Klln
21-05-2009, 12:21 AM
เนื่องจากรูปแบบที่มีความคล้ายคลึงกันบางส่วนในเรื่องของการเล่นหุ้น กับการเล่นหวย หรือการพนันต่างๆ
ผมมีตัวอย่างหนึ่งในบทความจากหนังสือธรรมะระเบียงแก้วมาใช้ตอบข้อสงสัยตรงนี้ครับ
การซื้อหุ้นเพื่อกินเงินปันผล หรือเพื่อขายในตลาดหุ้น นับว่าเป็นการเล่นพนันหรือไม่ผิดศีลหรือเปล่า
ผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องหุ้น เคยได้ยินแต่เขาพูดกันว่า คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น พิจารณาตามเงื่อนไขที่ถาม การเล่นหุ้นไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดศีลข้อใด ดูเหมือนจะเป็นการซื้อขายแลกเปลี่ยน หมุนเงิน ให้เงินทํางาน คล้ายฝากเงินธนาคารได้ดอกเบี้ย แต่การเล่นหุ้นได้ผลประโยชน์สูงกว่า แต่เสี่ยงมากกว่า เคยทราบว่านักเล่นหุ้นบางคนสูญเสียย่อยยับจนถึงฆ่าตัวตายก็มี ถ้าจะเล่นบ้างก็ไม่ควรหวังรวยมาก เพราะถ้าพลาดพลั้งก็จะสูญเสียมาก ขอให้ใช้วิจารณญาณให้หนัก
ถ้าเราจะซื้อหุ้นใด จะต้องดูว่ากิจการนั้นๆ เป็นบาปหรือไม่ แต่เท่าที่เคยคิดดู ดูเหมือนมันจะเบียดเบียนไปหมด เช่น บริษัททํานิตยสาร ก็จะเป็นการทําให้เพลิดเพลินดูคล้ายกรณีนักฟ้อนรํา ที่ว่าทําให้ผู้ดูบันเทิงเพลิดเพลิน เป็นบาป แม้แต่ปูนซีเมนต์ไทย พอพิจารณา เขาก็สกัดภูเขา เหมือนทําลายธรรมชาติส่วนหนึ่ง หรือหุ้นธนาคาร เขาก็มาจากการกินดอกเบี้ย เป็นต้น
ควร จะเป็นอย่างนั้น คือไม่ซื้อหุ้นซึ่งมีกิจกรรมอันเป็นบาป เพราะว่าหุ้นชนิดนี้ เมื่อเจริญเติบโตขึ้นก็จะยิ่งทําลายสังคมมากขึ้น เมื่อลงรากลึกแล้วทําลายได้ยาก เคยมีนิทาน ชาดกเล่าไว้ถึงเรื่องต้นไทรที่ขึ้นบนต้นทองกวาว เพราะมีนกมาถ่ายมูลไว้ มีนกหงส์ตัวหนึ่ง เตือนเทพซึ่งสถิตอยู่ที่ต้นทองกวาวว่าให้รีบทําลายต้นไทรเสีย มิฉะนั้นเมื่อต้นไทรเติบโต ขึ้นมันจะเบียดเบียนต้นทองกวาวจนตั้งอยู่ไม่ได้ แต่เทพผู้สถิตอยู่ที่ต้นทองกวาวก็ไม่เชื่อฟัง เห็นไปว่าต้นไทรจะเป็นประโยชน์ในภายหน้า แต่เมื่อต้นไทรเติบโตขึ้นจริงๆ หยั่งรากลงดินได้มากแล้ว ก็รีดรั้งต้นทองกวาวจนพังพินาศไป เทพที่สถิตอยู่ ณ ต้นทองกวาวก็ทําอะไรไม่ได้ เพราะเทพซึ่งมาอยู่ที่ต้นไทรมีฤทธานุภาพมากกว่า
เรื่อง นี้เป็นตัวอย่างที่ดีอย่างหนึ่งในสังคมว่า ถ้าปล่อยให้สิ่งที่เป็นอันตรายเจริญเติบโตแล้ว สิ่งชั่วร้าย อาศัยสังคมใดเจริญเติบโตขึ้น มันก็จะทําลายสังคมนั้นให้ย่อยยับไป จึงต้องระวังให้มาก
การปล่อยเงินกู้
การให้กู้กิน ดอกเบี้ย เป็นบาปไหมคะ ไม่เคย ได้ยินเรื่องนี้ในการเรียนธรรมะ มีน้องคนหนึ่งกําลังลําบากด้วยหนี้สิน ดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ หนูถามว่าทําไมแพงนัก เขาตอบว่า ขนาด ๑๕ นี้ยังหากู้ยาก จึงแนะนําให้เขายืมเงินจากอีกคนหนึ่ง คิดดอกเบี้ยร้อยละ ๕ บาทต่อเดือน ทําให้ก็ดีด้วยกันทั้งผู้กู้และผู้ให้กู้ แม้ว่าร้อยละ ๕ จะค่อนข้างไปทางแพงเล็กน้อย แต่ทําให้ผู้กู้เบาลงมาก มีทางหมดหนี้ได้
การ ออกเงินกู้กินดอกเบี้ย ถ้าไม่แพงเกินไปก็ไม่เป็นบาป ดูเหมือนกฎหมายจะให้กินดอกได้ร้อยละ ๒ ต่อเดือน ที่สําคัญประการหนึ่งก็คือ ให้ตั้งจิตเพื่ออนุเคราะห์เขา เหมือนกับให้เขายืม แต่ให้ผลประโยชน์แก่เราบ้าง เพราะเราหาเงินมาได้ด้วยความยากลําบาก ถ้านําไปฝากธนาคารก็ได้ดอกเบี้ยเช่นเดียวกัน แต่ถ้าเก็บดอกมากเกินไป เช่น ร้อยละ ๑๕-๒๐ ต่อเดือน แม้ผู้กู้จะยอมรับเพราะความจําเป็น แต่จะไม่เป็นการกดขี่เขามากเกินไปหรือขอให้นึกถึงมโนธรรมให้มาก ในเรื่องนี้ก็จะทําได้แต่พอดี ไม่เบียดเบียนตน ไม่เบียดเบียนผู้อื่น
อ้างอิงจากหนังสือ ธรรมะระเบียงแก้ว โดย คุณ ขวัญ เพียงหทัย
สำหรับผมแล้วนะครับ บาปไม่บาปดูที่เจตนาเป็นสำคัญกว่าสิ่งอื่นครับผม
ผมมีตัวอย่างหนึ่งในบทความจากหนังสือธรรมะระเบียงแก้วมาใช้ตอบข้อสงสัยตรงนี้ครับ
การซื้อหุ้นเพื่อกินเงินปันผล หรือเพื่อขายในตลาดหุ้น นับว่าเป็นการเล่นพนันหรือไม่ผิดศีลหรือเปล่า
ผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องหุ้น เคยได้ยินแต่เขาพูดกันว่า คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น พิจารณาตามเงื่อนไขที่ถาม การเล่นหุ้นไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดศีลข้อใด ดูเหมือนจะเป็นการซื้อขายแลกเปลี่ยน หมุนเงิน ให้เงินทํางาน คล้ายฝากเงินธนาคารได้ดอกเบี้ย แต่การเล่นหุ้นได้ผลประโยชน์สูงกว่า แต่เสี่ยงมากกว่า เคยทราบว่านักเล่นหุ้นบางคนสูญเสียย่อยยับจนถึงฆ่าตัวตายก็มี ถ้าจะเล่นบ้างก็ไม่ควรหวังรวยมาก เพราะถ้าพลาดพลั้งก็จะสูญเสียมาก ขอให้ใช้วิจารณญาณให้หนัก
ถ้าเราจะซื้อหุ้นใด จะต้องดูว่ากิจการนั้นๆ เป็นบาปหรือไม่ แต่เท่าที่เคยคิดดู ดูเหมือนมันจะเบียดเบียนไปหมด เช่น บริษัททํานิตยสาร ก็จะเป็นการทําให้เพลิดเพลินดูคล้ายกรณีนักฟ้อนรํา ที่ว่าทําให้ผู้ดูบันเทิงเพลิดเพลิน เป็นบาป แม้แต่ปูนซีเมนต์ไทย พอพิจารณา เขาก็สกัดภูเขา เหมือนทําลายธรรมชาติส่วนหนึ่ง หรือหุ้นธนาคาร เขาก็มาจากการกินดอกเบี้ย เป็นต้น
ควร จะเป็นอย่างนั้น คือไม่ซื้อหุ้นซึ่งมีกิจกรรมอันเป็นบาป เพราะว่าหุ้นชนิดนี้ เมื่อเจริญเติบโตขึ้นก็จะยิ่งทําลายสังคมมากขึ้น เมื่อลงรากลึกแล้วทําลายได้ยาก เคยมีนิทาน ชาดกเล่าไว้ถึงเรื่องต้นไทรที่ขึ้นบนต้นทองกวาว เพราะมีนกมาถ่ายมูลไว้ มีนกหงส์ตัวหนึ่ง เตือนเทพซึ่งสถิตอยู่ที่ต้นทองกวาวว่าให้รีบทําลายต้นไทรเสีย มิฉะนั้นเมื่อต้นไทรเติบโต ขึ้นมันจะเบียดเบียนต้นทองกวาวจนตั้งอยู่ไม่ได้ แต่เทพผู้สถิตอยู่ที่ต้นทองกวาวก็ไม่เชื่อฟัง เห็นไปว่าต้นไทรจะเป็นประโยชน์ในภายหน้า แต่เมื่อต้นไทรเติบโตขึ้นจริงๆ หยั่งรากลงดินได้มากแล้ว ก็รีดรั้งต้นทองกวาวจนพังพินาศไป เทพที่สถิตอยู่ ณ ต้นทองกวาวก็ทําอะไรไม่ได้ เพราะเทพซึ่งมาอยู่ที่ต้นไทรมีฤทธานุภาพมากกว่า
เรื่อง นี้เป็นตัวอย่างที่ดีอย่างหนึ่งในสังคมว่า ถ้าปล่อยให้สิ่งที่เป็นอันตรายเจริญเติบโตแล้ว สิ่งชั่วร้าย อาศัยสังคมใดเจริญเติบโตขึ้น มันก็จะทําลายสังคมนั้นให้ย่อยยับไป จึงต้องระวังให้มาก
การปล่อยเงินกู้
การให้กู้กิน ดอกเบี้ย เป็นบาปไหมคะ ไม่เคย ได้ยินเรื่องนี้ในการเรียนธรรมะ มีน้องคนหนึ่งกําลังลําบากด้วยหนี้สิน ดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ หนูถามว่าทําไมแพงนัก เขาตอบว่า ขนาด ๑๕ นี้ยังหากู้ยาก จึงแนะนําให้เขายืมเงินจากอีกคนหนึ่ง คิดดอกเบี้ยร้อยละ ๕ บาทต่อเดือน ทําให้ก็ดีด้วยกันทั้งผู้กู้และผู้ให้กู้ แม้ว่าร้อยละ ๕ จะค่อนข้างไปทางแพงเล็กน้อย แต่ทําให้ผู้กู้เบาลงมาก มีทางหมดหนี้ได้
การ ออกเงินกู้กินดอกเบี้ย ถ้าไม่แพงเกินไปก็ไม่เป็นบาป ดูเหมือนกฎหมายจะให้กินดอกได้ร้อยละ ๒ ต่อเดือน ที่สําคัญประการหนึ่งก็คือ ให้ตั้งจิตเพื่ออนุเคราะห์เขา เหมือนกับให้เขายืม แต่ให้ผลประโยชน์แก่เราบ้าง เพราะเราหาเงินมาได้ด้วยความยากลําบาก ถ้านําไปฝากธนาคารก็ได้ดอกเบี้ยเช่นเดียวกัน แต่ถ้าเก็บดอกมากเกินไป เช่น ร้อยละ ๑๕-๒๐ ต่อเดือน แม้ผู้กู้จะยอมรับเพราะความจําเป็น แต่จะไม่เป็นการกดขี่เขามากเกินไปหรือขอให้นึกถึงมโนธรรมให้มาก ในเรื่องนี้ก็จะทําได้แต่พอดี ไม่เบียดเบียนตน ไม่เบียดเบียนผู้อื่น
อ้างอิงจากหนังสือ ธรรมะระเบียงแก้ว โดย คุณ ขวัญ เพียงหทัย
สำหรับผมแล้วนะครับ บาปไม่บาปดูที่เจตนาเป็นสำคัญกว่าสิ่งอื่นครับผม