตัวภายนอกอาคาร และตัวอินเวอร์เตอร์ตัวภายนอกนี้จะทำการแปลงสัญญาณที่ได้รับ ประมวลผลออกมาเพื่อที่จะสั่งปรับความเร็วรอบของคอมเพรสเซอร์ โดยจะเปลี่ยนความถี่และแรงดันของไฟฟ้าที่เข้าไปที่คอมเพรสเซอร์ เพื่อให้คอมเพรสเซอร์ทำงานตามรอบที่ต้องการ

การปรับการทำงานเป็นแบบลดความเร็วรอบนี้เอง ทำให้ผู้ใช้เครื่องปรับอากาศสามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังได้อยู่ในห้องปรับอากาศที่ทำให้รู้สึกสบายกว่าเดิม

หากผู้ใช้เครื่องปรับอากาศอยากประหยัดพลังงานไฟฟ้าให้มากกว่านี้ ดร.วีระพล ชี้ว่า การเปิดเครื่องปรับอากาศที่อุณหภูมิสูงขึ้น 2 องศาเซลเซียส จะช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าอีกร้อยละ 10 หากเปิดสูงขึ้นอีกเป็น 4 องศา จะประหยัดเป็นร้อยละ 20 จากปกติที่เปิดเครื่องปรับอากาศอยู่ที่อุณหภูมิ 23 องศาเซลเซียส เปลี่ยนเป็นเปิดอยู่ที่อุณหภูมิ 27 องศาเซลเซียส ผนวกกับเป็นเครื่องปรับอากาศระบบใหม่ ก็จะช่วยให้ประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้มากกว่าเดิมถึงร้อยละ 50

งานวิจัยชิ้นนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และได้รับทุนวิจัยจากสำนักงานกอบทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)