PDA

View Full Version : Computer Engineering vs Computer Science



spicydog
16-08-2009, 09:03 PM
กระทู้นี้เป็นบทความเกี่ยวกับวิศวะคอมฯกับวิทยาการคอมฯ
ซึ่งเป็นที่ถามกันมากมาย จนผมได้ไปอ่านเจอบทความหนึ่งดังที่คัดลอกมาให้อ่านกันครับ
ลองอ่านดูครับ อธิบายค่อนข้างจะเคลียเลยทีเดียว :)
อ่านแล้วก็ยังฟึตฟัตๆนิดหน่อย เพราะผมเรียนวิทยาการคอม
สุดท้ายเรียนจบอะไรออกมา ความสามารถถึง+ขยันซะอย่าง ก็ไม่ต้องไปกลัวหลอก



ผมมักเข้าไปอ่านในกระทู้พันธ์ทิพย์บ่อย ๆ ครับ ก็มีแวะไปที่ Tech Exchange บ้างเหมือนกัน ที่นั่นนอกจากมีกระทู้ร้อนแรงประเภทว่าค่าแรงของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ควรเป็นเท่าไหร่ดี? (http://www.peetai.com/archives/162) ก็ยังมีอีกหัวข้อนึงที่ร้อนแรงไม่แพ้กันนั่นก็คือ … Computer Engineering กับ Computer Science อันไหนดีกว่ากัน หรือ Computer Engineering กับ Computer Science ควรเลือกเอ็นสะท้านเข้าอย่างไหนดี

ตั้งกระทู้แบบนี้ก็ทะเลาะกันน่ะสิครับ ความเห็นงี้ยาวเป็นหางว่าวเลย ซัดกันนัวเนียทีเดียว ผมล่ะหน่าย อ่านทีไรทำใจทุ้กที

ผมล่ะคันมือยิบ ๆ อยากจะบอกพวกที่ทะเลาะกันเหลือเกินว่า การจะเห็นว่าอะไรดีกว่าอะไร หรือจะเลือกอะไร ๆ ที่ว่านั่นน่ะ เราต้องทำความเข้าใจรากเหง้าของมันซะก่อน เราถึงค่อยตัดสินใจ ว่าแล้วผมก็ทำรูปมาให้ดูเลยเพื่อให้เกิดความเข้าใจ โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่า คอมพิวเตอร์คือเครื่องมืออิเลกทรอนิกส์ชนิดหนึ่ง ซึ่งอิเลกทรอนิกส์จะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยไฟฟ้า โอเคมั้ย งั้นเริ่มเลย

http://www.peetai.com/wp-content/uploads/2006/11/computer_field.jpg

(สำหรับคนที่ไม่เข้าใจตัวย่อ จะขออธิบายดังนี้ วศบ. คือ วิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต, วทบ. คือ วิทยาศาสตร์บัณฑิต และ บธบ. คือ บริหารธุรกิจบัณฑิต)

จาก ภาพจะเห็นว่าระบบเครื่องกลกับระบบไฟฟ้าจะมีความเกี่ยวข้องกัน เพราะระบบไฟฟ้าสามารถสั่งงานให้มอเตอร์หมุนได้ และระบบเครื่องกลก็เป็นไดนาโมหมุนให้เกิดระบบไฟฟ้าขึ้นมาได้ (เอ่อ ผมก็รู้อ่ะครับว่าทุกวันนี้เมืองไทยเราตะบี้ตะบันเผาถ่านหินกับเผาน้ำมันมา ใช้ปั่นไฟให้เราอ่ะครับ ซึ่งอันนั้นผมถือว่าเป็นระบบเคมีอ่ะครับ ขอถือว่าเป็นอีกประเด็นแล้วกัน)

ระบบเครื่องกลเป็นงานของคนจบวิศวกรรมเครื่องกล ในขณะที่ระบบไฟฟ้ากำลัง เป็นงานของคนที่จบวิศวกรรมไฟฟ้า ใช่แมะ? ที่สำคัญเด็กไฟฟ้าก็รู้วิธีในการใช้ไฟฟ้าควบคุม stepping motor (http://en.wikipedia.org/wiki/Stepping_motor) ซึ่งถือเป็นแหล่งกำเนิดพลังในการทำให้เครื่องจักรกลทำงาน (อันนี้เป็นหลักการของการควบคุมหุ่นยนต์เลยนะเนี่ย)

แต่ เนื่องจากว่าการที่เราจะควบคุมไฟฟ้ากำลัง แต่เพียงอย่างเดียว คงไม่สามารถทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ ก็เลยต้องมีระบบอิเลกทรอนิกส์ขึ้นมา เพราะระบบอิเลกทรอนิกส์เป็นระบบควบคุมสัญญาณไฟฟ้า และตัวของระบบเองก็แปลงกำลังไฟฟ้ามาเป็นสัญญาณไฟฟ้าเพื่อหล่อเลี้ยงเช่นกัน ซึ่งคนที่จบวิศวกรรมอิเลกทรอนิกส์มา ย่อมรู้ดีว่าจะส่งสัญญาณไฟฟ้าไปยังไง เพื่อให้ระบบไฟฟ้ากำลังทำงานอย่างที่ตัวเองต้องการ

ทีนี้ระบบอิเลกทรอนิกส์ก็ก้าวหน้ามาก จนมนุษย์เราสามารถสร้างคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นเครื่องมืออิเลกทรอนิกส์ที่สลับ ซับซ้อนขึ้นมาจนได้ ซึ่งจุดเปลี่ยนมันก็อยู่ตรงที่คอมพิวเตอร์มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้เขียน โปรแกรมควบคุมมันได้อีกทอดนึง ดังนั้นระบบฮาร์ดแวร์เชื่อมประสานกับระบบซอฟต์แวร์ก็เลยกลายเป็นงานของคนที่ จบวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ผู้ซึ่งมีความเข้าใจในพื้นฐานของสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์, มีความเข้าใจในระบบอิเลกทรอนิกส์ และมีความเข้าใจในภาษาคอมพิวเตอร์ (ซึ่งเป็นภาษาเครื่องของคอมพิวเตอร์นั้น ๆ) ดังนั้นหน้าที่ในการสร้างซอฟต์แวร์เพื่อควบคุม และสื่อสารกับคอมพิวเตอร์และฮาร์ดแวร์ที่เกี่ยวข้อง จึงเป็นบทบาทของวิศวกรคอมพิวเตอร์ไปโดยปริยาย

ในโลกนี้มีโจทย์ตั้งมากมายรอให้แก้ไขอยู่ ตั้งแต่โจทย์ง่ายแสนง่าย ไปจนถึงโจทย์ยากมหาหิน ซึ่งโจทย์ส่วนใหญ่จะแก้ไขได้รวดเร็วมาก หากเราประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยแก้ไขให้ ดังนั้นจึงเป็นงานของคนที่จบวิทยาการคอมพิวเตอร์ ที่จะคิดค้นทฤษฎีต่าง ๆ เพื่อประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้งทำหน้าที่เขียนซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์เพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ตามทฤษฎีที่มีการคิดขึ้นมา

จะเห็นว่าเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เราก็จะได้บทสรุปในระดับหนึ่งแล้วว่า Computer Engineering (http://en.wikipedia.org/wiki/Computer_engineering) กับ Computer Science (http://en.wikipedia.org/wiki/Computer_science) มันต่างกันตรงไหน

ทีนี้เรามาดูในสังคมการศึกษาของไทยเรา อย่างที่เรารู้กันว่าคะแนนเอ็นสะท้านของวิศวะจะสูงปรี๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ มาก ๆ ในขณะที่ของวิดยาอยู่กลาง กล๊าง กลาง หรือกล่าวง่าย ๆ ก็คือ คนสติปัญญาดีจะไปเรียนวิศวะกันเยอะนั่นเอง

เรื่องเรียนหนังสือมันก็เรื่องหนึ่งครับ เรื่องของการจ้างแรงงานในระบบอุตสาหกรรมของไทยก็อีกเรื่องหนึ่ง จากภาพที่ผมวาดไว้ข้างบนจะเห็นว่า ระบบฮาร์ดแวร์ + ซอฟต์แวร์ซึ่งเป็นงานโดยตรงของคนจบวิศวกรรมคอมพิวเตอร์นั้น มีการต่อเชื่อมอย่างใกล้ชิดกับระบบอิเลกทรอนิกส์ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ วิศวกรคอมพิวเตอร์จะได้ทำงานตรงกับบทบาทของตัวเองได้ หากอุตสาหกรรมอิเลกทรอนิกส์ของไทยเราขยายตัวอย่างสมเหตุสมผลเหมือนประเทศ อุตสาหกรรมชั้นนำ

แต่ก็อย่างที่เรารู้กันว่าประเทศไทยเรา เป็นเซียนทางด้านการนำเข้าระบบอิเลกทรอนิกส์ทั้งปวง อีกทั้งเราก็เป็นเซียนเรื่องการประกอบอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์อีกต่างหาก ไอ้เรื่องจะมาวิจัยพัฒนาอุตสาหกรรมอิเลกทรอนิกส์ สงสัยต้องรอไปอีกนาน

มันจึงทำให้ทุกวันนี้คนจบทางด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ต้อง <strike>downgrade</strike> apply ตัวเอง ลงมาทำงานของคนที่จบวิทยาการคอมพิวเตอร์ครับ เช่น งานพัฒนาซอฟต์แวร์อัจฉริยะ, งานพัฒนา search engine, งานพัฒนา speech recognition, งานพัฒนา OCR ฯลฯ ซึ่งจริง ๆ แล้วงานพวกนี้เป็นงานของคนจบวิทยาการคอมพิวเตอร์เค้า

ทางคนจบวิทยาการคอมพิวเตอร์เองก็สาหัสไม่แพ้กันครับ เนื่องจากว่าระดับสติปัญญาก็สู้คนจบวิศวะไม่ได้อยู่แล้ว ซ้ำร้ายยังถูกแย่ง segment ของตัวเองไปอีกต่างหาก ก็เลยต้อง <strike>downgrade</strike> apply ตัวเองเหมือนกัน ลงไปทำงานพวกซอฟต์แวร์ ERP, CRM, ซอฟต์แวร์บัญชี, ซอฟต์แวร์พัสดุ ฯลฯ ซึ่งจริง ๆ แล้วงานพวกนี้เป็นงานของคนจบคอมพิวเตอร์ธุรกิจเค้า

ทีนี้คงไม่ต้องพูดถึงคนจบบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจนะครับ ว่าเขาจะต้อง <strike>downgrade</strike> apply ลงไปทำอะไร !!!

จะเห็นว่าหากอุตสาหกรรมของประเทศ ขยายตัวอย่างสมเหตุสมผลตามสภาวการณ์ที่มันควรจะเป็น ชนชั้นแรงงานอย่างพวกเรา ก็จะได้ยืนอยู่บน segement ของตัวเองได้อย่างมีความสุขและไม่มีปัญหาครับ

ป.ล. ผมเองก็จบวิทยาการคอมพิวเตอร์ครับ ไม่ได้คิดจะกล่าวกระทบคนจบวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ครับ ผมพูดตามสภาวะที่เป็นจริงครับ ดังนั้น อย่าโกรธผมเลยนะคร้าบบบบบได้โปรด




คัดลอกจาก: http://www.peetai.com/archives/194

ossytong
17-08-2009, 08:00 AM
ผมหาไม่เจอแล้ว ที่ อ.ธรรมศาสตร์ พูดเอาไว้

ในคำถามที่ว่า CS CE อันไหนดีกว่ากัน<จบ ป.ตรี ในการทำงาน>

คำตอบคือ "ในระยะสั้น CE จะดีกว่า แต่ในระยะยาวหมายถึงต่อโท-เอก CS จะดีกว่าไปได้ไกลกว่า"

จะพยายามหา VDOมาให้นะครับ

nongnoobjung
06-09-2009, 10:36 PM
อ่านหน่อนนะ เรียน Cs อยุ่

bomb2532
07-09-2009, 02:12 AM
วิดวะคอมก็จะเรียนแบบ
เอ็นจิเนีย สอนแบบเอ็นจิเนีย

การเรียนเน้น การเขียนโปรแกรมและเน็ตเวิร์ค

จากที่อาจารย์บอกส่วนมากที่จบไปก็ ไม่เขียนโปรแกรม

ก็ไปด้านสายเน็ตเวิร์ค ซึ่งมีหลาย สายงานมากมาย

คอมซายก็จะเรียน เน้นการเขียนโปรแกรม และจะเรียนแบบวิทยาศาสตร์

santana256
30-12-2009, 12:08 AM
ผมก็กำลังเรียนสาขาเทคโนโลยีคอมฯเหมือนกัน แนวโปรแกรมที่อาจารย์จะสอนนั้น ต้องเป็นJAVAด้วยรึเปล่า?
หรือว่าภาษาอื่นก็เห็นเขียนได้เหมือนกัน แต่อาจารย์ก็ไม่ได้พูดถึงนัก

santana256
30-12-2009, 12:08 AM
ผมก็กำลังเรียนสาขาเทคโนโลยีคอมฯเหมือนกัน แนวโปรแกรมที่อาจารย์จะสอนนั้น ต้องเป็นJAVAด้วยรึเปล่า?
หรือว่าภาษาอื่นก็เห็นเขียนได้เหมือนกัน แต่อาจารย์ก็ไม่ได้พูดถึงนัก

21thpzmc
14-01-2010, 08:39 PM
ตอนนี้ผมกำลังคิดมากกับการเรียนต่อ ป.ตรี ไม่รู้จะเลือกทางไหนดี ผมขออ่านศึกษาหน่อยนะครับ

vasTro
15-01-2010, 01:07 AM
ผมเรียนสายนี้อยู่อะครับ (Computer Science) ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้อะครับ
มันไม่ขึ้นอยู่กับสายที่เรียนหรอกครับมันขึ้นอยู่กัความขยันและความพยายามมากกว่าครับ

Solan
24-01-2010, 02:08 AM
คอมธุรกิจ = คอมพิวเตอร์ + ธุรกิจ
ถามว่ารู้เรื่องคอมลึกมัย คำตอบก็คือไม่รู้ลึก แต่จะรู้พื้นฐานคอมหลักๆเกือบทุกเรื่องทำให้มีพื้นฐานในการต่อยอด
ถามว่ารู้เรื่องธุรกิจลึกมัย ก็ตอบอีกว่าไม่ลึก แต่รู้เรื่องธุรกิจทุกด้าน ซึ่งสามารถต่อยอดความรู้ได้ง่าย
ถามว่าจะสู้กับวิทย์คอมได้มัย คำตอบคือ เรื่องคอมอาจแพ้ (แต่มีบางคนที่เทพพอๆวิทย์คอมเลย แต่ก็มีจำนวนน้อย) แต่เรื่องความรู้ด้านธุรกิจคอมธูรกิจชนะ
ถามว่าจะสู้เรื่องธุรกิจกับสายบริหารได้มัย คำตอบคือ ถามเป็นเรื่องเฉพาะด้านก็อาจแพ้ (เช่นพวกที่เรียนการตลาดโดยตรง พวกนี้วางแผนทางการตลาดเก่งมาก) แต่มีความรู้ด้านบริหารธุรกิจโดยรวมพอๆกัน และมีความรู้เรื่องคอมที่พวกสายบริหารไม่มี
แล้วถามว่าเรื่องงานล่ะ ความรู้เรื่องคอมก็สู้วิทย์คอมไม่ได้ ความรู้ด้านธุรกิจก็สู้พวกเรียนเฉพาะทางไม่ได้ แล้วจะไปทำอะไรล่ะ
คำตอบก็คือ เมื่อความรู้เรื่องคอมสู้วิทย์คอมไม่ได้ แต่ชนะสายบริหาร และ ความรู้เรื่องสายบริหารสู้สายบริหารเฉพาะด้าน แต่ชนะวิทย์คอม คำตอบก็คือ
1.สายบริหารโครงการคอมพิวเตอร์ เพราะมีความรู้ในด้านหลักการบริหารและมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ (คู่แข่งคือCE)
2.สายวิเคราะห์ระบบทางธุรกิจ (อันนี้คนมาแย่งงานยาก เพราะเมื่อวิทย์คอมไม่มีความรู้ด้านธุรกิจ และ สายบริหารไม่มีความรู้เรื่องคอม คนที่อยู่ตรงกลางก็คือคอมธุรกิจนี้เอง ซึ่งทำให้สามารถทำงานที่ใช้ความรู้ที่อยู่ตรงกลางระหว่าง2ฝ่ายนี้ได้)
3.โปรแกรมเมอร์ (คู่แข่ง คือ CS)
4.บริหารธุรกิจ
จากที่พูดมาเป็นแค่การเสนอสายวิชาแขนงหนึ่งเท่านั้น เพื่อบางคนที่ไม่เคยรู้จักหรืออยากรู้ว่าคอมพิวเตอร์ธุริจคืออะไร ก็หวังว่าคนที่เรียนBC จะมีเป้าหมายของตัวเอง นะครับ^^

ปล.ชอบมีคนว่าBC อยู่เลยว่าเป็นเป็ด แต่มันก็จริงแหะ (แต่อย่างน้อยก็ทำได้หลายอย่างล่ะน่า สักวันคงจะมีเป็ดที่ บินเทพ ร้องเทพ ว่ายน้ำเทพ ขึ้นมาสักตัวเนอะ)

Solan
24-01-2010, 02:20 AM
ผมเรียนคอมธุรกิจ แต่ก็อยากจะรู้เรื่องคอมให้ลึกกว่านี้อยู่ ขอบคุณสำหรับกระทู้นี้ครับ

tanittakon
24-01-2010, 04:53 AM
วิดวะคอมก็จะเรียนแบบ
เอ็นจิเนีย สอนแบบเอ็นจิเนีย

การเรียนเน้น การเขียนโปรแกรมและเน็ตเวิร์ค

จากที่อาจารย์บอกส่วนมากที่จบไปก็ ไม่เขียนโปรแกรม

ก็ไปด้านสายเน็ตเวิร์ค ซึ่งมีหลาย สายงานมากมาย

ponomy
31-01-2010, 02:59 PM
ผมเรียน วิทยาการคอมพิวเตอร์ลาดกระบังครับ

kylix
28-02-2010, 04:34 PM
ตอนนี้ก็เรียน CS อยู่ซึ่งเพื่อนก็เรียน CE จากที่ดูแล้วก็ไม่ค่อยต่างกันเท่าไรเพราะช่วงนี้เค้าปรับหลักสูตรใหม่ใหม่มีความเข้มข้นมากขึ้นเลยทำให้ช่องว่างมันไม่ค่อยต่างกันแล้ว

foxnew
02-03-2010, 12:34 PM
ตอนนี้ผมเรียน Computer Engineering มาอ่านกระทู้นี้รู้อนาคตตัวเองเลย ห้าๆๆๆๆ แถมได้รู้อีกมันต่างกันยังไงจะได้ไปเถียงกับเพื่อนถูก

Pearless
07-04-2010, 03:11 PM
สำหรับส่วนตัวผมเรียนวิทย์คอม ทั้งที่จริงๆ ผมชอบ Hardware
แต่สาเหตุที่ผมไม่อยากเรียนวิศวะ เนื่องจากไม่อยากที่จะไปหนักกับวิชาแกนทั้งหลาย
อย่างเช่น Math For Engineer , Physic 1 2 3 และวิชาตระกูลพื้นฐานวิศวะ
ถ้าถามว่าทำไมถึงไม่อยากเรียน ไม่ใช่ว่าผมเรียนไม่รู้เรื่องนะ แต่จริงๆ แล้วผมคิดว่า
(ผมสนใจ Network) ผมสามารถหาความรู้ทาง Hardware "้เท่าที่สนใจและใช้งาน"
แล้วเน้นเรียนวิชาทางวิทยาการคอม เนื่องจากเหตุผลระยะยาวว่า
ถ้าคุณเลือกเรียนในสายที่ทำการพัฒนาโปรแกรม คุณจะยืนได้ยาวกว่าในสายของการทำงานด้าน Hardware
เพราะ ไม่ว่ายังไง App ก็ไม่มีวันที่จะตันได้ง่าย ๆ ต่างกับทาง Hardware ที่นับวันก็ยิ่งจะเข้าใกล้ทางตันเต็มที
ยุคหลัง ๆ คนฮิตที่จะมาพัฒนา App ที่ใช้บน Hardware กันมากกว่าที่จะพัฒนา Hardware เข้าหา App
เพราะเนื่องจากมันพัฒนาได้ง่ายกว่า รวดเร็วกว่า และมีต้นทุนที่น้อยกว่า

แต่ยังไงสองสายนี้ ก็ต้องเกื้อหนุนกันอยู่ดี

เพราะ ถ้ามี App แต่ไ่ม่มี Hardware ให้ Run ก็เหมือนกับสร้างเรือมาจอดไว้บนถนน ไม่มีค่า
แต่ถ้ามี Hardware แต่ไม่มี App ให้ Run ก็เหมือนถนน ที่ว่างเปล่า ไม่มีรถมาวิ่ง จะสร้างมาเพื่ออะไีร

สุดท้าย เลือกสิ่งที่เป็นคุณ และหนทางที่คุณชอบมากที่สุด
เพราะถ้าเลือกผิด คุณจะรู้เลยว่า นรก มีจริง !

golfcru
07-04-2010, 04:27 PM
ผมว่า คอมเอ็นจิเนียมันต่างกันเยอะนะครับกับคอมซาย

คือวิศวะนี่ที่เน้นๆคือเกี่ยวกะฮาร์ดแวร์ครับโดนส่วนตัวนะขึ้นชื่อว่าวิศวะนั่นคือช่างนี่เองครับ

ส่วนเรื่องที่ว่าไปไกลไม่ไกลขึ้นอยู่กับงานที่จะไปครับสายฮาร์ดแวร์วิศวะเงินดีกว่าเพราะรู้ลึกกว่าคอมซาย

ถ้าด้านเขียนโค้ทอัลกอใหม่ๆอันนี้ต้องยอมคอมซายแต่รวมๆแล้วมันมีความแตกต่างลึกๆที่มองกันไม่เห็นอยู่ครับ

ที่เค้าเรียกว่าเครติดน่ะ

Cr@zyCom
08-04-2010, 01:56 PM
ตอนนี้ผมเรียนCS อยู่ครับ
ซึ่งหลายๆคนก็คงจะทราบแล้วว่า CSกับCEจะต่างกันที่เน้นไปคนละทาง
CSจะไปทางprogrammingและSoftwareมากกว่า
CEก็จะเน้นไปทางHardware
แต่ทางนี้ทางนั้นวิชาเรียนก็จะคล้ายกันมากเลยทีเดียว อาจจะมีพวกNetworkหรือDatabase
ผมว่าสุดท้ายแล้วก็ทำงานในลักษณะเดียวกัน
ถ้าถามว่าจบแล้วโอกาสในการทำงานของการเรียนสองคณะนี้จะเป็นอย่างไร
ผมว่าขึ้นอยู่กับว่าใครจะขยันหาความรู้ให้ตัวเองมีความรู้เหมาะกับงานที่ตัวเองจะทำมากที่สุด

itsada_na
16-04-2010, 04:24 PM
ผมกำลังศึกษา CE
ดูจากแผนการเรียน คือ
จะเรียนควบคู่กันไป
ทางด้่าน hardware and software
แต่จะขึ้นอยู่กับคนเรียนเป็นหลักว่าจะสนใจด้านไหน
คือจะปูพื้นฐานให้หมด แต่ต้องประยุกต์

ichiko12
24-04-2010, 07:56 PM
ผมเด็ววิทยาการคอมคับ



รายงานตัว

อิอิ