PDA

View Full Version : พระไตรปิฎกระบุไว้ว่าศาสนาพุทธจะสิ้นสุดใน พ.ศ.5000



vanhelzing-kill
25-07-2009, 02:30 AM
จากที่ผมได้ไปปฏิบัติธรรมที่เกาะมหามงคลมา ก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับศาสนาพุทธ แต่ที่ผมเลือกที่จะบอกเล่าเรื่องนี้เพราะเห็นว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ ผู้ที่นับถือพุทธศาสนาควรจะได้รู้ไว้

เรื่องนี้มีระบุไว้ในพระไตรปิฎก แต่ผมก็จำม่าได้ว่าหน้าไหน มีระบุไว้ว่า ศาสนาพุทธมีมายาวนานเป็นหลายล้านๆปีพูดได้ว่าไม่รู้เวลาถือกำเนิด และศาสนาพุทธไม่ได้มีพระพุทธเจ้าเพียงอฝค์เดียวเท่านั้น แต่ศาสนาพุทธมีพระพุทธเจ้านับเป็นล้านองค์ คือเมื่อศาสนาพุทธของพระพุทธเจ้าองค์เก่าเสื่อมลงก็จะมีองค์ใหม่ตรัสรู้ขึ้นอีก และในองค์ปัจจุบันของเรานี้มีชื่อว่า สมเด็จพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้บอกไว้ว่าศาสนาของพระองค์จะเสื่อมลงใน พ.ศ.5000 ซึ่งในระหว่างนั้นมนุษย์จะมีอายุขัยค่อยๆสั้นลงไปเรื่อย เป็นต้นว่าตอนนี้ อายุขัยอยู่ที่ประมาณ 60 ปี ก็จะค่อยๆลดลงเป็น 50ปี 40ปี จนกระทั่งมนุษย์มีอายุขัยถึงเพียงแค่ 10 ปีเท่านั้น จากนั้นเมื่อถึงพ.ศ.5000พระบรมสารีริกธาตุหรือกระดูกของพระพุทธเจ้า ที่กระจัดกระจายอยู่ทุกมุมโลก จะมารวมเป็นหนึ่งเดียว พระพุทธองค์จะตื่นขึ้น และรับผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อยู่ในศีลในธรรมให้ได้ไปสู่นิพพานซึ่งเป็นการพ้นทุกข์ไม่ต้องกลับมาเกิดอีกต่อไป นับจากนั้นโลกก็จะเข้าสู่ยุคมืด มนุษย์จะสมสู่กันเหมือนดังเช่นสัตว์เดียรัจฉาน คือไม่สน ว่าจะเป็นพ่อเป็นแม่ เป็นญาติ พี่ น้อง ก็มั่วกันไปหมด มีแต่การรบลาฆ่าฟัน เป็นไปอย่างนี้อยู่นาน จนกระทั่งมีพระพุทธเจ้าองค์ใหม่อุบัติขึ้น และได้เผยแผ่คำสอนของพระองค์ มนุษย์โลกจึงกลับมามีศีลธรรม จริยธรรม และโลกจะเข้าสู่สภาวะปกติ ในช่วงนี้อายุขัยของมนุษย์ จะยาวขึ้น จาก10 ปี เป็น20 ปี เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนเป็นร้อยๆปี
ที่ผมได้กล่าวมานี้เป็นเพียงเนื้อความคร่าวๆเท่านั้น อาจมีความคราดเคลื่อนไปบ้าง แต่ก็เเค่นิดหน่อย คือผมสรุปแบบสั้นๆน่ะครับ ความจริงมานมียาวกว่านี้ แต่ผมว่าผมง่วงแล้วอ่านะ ไปนอนดีก่า งัยก็ทำดีไว้ละกานนะครับ เพราะสาเหตุที่ศาสนาต้องเสื่อมก็เพราะมนุษย์มีพฤติกรรมต่ำทรามขึ้นทุกวันนั่นแหละครับ

Cyberking
25-07-2009, 03:57 AM
พระพุทธเจ้าองค์ต่อไป ก็คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพระโพธิสัตว์จุติจากสวรรค์ชั้นดุสิตมาถือปฏิสนธิในตระกูลพราหมณ์ ในครรภ์ของนางเมตไตรยพรหมวดี ภรรยาของสุพรหมพราหมณ์ ปุโรหิตของพระเจ้าสังขจักรพรรดิ แห่งเกตุมดีนคร เมื่อทรงประสูติได้มีนิมิต ๓๒ ประการแล้ว ก็บังเกิดปราสาท ๓ หลังเพื่อเป็นที่ประทับ

พระองค์ได้เสวยสุขเป็นอันมาก เมื่อพระชนมายุ ๘,๐๐๐ ปี ทอดพระเนตรเห็นนิมิตทั้ง ๔ ทรงพอพระทัยในการบวช เสด็จขึ้นไปสู่ปราสาท ปราสาทก็ลอยขึ้นสู่อากาศ มาลงที่ใกล้โพธิมณฑล ท้าวมหาพรหมอัญเชิญอัฏฐบริขารมาถวาย พระโพธิสัตว์ทรงเอาพระขรรค์แก้วตัดพระเมาลี ทรงรับเครื่องอัฏฐบริขารที่ท้าวมหาพรหมนำมาถวาย ผนวชแล้วบำเพ็ญเพียร มีคนบวชตามเป็นอันมาก พระโพธิสัตว์ประทับนั่งเหนืออปราชิตบัลลังก์ในปฐมยาม ทรงบรรลุบุพเพนิวาสานุสติญาณในมัชฌิมยาม ทรงทำให้แจ้งทิพยจักษุญาณในปัจฉิมยาม ทรงพิจารณาปัจจยาการ ๑๒ ประการ ในเวลารุ่งอรุณ ทรงบรรลุซึ่งพระสัพพัญญุตญาณ เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใต้ต้นกากะทิง

พระองค์มีพระวรกายสูง ๘๘ ศอก พระองค์ใหญ่กว้าง ๒๕ ศอก ตั้งแต่ฝ่าพระบาทถึงพระชานุมีประมาณ ๒๒ ศอก ตั้งแต่ฝ่าพระบาทถึงพระชานุถึงพระนาภีประมาณ ๒๒ ศอก

ตั้งแต่พระนาภีถึงพระรากขวัญทั้ง ๒ ประมาณ ๒๒ ศอก ตั้งแต่พระรากขวัญถึงพระเศียรเกล้าที่สุด ยอดพระอุณหิตเปลวพระพุทธรัศมีนั้น ประมาณ ๒๒ ศอก เสมอกันทั้ง ๔ ส่วน พระรากขวัญทั้ง ๒ แต่ละอันนั้นยาว ๕ ศอก พระหัตถ์ทั้ง ๒ ซ้ายขวานั้นยาว ๔๐ ศอก

ระหว่างพระพาหาทั้ง ๒ ซ้ายขวานั้นมีประมาณ ๒๕ ศอก พระอังคุลีแต่ละอันยาว ๕ ศอก ฝ่าพระหัตถ์แต่ละข้างกว้าง ๕ ศอก พระศอโดยกลมรอบมีประมาณ ๕ ศอก ยาวก็ ๕ ศอก พระโอษฐ์เบื้องบนเบื้องล่างกว้าง ๑๐ ศอกเสมอกันเป็นอันดี

พระชิวหาอยู่ภายในพระโอษฐ์ยาว ๑๐ ศอก พระนาสิกสูงยาวลงมา ๗ ศอก ดวงพระเนตรทั้ง ๒ โดยกว้าง ๗ ศอก แววพระเนตรทั้ง ๒ ที่ดำกลมเป็นปริมณฑลอยู่นั้น มีประมาณ ๕ ศอก พระขนงแต่ละข้างยาวได้ ๕ ศอก

ระหว่างพระขนงทั้ง ๒ กว้าง ๔ ศอก พระกรรณทั้ง ๒ แต่ละข้างยาว ๗ ศอก ดวงพระพักตรกลมดังดวงจันทร์วันเพ็ญกลมได้ ๒๕ ศอก พระอุณหิตที่เวียนเป็นทักขิณาวัฏฏ์รอบพระเศียรเป็นเปลวพระพุทธรัศมีขึ้นไป นั้น โดยกลมรอบ ๒๕ ศอก ฯ

ส่วนต้นไม้กากะทิงที่เป็นไม้ศรีมหาโพธินั้นมีปริมณฑลไปได้ ๑๒๐ ศอก มีกิ่งทั้ง ๕ โดยรอบยาวได้ ๑๒๐ ศอก แต่ต้นขึ้นไปสุดปลายกิ่งนั้นได้ ๒๔๐ ศอก โดยสูงโดยสะกัดเป็นปริมณฑลเหมือนกัน มีใบสดเขียวอยู่เป็นนิจจกาล ทรงดอกและเกษรหอมฟุ้งขจรมิรู้ขาด เปรียบประดุจดอกปาริชาติในดาวดึงสาสวรรค์ก็เหมือนกัน ฯ

พระศรีอริยเมตไตรยพุทธเจ้า ทรงมีพระฉัพพรรณรังสีจากพระวรกาย ทำให้สว่างไสวทั้งกลางวันและกลางคืน คนทั้งหลายอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ระลึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ บริโภคข้าวสาลีที่เกิดจากพระพุทธานุภาพ

พระธรรมเสนาบดีสารีบุตร ได้ทูลถามถึงบุญบารมีที่พระศรีอริยเมตไตรยได้บำเพ็ญ พระพุทธเจ้าจึงตรัสเล่าถึงอดีตชาติของพระศรีอริยเมตไตรย เมื่อครั้งเสวยพระชาติเป็นพระเจ้าสังขจักรพรรดิแห่งอินทปัตถนคร ในสมัยของพระสิริมิตรพุทธเจ้า วันหนึ่งได้พบสามเณรในสำนักพระสิริมิตรพุทธเจ้า จึงเสด็จมาเฝ้าพระพุทธเจ้าซึ่งประทับอยู่ที่บุพพาราม แม้ทรงลำบากพระวรกายก็ไม่ทรงท้อถอย พระพุทธเจ้าเนรมิตเพศเป็นมาณพ เนรมิตรถเสด็จออกไปรับพระโพธิสัตว์มาสู่บุพพาราม พระโพธิสัตว์ได้ถวายศีรษะของพระองค์แด่พระพุทธเจ้า บูชาพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่พระองค์ แล้วไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต ด้วยอานิสงส์บารมี จึงทำให้ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า

ในสมัยของพระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบันนี้ ได้เสวยพระชาติเป็นพระอชิตะเถระ พระพุทธเจ้าของเรานั้น ก็ทรงมีพุทธพยากรณ์ว่า พระอชิตะเถระผู้นี้ จะได้ตรัสรู้เป็นพระศรีอาริยเมตไตรยพระพุทธเจ้าในอนาคต


[แก้] มนุษย์ในสมัยของพระศรีอาริย์

ศาสนาพุทธว่า พระศรีอริยะเมตไตร จะมาเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง มาในอนาคต โลกนี้จะมีความสงบสุข และพระศาสนาจะมีความรุ่งเรืองกว่า พระศาสนาของพระพุทธเจ้าในองค์ปัจจุบันนี้ ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าจะมีพระอริยบุคคลมากกว่า และประชาชนจะมีความสุขอย่างยิ่ง คือจะไม่มีเรื่องร้อนใจเลย ทุกคนพอใจในความเป็นอยู่ ไม่มีการเบียดเบียน ตอนนอนไม่ต้องปิดประตูก็ได้ บ้านเลยไม่ต้องทำประตูก็ได้ เรื่องคนร้าย หรือขโมยก็ไม่ต้องกลัว แล้วก็คนจะเป็นคนดีเหมือนกันหมด ไม่มีคนพาล จนกระทั่งลงจากบ้าน ก็ไม่มีใครจำได้ว่าใครเป็นใคร เพราะมันดีเหมือนกันหมด มันสุภาพเหมือนกันหมด มันสวยเหมือนกันหมด จนเมื่อกลับเข้าบ้าน จึงจะจำได้ว่า นี่คือภรรยาของเรา นี่คือสามีของเรา นี่คือลูกของเรา และต้องการอะไรก็ได้ มันมีต้นไม้พิเศษที่เรียกว่า ต้นกัลปพฤกษ์ อยู่ทุกทิศ อยากได้อะไรก็ไปขอที่ต้นไม้ จะสะดวกสบาย แม้แต่การคมนาคม การไปการมา จนว่าน้ำในแม่น้ำนั้น จะไหลลงข้างหนึ่ง จะไหลขึ้นข้างหนึ่ง เพื่อจะสะดวกต่อการใช้เรือ มันเป็นเรื่องละเอียดมากๆ ไม่ต้องพูดหมด มันลำบากเปล่าๆ เอาแต่ใจความมา สรุปว่าไม่มีความทุกข์ อยู่กันเป็นผาสุก ไม่มีอันธพาล ทุกอย่างได้อย่างอกอย่างใจ ดังนั้นจึงมีคนปรารถนาจำนวนมากที่จะเกิดให้ทันในยุคของพระศรีอริยะเมตไตร และมีคำแนะนำว่าต้องทำอย่างนั้น อย่างนี้แล้วจะได้ไปเกิดในศาสนาของพระศรีอริยะเมตไตร หรือแม้แต่บูชามหาชาติ หรือดอกไม้หนึ่งพันดอก หรือฟังให้ครบทั้งพันภาษา หรือทั้งพันคาถา อย่างนี้เป็นต้น

อ้างอิง:โลกพระศรีอารย์อยู่แค่ปลายจมูก,ผู้เขียน พุทธทาสภิกขุ,www.vcharkarn.com

[แก้] วิธีที่จะไปเกิดในสมัยของพระศรีอาริย์

บุญบารมีทำได้หลายอย่าง หลักๆ คือ

1. ทาน ให้ทานทุกชนิด
2. ศีล รักษาศีลให้บริสุทธิ์
3. ภาวนา คือไปปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ หรือภาวนาด้วยวิธีอื่นก็ได้

ที่มา WIKIPEDIA

-------------------------
ทุกอย่างล้วน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

apisitohm
12-09-2009, 12:24 PM
ไม่ว่าอนาคตจะเป้นอย่างไร เวลาก้คือกิเลสที่ตัดยากที่สุด แต่เวลาก็เป้นเครื่องตัดกิเลสได้เช่นกันคือทำลาย และบำรุงนั้นเอง นี้เป็นปริศนาธรรมทุกคนต้องพิจารณาตัวตัวเองครับ

ReDempTion
12-09-2009, 03:44 PM
โห ถ้าเป็นมนุษย์ในสมัยนั้นจิงนะคับ คงจะสุขสบายน่าดู มีสิ่งอำนวยความสะดวกยิ่งกว่าโลก

อนาคตของโดเรมอนอีก เรื่องของพระพุทธเจ้าเนี่ย ผมไม่ค่อยจะเชื่อเท่าไรนะคับ

ว่าเรื่องจะมีอีกพระองค์จะเป็นจริง เพราะว่า วิทการทางวิทยาศาสตร์ น่าจะเจิรญแล้ว

ความเป็นอยู่จะเป็นคล้ายๆ ฝั่งตะวันตก ไม่คิดว่ายังจะมีพระเจ้า... พราหมณ์

แต่สิ่งที่ผมเชื่อคือ มนุษย์ทุกวันนี้เริ่มทรามลงเรื่อยๆ อายุเฉลี่ยที่ลดลงก็เช่นกัน

มองได้หลายแง่

HimeHima
22-01-2010, 09:45 PM
เชื่อกันว่ายุคพระศรีอาริย์ เป็นยุคที่มีคนดีสุดกู่และเลวสุดกู่ พอตายก็ขึ้นสวรรค์หรือลงนรกไปเลย

คนจะสูงมากกก (นึกถึงพระพุทธฉายว่าสูงแค่ไหน)


หมดยุคนี้สามโลกจะโดนเผาโดยดาวอาทิตย์ เสร็จแล้วก็จะหมุนเวียนใหม่ไปอย่างนี้

(อ่านนานชักลืมแล้ว)

บางตำนานบอกว่า ท่านมาเกิดในไทยนี่แหละ