PDA

View Full Version : เก็บตกจากPantip อะ



rx7
06-10-2003, 04:53 PM
อยากทราบว่าช่วงที่อายุ 25-26 นี้ ทำอะไรกันอยู่บ้างครับ
สวัสดีครับ พี่ ๆ ทุกท่าน

อยากทราบว่าช่วงที่อายุ 25-26 ปี ทำอะไรกันอยู่บ้างครับ
สำหรับผมตอนนี้เป็นเซลล์ให้กับบริษัทฯ ซึ่งอยู่ในเครือญาติ
และธุรกิจส่วนตัวเล็ก ๆ ครับ บอกตามตรงว่าเหนื่อยมาก ๆ
ทำหน้าที่สั่งสินค้ามาผลิต ขาย-จัดส่ง เก็บบัญชี เช็คสต็อก คนเดียว
เวลาพักผ่อนไม่ค่อยพอ (วันนึงไม่เกิน 5 ชั่วโมง) และสินค้าก็กำไรน้อย
ตลาดแข่งดุมาก เจ้าเก่ารายใหญ่ ๆ ก็ทุบราคาจนแทบจะไม่เหลือกำไรเลย
นึกถึงตอนที่เรียนอยู่ ช่วงนั้นสบายมาก ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร
พอจบปุ๊บก็มีเหตุการณ์ให้ต้องทำงานอย่างทุกวันนี้ รู้สึกช่วงนี้จิตตกครับ
ถามตัวเองว่าทำไมถึงเกิดความรู้สึกอย่างนี้ อาจเพราะเราใจไม่สู้ ใจฝ่อไปเองหรือเปล่า
หรือว่าเรายังไม่ชินกับการทำงานหนัก อย่างที่หลาย ๆ คนเค้าทำกันอยู่
จึงอยากรู้ว่าพี่ ๆ และเพื่อน ๆ ในห้องสีลมนี้ ช่วงอายุ 25 ย่าง 26 กำลังทำอะไรกันอยู่ครับ
และขอคำแนะนำว่าผมควรจะเพิ่มความรู้สึกนึกคิด หรือแนวคิดในการทำงานใหม่ ๆ อะไรอีกบ้าง
ขอทราบเป็นวิทยาทานนะครับ ขอบคุณครับ

แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 46 13:11:18








จากคุณ : แบ่งกัน - [ 31 ส.ค. 46 13:09:54 ]


--------------------------------------------------------------------------------










--------------------------------------------------------------------------------

ความคิดเห็นที่ 1

งานหนักสร้างผู้บริหาร............ ศึกหนัก สร้างขุนศึก

คุณโชคดีกว่าอีกหลายล้านคน ในคนรุ่นเดียวกัน ที่เขาไม่มีโอกาสได้ทำงานของตัวเอง ถึงแม้ว่าวันนี้ คุณจะทำกำไรได้เพียงตัวเลขน้อยนิด แต่อีก 10 ปี ข้าหงน้า คุณคือผู้บริหารที่มากด้วยประสบการณ์

นักธุรกิจเก่งๆ สามารถเดินทางลัดเพื่อสู่จุดหมายปลายทางได้เร็ว แต่คุณยังต้องเดินตามทางที่ถูกกำหนดไว้เพื่อ ป้องกันการผิดพลาด ใจเย็นๆไว้ก่อนครับ สะสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆ ด้วยใจมุ่งมั่น ทอดสายตาไปข้างหน้า อย่างมุ่งหวัง ว่าสักวันคุณจะเป็นผู้ชนะ สร้างขวัญและกำลังใจให้ตัวเองอยู่เสมอๆ แล้วคุณจะสมหวังในธุรกิจของคุณ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

จากคุณ : ก้อต (godjiwa) - [ 31 ส.ค. 46 15:29:05 ]






ความคิดเห็นที่ 2

สะสมประสบการณ์งาน
สะสมสตางค์
สะสมเพื่อนในแวดวงการงาน
สะสมความรู้ วัตถุดิบ การผลิต การตลาดการขาย การบริการลูกค้า/คนรอบด้านและความรู้รอบตัว อ่าน เขียน ฟังมาก
สะสมจินตนาการ และนวัตกรรมต่างๆ

สนุกในการงาน พักผ่อนกับธรรมชาติที่เสียเงินน้อย

จากคุณ : ตะวันยอแสง - [ 31 ส.ค. 46 15:55:42 A:202.28.32.10 X:10.51.0.54 ]






ความคิดเห็นที่ 3

ยังไม่ถึงฮะ
- -"



จากคุณ : tanoy_delphi - [ 31 ส.ค. 46 16:46:22 ]






ความคิดเห็นที่ 4

อายุ 26 ผม เริ่มทำกิจส่วนตัวเล็กๆ จากเงินไม่กี่หมื่น เหนื่อยมากๆช่วงแรกๆ ไม่รู้จะไปรอดรึเปล่า เพราะไม่มีประสบการณ์เลยในงานนี้ แต่ทำเพราะอยากทำ ตอนแรกก็ยังทำงานเป็นลูกจ้างเค้าไปด้วย แต่ทนไม่ไหว เพราะนายจ้างกดดันผมมาก เลยออกมาทำงานตัวเองเต็มตัว ถึงจะต้องใช้สมองมากขึ้น เหนื่อยเหมือนกันครับในบางช่วง ตอนนี้ปีเศษ ผมมีเงินทุนร่วม 2แสนบาทเศษ สามารถดูแลครอบครัวได้ มีอิสระทางความคิด ทำสิ่งที่เราคิดได้ ไม่ต้องมีใครมาบงการ ผมก็ยังไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร ก็คงต้องสู้ต่อไปครับขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่สู้...

จากคุณ : คนรุ่นใหม่ - [ 31 ส.ค. 46 17:46:26 A:202.57.159.203 X: ]






ความคิดเห็นที่ 5

เอ่อ ยังไม่ถึงเหมือนกัน(ไม่รู้เข้ามาตอบทำไม)

จากคุณ : Lu (Love Universe) - [ 31 ส.ค. 46 18:06:31 ]






ความคิดเห็นที่ 6

25 เหมือนกัน ทำงานกะลูกพี่ลูกน้อง เป็นธุรกิจเล็กๆ และกะลังอยู่ในช่วงจิตตกเหมือนกันเลย คือ ทำแล้วยอดขายไม่ค่อยดี แล้วรู้สึกท้อ จนเอามาเป็นกังวล และเหนื่อยมาก ถึงแม้ว่าพีจะพยายามให้ลุกขึ้นสุ้ใหม่ จนถึงที่สุดก็ไม่ไหว ต้องขอเอาตัวเองออกมาจากปัญหาสักระยะ พักก่อนดีกว่า ตอนนี้เลยอยู่ในช่วงพัก และจิตใจก็เรื่มดีขึ้นแล้ว พร้อมจะสู้กะปัญหาใหม่ เมื่อก่อนเพื่อนเคยพยายามให้เราพักตั้งแต่เมื่อ2 เดือนก่อน แต่เราเองที่กัดฟันคิดว่าไหว จนกระทั่งมันระเบิด เหนื่อยนักก็พักเสียหน่อยดีกว่า แล้วค่อยกลับไปเรื่มต้นใหม่ สู้กะมันใหม่ด้วยจิตใจที่พร้อม อาจจะดีกว่านะ ไม่รู้คำตอบจะช่วยได้บ้างเปล่า เอามาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังค่ะ

จากคุณ : so do i (so do i) - [ 31 ส.ค. 46 20:48:06 ]






ความคิดเห็นที่ 7

เอ่อ........... หลานเอ๊ย...
เมื่อลุงอายุเท่านั้นหน่ะ
ตอนกลางวันทำงานหนักอิ๊บ....
แต่ตอนกลางคืนก็เมาหัวราน้ำเหมียนกัลล์....
วันนี้ นึกย้อนไปข้างหลัง ฟังที่หลานเล่าแล้ว อยากบอกว่า
อิจฉาหลานหว่ะ.....
สู้ไปเหอะ อย่าท้อ อย่าหักโหม
คิดถึงร่างกายบ้าง อย่าใช้งานเขาหนักเกินไป
เครียดนัก ก็พักผ่อนได้ (อย่าบ่อยและหนักมากนัก)
พอเข้ากลางคนจะรู้ว่าตัวเองน่ะโชคดี....
นี่พูดจริงๆนะ

จากคุณ : ครูต้อ - [ 31 ส.ค. 46 21:16:20 ]






ความคิดเห็นที่ 8

อายุยังไม่ถึงน่ะค่ะ ...

แต่คิดว่าคุณโชคดีนะคะ ที่มีงานประจำทำ แถมยังมีงานส่วนตัวอีก เก่งค่ะ เก่ง
เรื่องเหนื่อย มันแน่อยู่แล้ว คนเราไม่ใช่หุ่นยนต์นี่คะ แหม เล่นนอนวันละไม่เกิน 5 ชม ไม่ไหวนา รักษาสุขภาพหน่อยก็ดีนะคะ ไม่สบาย เป็นอะไรไป มันไม่คุ้ม

---------------------------------------------
และขอคำแนะนำว่าผมควรจะเพิ่มความรู้สึกนึกคิด หรือแนวคิดในการทำงานใหม่ ๆ อะไรอีกบ้าง ขอทราบเป็นวิทยาทานนะครับ ขอบคุณครับ

---------------------------------------------

มิบังอาจค่ะ ยังไม่มีประสบการณ์พอ

ยังไงก็ขอให้โชคดีนะคะ


จากคุณ : No Logo - [ 31 ส.ค. 46 22:47:02 A:211.26.90.33 X: ]






ความคิดเห็นที่ 9

ตกงาน หลังจากออกจากงานมาช่วยพี่ชายที่บ้าน เนื่องจากพ่อเสียชีวิต พอคิดว่าไม่มีงานที่บ้านให้ทำ ไปสมัครงานจนได้งานก็โดนเรียกให้กลับมาทำที่บ้านหลังจากทำได้ 2-3 วัน

จนหลัง ๆ อยู่บ้านช่วยงานที่บ้านไปวัน ๆ ไม่ค่อยมีอะไรทำอยู่เกือบปี ไม่คิดสมัครงานด้วย หมดไฟ พอดีลูกพี่ลูกน้องชวนไปทำงานบริษัทที่เขาทำอยู่ เป็น temp ก็เลยไป ก็พอมีกำลังใจในการทำงานกลับมาหน่อย

หลังจากนั้นก็ดีขึ้นจนมาได้งานในปัจจุบันก็ถือว่า โอเคทีเดียว มาคิดดูช่วงอายุนั้น ก็ช่วงสำคัญในชีวิตเหมือนกัน

จากคุณ : kazama - [ 31 ส.ค. 46 23:48:25 ]






ความคิดเห็นที่ 10

ตกงานอยู่นี่ไงคะ

จากคุณ : ซาร่า (osara) - [ 1 ก.ย. 46 00:05:12 ]






ความคิดเห็นที่ 11

อายุเกินไปไกลซะแย้ววววว

จากคุณ : LUX - [ 1 ก.ย. 46 08:44:09 A:169.210.21.162 X: ]






ความคิดเห็นที่ 12

ตอนนั้นเพิ่งเป็น "พนักงานขาย" ยอดขายก็ทำได้ตามเป้า เศรษฐกิจดีมั้ง
บริษัทออกรถยนต์ให้ บัตรเครดิต มาเสนอให้ทำ ก็ทำเพราะต้องไปต่างประเทศด้วย
ก็เลย ฟูฟ่อง อยู่กับฟองสบู่ แต่ได้ไม่นานนัก

ก็เลยได้ ความคิดว่า "สบายวันนี้ จะลำบากในวันข้างหน้า ถ้าไม่มีแผนรองรับที่ดี"

ส่วนของคุณ แบ่งกัน ( เจ้าของกระทู้ ) ตอนนี้ ยังหนุ่ม ลุยไปเถอะ
ลำบากในวันนี้ จะสบายในวันข้างหน้า

ส่วนบางคน " สบายตอนหนุ่ม จะลำบาก ตอนแก่ " หรือ "สบายคนเดียว ลำบากทั้งครอบครัว" ก็มีครับ









จากคุณ : TOTO (toto555) - [ 1 ก.ย. 46 09:40:48 ]






ความคิดเห็นที่ 13

ยังเป็นลูกจ้างอยู่เลย ครับ เลขาฯ กิ๊กก๊อก ๆ ก่อก ๆ แก่ก ๆ ไปเรื่อยอ่ะครับ (กระโถนท้องพระโรง)

จากคุณ : ยอดกระบี่ซิลลี่ - [ 1 ก.ย. 46 13:06:58 ]






ความคิดเห็นที่ 14

ตอนอายุ 25 ทำงานรัฐวิสาหกิจ กำลังมองว่าชีวิต

อยากเป็นอะไร นอกจาก 8 โมงเข้างาน 5 โมงกลับบ้าน

เลยเรียนโท ตอนนี้ 28 ทำงานเป็น consult วางแผนเก็บเงิน

เพื่อจะเป็นเถ้าแก่วันหน้า

จากคุณ : alkia - [ 1 ก.ย. 46 13:15:54 A:203.144.143.250 X:202.133.154.51 ]






ความคิดเห็นที่ 15

ตอนอายุ 25 เป็นไกด์ค่ะ ทำงานหนักเหมือนกัน เพราะไม่ได้จบท่องเทีี่ยวมา แต่จบคอมฯมา บริหารฯ คอมฯ เพื่อน ๆ จบมาเป็นโปรแกรมเมอร์ แต่เราไม่ชอบเลย ก็เลยไปสอบบัตรไกด์ ปรากกฎว่า งานเหนื่อยสัด ๆ เพราะไกด์ไง ทำงานตอนวันหยุดนะ ตื่นตี 5 ทำทัวร์ กว่าจะได้นอน เที่ยงคืนตื่นมารับลูกทัวร์ตี 5 ทำแบบนี้ิติด ๆ กัน ตลอดหน้าไฮ เป็นครึ่งปีเลย เหนื่อยมาก เหนื่อยจนแท้งลูก คิดว่าจะแต่งงานแล้ว เลยไม่แต่ง งานก็ท้อ หนัก เหนื่อย เราต้องต่อสู้กับพวกจบท่องเที่ยวมา โดนเขาดูถูกเรื่องภาษา ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่ได้ดีกว่าเราไปเท่าไหร่ ต้องทำยอดขายทัวร์ให้ได้เพื่อแข่งกับไกด์รุ่นเก๋า ๆ วูบนึง ไม่ไหวแล้ว ลาออก เลิกกับแฟน ไปเมืองนอก โครงการเลี้ยงเด็ก ไปฉลองอายุ 26 ทีี่่่เมกา ปรากฎว่า ทำงานเมืองนอก เหนื่อยกว่า นายจ้างกดดันกว่า เพราะเขาจ่ายให้เป็นชั่วโมง หนีไม่ได้ ติดสัญญาจ้าง ฝรั่งไม่มีคำว่าเกรงใจ เพราะเขาถือว่า "say your word, I can't read you mind if you not say anything it's mean you fine" เราอดทนสุด ๆ แล้วนะ เลี้ยงเด็กเล็ก ล้างขวดน้ำนมจนมือแตกเลือดไหลซิบ ๆ เลย (มันหนาวไง ไม่ยอมใส่ถุงมือตอนขวดนม) แต่ทำงานเหนื่อยแล้วได้เงินคุ้ม แต่เครียดกว่าเมืองไทย เครียดถึงขนาดที่เวลารับเช็คเงินเดือนนี่ เห็นเงินไม่มีความหมายเลย เกลียดมาก เข้าใจชีวิตได้อย่างลึกซึ้งว่า เงินกับความสุขไม่ใช่เรื่องเดียวกัน จบโครงการ 1 ปี กลับบ้าน เพราะตระหนักแล้วว่าทำงานหนักที่เมืองไทย ไม่อดตาย ฉลองวันเกิดอายุ 27 ก่อนกลับ ปีนี้ เราจะ 28 แล้ว สั่งสมประสบการณ์มาพอสมควร จะเปิดบริษัทก่อนวันเกิดนี่แหละ เครียดหลาย ๆ เครียดหนักกว่าตอน 25 อีก เพราะต้องหาแหล่งกู้เงิน หมุนเงิน ตอนนี้ก็นอนเอาทีนก่ายหน้าผากอยู่ทุกคืน ทำไมนะ การดำรงชีวิตอยู่มันยากเหลือเกิน เราก็กำลังท้ออยู่เหมือนกัน แต่เราว่า เราท้อกว่าเจ้าของกระทู้อีก เพราะเรายังไม่รู้เลยว่า กิจการเราจะไปรอดมั้ย หากไม่รอด หนี้สินเป็นแสนนี่จะทำยังไงถึงจะจ่ายคืนเขาได้ คิดวนไปวนมาอยู่แบบนี้แหละ เฮ้อ เครียด

จากคุณ : เครียดหลายๆ - [ 1 ก.ย. 46 15:09:10 A:203.150.6.19 X: ]






ความคิดเห็นที่ 16

มาอ่านของเครียดหลายๆ แล้ว นอนดีกว่า

จากคุณ : พ่อไม้ (พ่อไม้) - [ 2 ก.ย. 46 00:22:28 ]






ความคิดเห็นที่ 17

ตกงานอยู่ครับ...มันเป็นช่วงจังหวะของชีวิตที่ต้องผจญ
ตอนนี้ผมก็ 25 ปีพอดิบพอดี
แหม แต่คุณแบ่งกัน ได้ทำงานของตัวเอง
ถึงจะปวดหัว ถึงจะเหนื่อยอย่างไร ก็เป็นงาน
ของตัวเองนะครับ
อิจฉาคุณจังครับ
อย่าวิตก จิตตก ไปเลยครับ ยังมีคนที่ลำบากกว่าคุณ
อีกมากมาย คุณยังถือว่าโชคดีกว่าหลายคนนะครับ

จากคุณ : dream-machine - [ 2 ก.ย. 46 02:44:47 ]






ความคิดเห็นที่ 18


อืมม..อ่านของคุณเครียดหลายๆแล้วเครียดด้วยจัง มีอะไรให้ผมช่วยมั๊งหนอ( ช่วยได้ป่าวก็ไม่รู้นะ..)....

ตอนอายุ 25-26 เหรอครับ ผมก็พึ่งลาออกจากงาน มาช่วยธุรกิจที่บ้าน งานหนักสุดๆ( ไม่รู้ว่าเทียบกับเจ้าของกระทู้ยังไงดี )แต่มีความสุข(นิดๆ) และทะเลาะกับเตี่ยทุกวันเพราะ ช่องว่างทางความคิด(วันนี้ถ้าย้อนเวลาไปได้ก็คงทะเลาะกันอีกเหมือนเดิม) ทำจนท่านยอม ไว้ใจว่าหมอนี่เอาจริงแฮะ.......

จากวันนั้นถึงวันนี้กว่า 20 ปี ผมเปลี่ยนสิ่งรอบตัวหลายๆอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยคือ ความจริงใจ ผมเชื่อว่าสิ่งนี้ทำให้ผมมีเพื่อนมากมาย และการมีเพื่อนนี่เองทำให้ผมได้หลายๆอย่างในชีวิต รวมทั้งความสำเร็จด้วย..

แต่ทั้งนี้ผมก็ได้เรียนรู้หลายๆสิ่งจากเตี่ยผม เช่น ความอดทน ความขยัน ความมัธยัสถ์ ความซื่อสัตย์ คุณธรรมของการค้า การหลีกเลี่ยงอบายมุขทั้งปวง และ การกตัญญู เป็นต้น

คุณเจ้าของกระทู้ครับ เตี่ยผมเดินทางจากเมืองจีน มาเริ่มต้นชีวิตที่บ้านนอกของเมืองไทย ไม่มีทั้งเสื่อทั้งหมอน คุณว่าความลำบากนี่ขนาดไหนครับ เริ่มชีวิตด้วยการรับจ้างเย็บผ้าครับ ช่วงนั้นต้องอาศัยสิ่งเดียวคือการมัธยัสถ์ครับ เรียกว่า หาสิบใช้สลึง สะสมเงินกว่าจะได้จักรสักตัว กรรไกรสักเล่ม จนกระทั่งมีเงินเช่าห้องแถวเปิดร้าน ซื้อผ้าชิ้นละ 2-3 เมตรมาพันไม้โชว์ว่าเรามีผ้าเยอะ แล้ววันหนึ่งก็ซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูปมาขายครับ และก็แตกไลน์ไปเรื่อยๆ....

ถ้าคุณตั้งใจทำสิ่งใดให้ดีที่สุด และใช้มนุษยสัมพันธ์กับคนรอบข้างให้ดี สิ่งอื่นๆที่อยู่รอบๆเราจะมาเองครับ ...

ขอเป็นกำลังใจครับ อย่าลืมครับ ขยัน ประหยัด อดทน หลีกเลี่ยงอบายมุขทั้งหลาย ให้จำว่า ความรวยมาจากการเก็บหอมรวมริบ เท่านั้น ไม่ใช่มาจากการเสี่ยงโชค ถ้าคุณทำได้เช่นนี้รับรองอนาคตคุณรวยแน่ๆครับ



จากคุณ : มือเก่า - [ 2 ก.ย. 46 05:34:28 A:203.113.57.173 X: ]






ความคิดเห็นที่ 19

ตอบแบบเดียวกับคุณตะนอย และ คุณ Lu (Love Universe) เจ้า ฮุ ฮุ ฮุ

จากคุณ : กุยแกตามหาโจโฉ - [ 2 ก.ย. 46 11:00:13 ]






ความคิดเห็นที่ 20

ส่วนผมปีหน้าจะ 25 แล้ว แต่ตอนนี้เป็นลูกจ้างบ.มหาชน
สำหรับเงินตอนนี้ก้อโอเค ไม่เดือดร้อน เพราะยังไม่มีรายจ่ายมากมายนัก
แต่..ไม่นานน่าจะทำกิจการตัวเองเช่นเดียวกัน เบื่อกับชีวิตลูกจ้าง ผมดีใจกับคุณนะได้ประสบการณ์เต็มตัวทีเดียว จากการทำกิจการตนเอง
นั่นคือเป้าหมายของผมเลย การได้ทำกิจการของตนเอง ทุกวันนี้ได้แต่คิด ยังไม่ลงมือทำ สะสมไอเดียไปเรื่อยๆ รอสักวันที่โอกาสมาถึง....

อย่าเครียด ทุกอย่างมีทางออก มีเหตุ ก้อต้องมีผล

นะ......

จากคุณ : Pholar - [ 2 ก.ย. 46 13:03:10 ]






ความคิดเห็นที่ 21

กำลังจะแต่งงาน และวางแผนเปิดกิจการเป็นของตัวเอง :)

จากคุณ : @-อมยิ้มแก้มตุ่ย-@ - [ 2 ก.ย. 46 14:13:10 ]






ความคิดเห็นที่ 22

ตอนนี้ยังไม่ถึงครับ แต่เท่าที่รู้ จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ต้องมีความขยัน+อดทน+มีเป้าหมาย+ซื่อสัตย์

จากคุณ : oat402 - [ 2 ก.ย. 46 15:12:26 ]






ความคิดเห็นที่ 23

เพิ่งจะ 18 หย่อน ๆ



จากคุณ : FishLover - [ 2 ก.ย. 46 16:21:55 ]






ความคิดเห็นที่ 24

เพิ่ง 27 มาไม่กี่วันนี้เองครับ เป็นกระทู้ที่ดีจริงๆที่ทำให้ผมมาทบทวนจริงๆว่า2ปีที่ผ่านมาทำไรอยู่ ผมจำได้ว่าหลังจากจบการเงินมาจากแถวท่าพระจันทร์แล้วก็ตกงาน เพราะเป็นช่วงไฟแนนซ์ปิด56แห่งพอดีงานเลยหาแทบจะไม่ได้เลย
แม่อยากให้ช่วยธุรกิจที่บ้าน ซึ่งทำเกี่ยวกับด้านเครื่องสำอางค์ ความที่เราไม่ชอบ และคิดว่าอยากจะทำไรตามความฝัน เลยเรียนต่อปโทวารสารเพราะมีความฝันลึกๆว่าอยากเป็นนักเขียน ส่งเรื่องสั้นไปลงหนังสือต่างๆได้ลงบ้างๆไม่ได้ลงบ้าง แต่ก็รู้อย่างหนึ่งว่าเรากินข้าวตอนตื่น เพราะฉะนั้นจะอยู่กับความฝันอย่างเดียวคงไม่ได้ เปรียบเทียบตัวเองกํบเพื่อนๆเหมือนกัน ที่ทำงานออฟฟิศ แต่งตัวดีๆ ใช้บัตรเครดิต เป็นชีวิตที่ทำให้เรารู้สึกแปลกแยกเหมือนกัน
ผมอยากจะเรียกชีวิตช่วงนี้ว่าการทดลองความฝัน หากเราฝันแตกต่างจากคนอื่นก็ต้องถามตัวเองว่า ทนความเจ็บปวดกับความโดดเดี่ยวได้ไหม
จำได้ว่าวันแรกของอายุ25ปี ก็เริ่มทำงานประจำวันแรก
ก็คงเหมือนมนุษเงินเดือนทั่วไป เงินเดือนออกก็ใช้เงิน จำได้ว่าช่วงแรกๆใช้เงินเดือนหมดภายใน2วัน ไปกับการกินดื่ม เที่ยว
วันศุกร์วันหนึ่งกลับบ้าน มาตอนตี 2 ยังเห็นแม่นั่งทำงาน ธุรกิจของครอบครัวอยู่เลย ผมก็เลยมาถามตัวเองว่า ชีวิต เราคิดถึงตัวเองมากเกินไปหรือเปล่า บางความสุขที่เราได้ทำสิ่งที่ ชอบ กับความสุขที่เห็นแม่จะได้พักบ้าง ผมเลือกอย่างหลัง ผมอยากเรียกชีวิตช่วงนี้ว่าช่วงละทิ้งความฝัน
ผมกลับมาช่วยงานที่บ้าน พร้อมกับเรียนโทต่อ ทำงานที่บ้าน การทำงานกับครอบครัวก็มีทั้งข้อดีและข้อไม่ดี ข้อดี ก็คือเราได้ดูแลกันมากขึ้น อาจจะเหมือนคุณมือเก่าคือก็ทะเลาะกับแม่บ้างเป็นธรรมดา อย่างที่คุณมีเก่าบอกก็คือคงเป็น เพราะเรามีระยะห่างทางความคิด แต่คงเป็นความโชคดีอะไรสักอย่าง หลังจากเราช่วยกันสร้างธุรกิจ กัน ธุรกิจก็เริ่มเติบโตขึ้น ผมพบว่าความสุขจากการจ่ายเงินในเลาจ์ กับ ความสุขในการเอาเงินไปเข้าแบงค์ผมรู้สึกดีกับอย่างหลังมากกว่ามาก ผมอ่านหนังสือมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น how to อมตะอย่างพ่อรวย หรือ หนังสือที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจเลย การได้คุยกับคนที่ทำธุรกิจมานานๆ มันไม่เหมือนกับ การนินทาเจ้านายตอนพักเที่ยงเลย ผมยังรู้สึกแตกต่างจากเพื่อนๆอยู่ดี แต่ผมไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนเมื่อก่อน ผมอยากเรียกชีวิตช่วงนี้ ว่าช่วง ความฝันกลายพันธุ์
พอใกล้ๆจะ27ผมก็คิดว่าอะไรที่เรา ว่าจะทำก็ควรจะทำให้เสร็จๆได้แล้ว ไม่ควรให้มีอะไรมาทำให้เราต้องผลัดผ่อนตัวเองอีก ข้ออ้างเดิมๆคือไม่มีเวลาผมมานั้งคิดดูว่าเราอาจจะไม่ได้จริงใจกับความฝันจริงๆก็ได้ ถ้าเรามีความจริงใจกับสิ่งที่ทำจริง ๆ ก็คงเหมือนกับที่หนังสือ how to บางเล่มบอกก็คือจงตั้งคำถามใหม่ว่าทำอย่างไรถึงจะมีเวลา สิ่งแรกที่ผมทำคือบวช 1 เดือนในผ้าเหลืองไม่ได้ทำให้ผมเข้าใจอะไรมากขึ้น แต่ทำให้ผมตั้งคำถามมากขึ้นผมสึกก่อนอายุจะครบ27ปี 3วัน ผมอยากเรียกชีวิตช่วงนี้ว่าการจัดระเบียบความฝัน(แต่ไม่มีการตรวจฉี่)
ทุกวันนี้ผมก็ใช้ชีวิตเรื่อยๆ มีความสุขกับสิ่งที่เป็น และก็มีความสุข ที่จะฝัน เริ่มจะมีเงินเก็บมากขึ้นพยามฝันยาวๆและค่อยๆตามเก็บรายละเอียดทีละเล็กละน้อย เพื่อนๆผมก็ยังทำงานที่เดิม ใช้ชีวิตกันเหมือนเดิม ผมไม่รู้ว่าเป็นสิ่งที่เขาต้องการไหม แต่มันก็ไม่สำคัญหรอก สิ่งที่สำคัญคือรู้ว่าเราต้องการอะไรก็พอ
จิงๆนะครับถ้าวันนี้เราฝันอะไรกันก็จริงใจกับมันหน่อยอย่าคิดว่าตอนนี้ยังทำไม่ได้คิดว่าทำยังไงจะทำได้ดีกว่า ผมว่ามันเป็นสิ่งที่งดงามนะครับคงไม่มียุคไหนที่เรามีโอกาสจะทำในสิ่งที่เราอยากทำได้เท่ากับยุคนี้อีกแล้ว ผมอยากจะเรียกยุคของเราว่า "ยุคความฝันเอื้ออาทร" ก็แล้วกัน


จากคุณ : กามาร่า (คุณ กามาร่า) - [ 2 ก.ย. 46 16:47:45 ]






ความคิดเห็นที่ 25

ตอน 25 -26 ยังเป็นพนักงานอยู่ในบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์
ชีวิตเรื่อยเปื่อย

ทุกวันนี้ ก็ยังเป็นมนุษย์เงินเดือนเรื่อยเปื่อยเหมือนเดิม

ชีวิตนี้จะมีอะไรตื่นเต้นมั่งมั้ยเนี่ย



จากคุณ : ให้เสียงภาษาไทยโดยพันธมิตร - [ 2 ก.ย. 46 20:39:33 ]






ความคิดเห็นที่ 26

ผมไม่ใช่อายุ 25-26 ครับ


ตอนนี้ อายุ 27 (ขอตอบหน่อยละกัน)

ชีวิตผมเริ่มต้นจาก 0 ครับ

ตอนเรียน มหาลัย ได้เงินไปเรียนวันละ 100 บาท

ที่บ้านไม่มีมรดกอะไรให้เลย พ่อ-แม่ หย่ากันตั้งแต่เด้กๆ อยุ่กับญาติๆ ทำอะไรก็ไม่สะดวกครับ

ตอนนี้ มีธุรกิจส่วนตัว มีร้านเนต ทำมา 2-3 ปีแล้วครับ กับรับจ้างทำงานพวกวางระบบครับ

(ผมจบบริหารการเงินมา หัดคอมเอาเองครับ)จากเริ่มต้น มี 11 เครื่อง ตอนนี้ มีเกือบๆ 100 เครื่องแล้วครับ

ภาระหนี้สินก็มีผ่อนบ้านเดือนละ 2 หมื่น ผ่อนรถเดือนละ 6400 ให้ยาย/หลานเดือนละ 8000


ชีวิตตลกมากจริงๆเลยครับ

ตอนแรกเรียนจบใหม่ๆ คิดในใจว่าขอได้เงินเดือน หมื่นกว่าบ่าทก็มีความสุขแล้ว


ตอนนี้ ดีใจครับที่เรามีเยอะกว่าดั่งหวัง แล้วได้ช่วยเหลือทางบ้าน ช่วยเหลือน้องๆ ให้มีงาืนทำ


แต่เหนือยครับ กว่าจะมาถึงวันนี้ แต่ก็ต้องก้าวต่อไปครับ

จากคุณ : Be-Be /uns_42@yahoo.com - [ 2 ก.ย. 46 22:30:09 A:203.151.1.61 X: ]






ความคิดเห็นที่ 27

ผมไม่มีอะไรนอกจากความจริงใจให้กับใครๆที่ต้องการ...

จากคุณ : daxter (daxter) - [ 2 ก.ย. 46 23:51:17 ]






ความคิดเห็นที่ 28

นับเป็นประสบการณ์ที่ดีนะคะอายุ25-26 มีโอกาสได้ทำงานตั้งหลายอย่าง ได้ศึกษางานหลายๆด้าน ตักตวงประสบการณ์ แอบอิจฉาอยู่นะเนี่ย คิดในทางที่ดีว่ามันเป็นกำไรชีวิตสิคะ เหนื่อยนักก็พัก หายเหนื่อยแล้วก็ลุกมาสู้ใหม่ หาเวลาให้กับตัวเองได้เติมพลังบ้างจะได้มีความคิดใหม่ๆ ออกไปดูโลกกว้างๆ อย่าให้เงินมันใช้งานเรามากนัก
เคยทำงานหนักจนที่บ้านขอให้ลาออก แต่ตอนนั้นอายุแค่ 22-23 เข้าไปเป็น Marketing sales ให้กับบริษัทเล็กๆในเครือน้ำเมารายใหญ่ ตามระเบียบทั่วไปเค้าก็หยุดเสาร์-อาทิตย์ เลิกงาน 5โมงเย็น แต่ทำไปทำมาเสาร์อาทิตย์ไม่หยุด ทำงานมัน 7วัน เจ้านายขอร้องให้ช่วยงาน สำรวจตลาด กลับบ้าน ตี2 ตี3 และด้วยความปากร้ายของเจ้านายเพื่อนร่วมงานที่เคยทำด้วยกันหมดความอดทน ลาออกกันเป็นแถว เหลือเราอยู่คนเดียวเลยต้องมารับหน้าที่จัดซื้อ ธุรการ ทำทุกอย่างยกเว้นบัญชีเพราะทำไม่เป็น ตอนนั้นถ้าถามจริงๆมันก็ไม่ได้หนักหนามากนัก แบบว่ากำลังรุ่นใหม่ ไฟแรง สั่งอะไรมาทำให้ได้ทุกอย่าง เลยไม่ค่อยโดนเจ้านายด่า งานแบบLabour มั่กๆๆ เพราะต้องไปช่วยคนงานpack สินค้าด้วย เป็นคนเดียวที่เจ้านายไม่ค่อยด่า(เกรงใจ กลัวลาออกอีกคน..555) แต่ยอมรับว่าทำไปทำมาแล้วเหนื่อยใจ ทำงานเยี่ยงทาส ราคามิตรภาพมากกก ทำงาน ตี2 ตี3 ไม่มี OT ทำงานการกุศล เป็นปี (อยากฟ้องกรมแรงงานจริงๆ) จนที่บ้านเห็นสภาพแล้วขอร้อง แกมจ้างให้ออกจากงาน เราก็เลยออกแต่มันเป็นประสบการณ์ทีดีมากนะ พอได้พักเข้าจริงๆก็เบื่ออีกต้องหางานทำต่อ ได้งานใหม่นี่สบายไปเลยเพราะที่ผ่านมามันหนักหนากว่าหลายเท่าตอนไปสัมภาษณ์งานใหม่เจ้านายยังถามว่านี่เธอทำได้ยังไง อึดจริงๆ เค้าเลยรับเลย...555 ต้องขอบคุณงานที่ผ่านมานะเนี่ย พอเริ่มมีเวลาก็อีกหาเรื่องใส่ตัวไปเรียนต่อโท หาอะไรใส่สมองน้อยๆ เต็มบ้างไม่เต็มบ้าง แล้วอายุ 25-26 ก็เริ่มค้นหาตัวเองว่าจบโทแล้วจะทำอะไรดี จริงๆแล้วเราชอบงานที่ทำอยู่หรือเปล่า หรือว่าทำไปเพราะแค่เงินดี งานสบาย(กว่าที่เคยทำ) ก็ได้คำตอบแล้วเหมือนกันว่าทำไปเพราะเงิน..อิอิอิ งานทำให้ได้ประสบการณ์ที่ดี ได้เจอคนมากมาย แต่เราไม่ได้รักที่จะทำมันไปตลอดชีวิต ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ ตอนนี้ก็กำลังวางแผนอนาคตให้กับตัวเองกับสิ่งที่ชอบมากกว่าทำไปเพราะเงิน จริงๆเงินก็อยากได้ แต่อยากได้เงินพร้อมกับสิ่งที่ชอบ มันจะได้เกิดความรู้สึกสนุก ตื่นเต้นกับเงินที่ได้มาด้วย จริงๆก็เข้าช่วงสับสนในความคิด คงเป็นช่วงเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนล่ะมั้ง..อิอิอิ...ลองให้เวลาค้นหาตัวเองสักนิดเผื่อจะปิ๊งอะไรใหม่ๆ เราก็กำลังพยายามอยู่เหมือนกัน เอาใจช่วยให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้นะคะ เราเองก็ยังรู้ไม่เท่าคุณเลย ทำได้ตั้งหลายอย่าง...Superman จริงๆค่ะ

จากคุณ : ThaiGem - [ 2 ก.ย. 46 23:51:27 ]






ความคิดเห็นที่ 29

ผมมักจะโพสต์กระทู้ไม่ค่อยบ่อยนัก จะตอบบ้างเล็กน้อย
รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมามากจริง ๆ ครับ
รู้สึกว่า งานของเราจริง ๆ แล้วไม่ใช่งานที่หนักหนาเท่าไหร่เลย
งานหนักไม่หนักดูเหมือนจะอยู่ที่เรามอง เราคิดมากกว่า
หากเรามองว่าหนัก..มันก็หนัก หากมองว่างานสบาย...ก็สบาย
จากกระทู้นี้มีคนที่ความคิดคล้าย ๆ กัน ได้รับคำแนะนำจากพี่ ๆ ผู้อาวุโสกว่า
ที่ได้ให้คำแนะนำ ซึ่งไม่บ่อยนักที่เราจะได้รับคำแนะนำ
อย่างตรงไปตรงมาในชีวิตประจำวัน
อยากบอกว่าห้องนี้อบอุ่นมาก ๆ เลยครับ









จากคุณ : แบ่งกัน - [ 3 ก.ย. 46 00:10:53 ]






ความคิดเห็นที่ 30

เรารับราชการแต่ใช่ว่าจะไม่มีอุปสรรค จะลาออกตอนที่รับราชการปีแรก แล้วตอน 26 เนี่ยเรากำลังจบปริญญาโท แล้วต่อมาเราก็จบปริญญาเอกในที่สุด คิดถึงตอนที่ตัดสินใจจะลาออก พี่ที่เป็นเพื่อนร่วมงานพูดประโยคเดียวแล้วคิดได้ "ถ้าคุณลาออกเท่ากับคุณยอมแพ้ คุณแพ้เค๊า ทั้งใจและกาย" คือเรามีปัญหากับเจ้านายน่ะค่ะ แต่ในที่สุดเราก็สอบเปลี่ยนงานได้ ปัจจุบันเราจบปริญญาเอกแล้ว มีเงินทองเหลือใช้ ได้ทำงานในแบบที่เราอยากทำ จุดหักเหของชีวิต ต้องอดทน และสู้แบบถอดใจ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ทำวันนนี้ให้ดีที่สุด ในที่สุดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์จะผ่านไป ถ้าเราลาออกตั้งแต่วันนั้น ก็ไม่มีวันนี้ไม่มีแม้แต่การได้รับโอกาสศึกษาต่อจนถึงปริญญาเอก คิดแล้วหวาดเสียวค่ะ แค่การตัดสินใจในจุดหักเห เพียงครั้งเดียว เปลี่ยนประวัติศาตร์ชีวิตได้ค่ะ "ทำวันนี้ให้ดีที่สุดนะคะ" ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ"

จากคุณ : ปูเฉยเฉย - [ 3 ก.ย. 46 07:57:42 A:203.170.253.20 X: ]






ความคิดเห็นที่ 31

พยายามอ่านหนังสือดีๆ ให้มาก พยายามมองอะไรกว้างๆออกไป อย่ายึดติดกับสิ่งที่เป็นอยู่ เพราะทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้

ความคิดเนี่ยแหละ จะเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตเราว่าจะได้แค่ไหน เหมือนที่อาจารย์ชาสอนไว้ ลองไปหาอ่านดู เรื่อง "ความคิด"


ความคิด ที่กว้างไกล อาศัยจิตที่สงบเป็นฐาน

ถ้าจิตไม่สงบไม่สบาย ไม่กุ๊กกิ๊ก จะคิดอะไรไม่ออก

ดังนั้น จิตจึงเป็นพื้นฐานสำคัญ ของการ "คิด"

คิด ถูก ก็ตัดสินใจถูก กระทำในสิ่งที่ถูก

ก็ทำให้ชีวิตสบายขึ้นไปเอง
---

ทีนี้พื้นฐานเรื่องจิตเนี่ย จะสงบมั่นคงได้ ต้องมัพื้นฐาน 3 ประการ คือ

1 มีศีล (การมีศีลเนี่ย แปลว่ามีความสามารถบริหาร คน และ วัตถุ ที่เป็นสิ่งแวดล้อมได้ดีนะ อย่าไปคิดแคบๆว่า เป็นศีล 5 เท่านั้น จริงๆ ศีลพื้นฐานมี 4 หมวด ลองไปหาอ่านดู)

2 มีสมาธิ ..... พอเราจัดการกับปัญหารอบๆตัวได้ดี จากข้อ หนึ่ง เราจะมีเวลาว่าง ไม่เหนื่อยมาก ตรงนี้แหละ ที่เราสบายๆหน่อย เราจะคิดอะไรๆได้เยอะ

3 เมื่อมีสองอย่างแล้วปัญญาก็เกิด ปัญญาเนี่ย ดีกว่าความรู้ เพราะปัญญาคือการเอาความรู้ที่จำเป็นที่เรามีมาประมวล ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ เหมือนกับ คิดแผนธุรกิจดีๆได้ อย่างนั้น ถือว่ามีปัญญา

---
อีกอย่างที่เรามักพลาด คือ การ "หยุด"

มีหลายอย่างที่เราไม่ควรทำ คือทำไปแล้วทั้งเหนื่อย ทั้งเสียเวลา อยู่เฉยๆดีกว่าเยอะ การ "หยุด" หรือ การ"เว้นว่าง" เนี่ย สำคัญมาก เพราะเราได้ประโยชน์ในตัว คือ มีเวลาว่าง และไม่เหนื่อย ต้องลองพิจารณาดูว่า อะไรที่ทำไปแล้วเสียเปล่า ก็อย่าทำให้เมื่อย


อาจจะเป็นเพราะเราถูกสอนให้ขยันมั้ง...บางทีขยันในสิ่งที่ไม่ได้เรื่อง ก็เสียเวลา เสียพลังงานเหมือนกันนะ

จากคุณ : Venus & Mars - [ 3 ก.ย. 46 09:30:33 ]






ความคิดเห็นที่ 32

ยังไม่ถึงค่ะ แต่คิดว่าตอนนั้นน่าจะยังหาผัวไม่เจอ.. อุ๊บบบสสสส์ .. หางานไม่เจอ .. อาจต้องเต้นระบำชาวเกาะไปก่อน ..
จริง ๆ ว่าจะไปสมัครเข้าพรรคการเมือง หรือ อะไรที่สักอย่างที่เกี่ยวกับรัฐบาล .. ฝัน ๆ ลม ๆ แล้ง ๆ ไปก่อนอ่ะค่ะ .. แต่แหม .. ใครจะไปรู้ล่ะคะ ..
คุณเจ้าของกระทู้ขา ... อายุเป็นเพียงตัวเลข คิดว่าคุณคงมีฝัน แต่อยู่ที่ฝันจะเป็นจริง ได้รถเข็น หรือ จะเข็นครกขึ้นภูเขา ก็อีกเรื่อง ... เอาเป็นว่า
ความพยายามอยู่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น อย่าเพิ่งท้อค่ะ ..สู้ ๆ .. อะฮั้นคนนึงล่ะ ขอชูจั๊กแร้เชียร์ทุกคนในนี้ขาดใจเรยยยย ..

จากคุณ : หลานป้าเม้าท์ - [ 4 ก.ย. 46 02:29:26 ]






ความคิดเห็นที่ 33

ตอนนี้ผมอายุก็ประมาณนี้นะ เป็นเจ้าของบริษัทเกี่ยวกับReal Estate ทำพวกProperty Management, Consultant แล้วก็Investment ผมเริ่มธุรกิจของผมด้วย1สมอง2มือ ทำตั้งแต่ตอนอยู่มหาลัย (ตอนนี้ แม้ยังเรียนไม่จบ แต่ลูกน้องผมจบเอก2คน จบโทเมืองนอกอีก6คน) กิจการก็พอไปได้เรื่อยๆครับ ไม่หวือหวาอะไร บริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อ2ปีที่แล้ว ขณะนี้มีบริษัทในเครืออีก6บริษัท ไตรมาสที่2ของบริษัทที่เล็กที่สุดในเครือ ปี46นี้ยอดอยู่ที่1600ล้าน คาดว่าไตรมาสที่3 ไม่น่าจะพลาด2500ล้าน ชีวิตณ ขณะนี้ก็จัดอยู่ในเกณฑ์สมบูรณ์ หน้าตาจัดอยู่ในขั้นดีทีเดียว จะเรียกว่าperfectก็ไม่เชิง ยังขาดเลขาสาวสวยอีกหลายอัตรา สาวๆท่านใดผ่านมาสนใจ ยื่นใบสมัคร พร้อมรูปถ่าย สัดส่วน เบอร์โทรได้ตามที่อยู่ข้างๆนี้ needxxx@hotmail.com ส่วนหลักฐานการศึกษาไม่จำเป็น ประสบการณ์ไม่มีไม่เป็นไร เทรนกันได้ แล้วทางเราจะติดต่อกลับ
ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ตัวเองมา ณ ที่นี้

จากคุณ : ปลาแมน - [ 4 ก.ย. 46 02:57:30 A:168.120.13.140 X: ]






ความคิดเห็นที่ 34

ตอนนั้นก็ทำงานหนัก เช้ามาก็ดูแฟ๊กซ์ต่างประเทศ เคลียร์งาน ตอบแฟ๊กซ์ คุยโรงงาน และเรื่องเล็กน้อยในออฟฟิต ก็รับหมด ทำตั้งแต่ซ่อมของในออฟฟิตไปจนถึงรับรองลูกค้าต่างประเทศ ดึกๆยังต้องมาดูแฟ๊กตอบแฟ๊กเลย

สนุก แต่เหนื่อยมาก

ตอนนี้ก็ทำแป๊ปเดียวเสร็จ เพราะประสบการณ์เยอะแล้ว แก้ปัญหาอะไรได้ดีขึ้น
เลยมีเวลามาตอบนี่ไง

จากคุณ : ลุงหยก - [ 4 ก.ย. 46 10:27:27 ]






ความคิดเห็นที่ 35

ตอนนี้ 26 กินเงินเดือน เหมือนอยู่ไปวันๆ ยอมรับว่าเครียดค่ะ แต่ไม่ท้อนะ เพราะชีวิตเราจะไม่หยุดแค่นี้แน่นอน มาเป็นกำลังใจให้กับทุกๆ คนค่ะ

จากคุณ : น้ำเป-ล่า - [ 5 ก.ย. 46 12:26:46 ]






ความคิดเห็นที่ 36

25 ต้นๆ
ใช้ชีวิตแบบมนุษย์เงินเดือนทั่วๆไป
กำลังเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์จากคนรอบๆข้างอยู่
แหละหวังว่า ....จะมีสักวันหนึ่ง ที่เป็นวันของเรา

ความสุขความทุกข์ ไม่มีใครรู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ ....
จะยอมรับความจริงที่เจอได้แค่ไหน....



จากคุณ : ชีวิตจะรุ่งอย่ามายุ่งกับผม - [ 11 ก.ย. 46 14:35:53 ]






ความคิดเห็นที่ 37

ผมไม่เคยทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนกะเขาเลย อยากมาก
พ่อแม่ส่งเสียจนเรียนจบมาสูงมาก
แต่ที่บ้านมีเงินเยอะ มีธุรกิจขนาดกลางทำ ผมก็ทำธุรกิจของตัวเอง เป็นเจ้านายคนอื่นมาตลอด คิดแตกลายทำธุรกิจไปเรื่อยๆ กลางวันก็มีคนเอาอาหารมาเสริฟ ไปแบงค์ก็มีคนไปแทน
ตรงข้ามกับแฟนผมเขาเป็นลูกจ้างแบงค์
รู้สึก

ar3s
07-10-2003, 07:09 PM
ทำไมยาวจัง อ่ะ แต่จะพยายามอ่าน :-)

Crovax
10-10-2003, 01:33 AM
ยาวอะ
เหนละขี้เกียจอ่าน

rx7
10-10-2003, 11:15 PM
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะ
พอดีไปเจอในพันทิพ เห็นว่ามันได้แง่คิดอารายดีๆ
เลยเอามาฝาก ที่จิงมีอีกเยอะอ่ะ
ลองเข้าไปดูที่ www.pantip.com (http://www.pantip.com/cafe) ห้องสีลม นะ