PDA

View Full Version : ชาวพุทธ"อิเหนา"ฮือต้าน"บุดดาบาร์"หมิ่นศาสนา



hitman1288
10-03-2009, 05:13 PM
<div align="center">http://www.matichon.co.th/news-photo/khaosod/2009/03/for21090352p1.jpg</div>



ตามปกติแล้วสังคม "ชาวพุทธ" ในประเทศอินโดนีเซียนั้นดำเนินชีวิตกันเงียบๆ เรียบง่าย

เพราะเป็นคนส่วนน้อย มีประชากรแค่ร้อยละ 1

ขณะที่ชาวมุสลิมมีมากถึงร้อยละ 90

แต่แล้วชาวพุทธก็ต้องออกมาเคลื่อนไหวสร้างข่าวใหญ่ไปทั่วโลกจนได้

หลังจากลูกคนใหญ่คนโตและนักธุรกิจขาใหญ่ ไปจับมือกับ "จอร์จ ฟิฟธ์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์" กลุ่มทุนธุรกิจสถานบันเทิง-โรงแรมชื่อดังสัญชาติฝรั่งเศส

ลงทุนเปิดภัตตาคารกึ่งบาร์สุดหรู "บุดดาบาร์" (บาร์พระพุทธ) ในย่านเมนเต็ง กลางกรุงจาการ์ตา

ทำให้ชาวพุทธบางส่วนไม่พอใจอย่างรุนแรง ก่อม็อบร้อยกว่าคนชุมนุมประท้วงอยู่หน้าร้านตั้งแต่ 5 มีนาคม

เพราะมองว่าจงใจดูหมิ่นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า!

"พระพุทธเจ้าเป็นศาสดาของศาสนาพุทธ แต่เจ้าของกิจการบาร์กลับนำพระพุทธรูปไปเป็นของตกแต่งในร้าน และที่เลวร้ายที่สุดคือเข้าไปอยู่ในที่ อโคจรแบบนั้น ซึ่งร้านลักษณะนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลยในเมืองไทย มาเลเซีย หรือสิงคโปร์" นายเอโก ยูโกรโฮ แกนนำกลุ่มแนวร่วมนักศึกษาต่อต้านบุดดาบาร์ กล่าว



<div align="center">http://www.matichon.co.th/news-photo/khaosod/2009/03/for21090352p2.jpg</div>




กลุ่มผู้ประท้วงเชื่อว่า เบื้องหลังที่บุดดาบาร์สามารถขอใบอนุญาตจากทางการจาการ์ตาเปิดบริการขายสุรา ในชาติมุสลิมแห่งนี้ง่ายดาย อีกทั้งกล้านำชื่อพระพุทธเจ้ามาตั้งชื่อร้านโดยไม่กลัวแรงต้าน เพราะมี "แบ๊ก" ดีหนุนหลัง

เช่น ลูกผู้มีอำนาจ รวมถึง นางปวน มหารานี ลูกสาวอดีตประธานาธิบดี เมกาวาตี ซูการ์โนบุตรี!

เมื่อความขัดแย้งปะทุขึ้น นายเอโกกับพวกจัดแจงนำเทปสีเหลืองมาล้อมรอบตัวร้านบุดดาบาร์ สกัดกั้นไม่ให้ลูกค้าเข้าไปใช้บริการ

และประกาศไม่เลิกชุมนุมจนกว่าเจ้าของจะเปลี่ยนชื่อ นำพระพุทธรูปออกจากร้าน หรือปิดกิจการไปเลย เพราะทำให้ศาสนาพุทธเสื่อมเสีย ในเมื่อพระธรรมคำสอนไม่สนับสนุนให้คนดื่มเหล้า การมาเปิดร้านแบบนี้ถือเป็นการดูหมิ่น

ด้านตำรวจวางกำลังรักษาความสงบอยู่ใกล้ๆ ไม่ให้เหตุการณ์บานปลาย แต่ยังไม่มีทีท่าลุกลามรุนแรงไปมากกว่านี้

ล่าสุด เมื่อวันเสาร์ พระอาลิม ซูดิโอ เลขาธิ การสภาบัณฑิตพุทธธรรม กรุงจาการ์ตา ฝากข้อ ความถึงม็อบชาวพุทธ ว่า

การใช้กำลังไปปิดล้อมหวังบีบบังคับไม่ให้ผู้อื่นทำมาค้าขายนั้น ไม่ใช่ทางแก้ปัญหาด้วยธรรม

"ทางออกดีที่สุด คือ ทุกฝ่ายควรหันหน้าพูดคุยกัน" พระอาลิม เสนอ

นายกาโต ซูการ์โน อาดี รองเลขาธิการสมาคมชาวพุทธแห่งอินโดนีเซีย หรือ "วาลูบี" มองในทางสายกลาง ว่า

กลุ่มผู้ประท้วงเป็นสหายธรรมที่มีจิตใจรักพระศาสนา ไม่อยากให้พระพุทธรูปไปประดิษฐานอยู่ในสถานที่ไม่เหมาะสม

ประเด็นสำคัญตนเห็นว่า ทั้งชาวพุทธและผู้ประกอบการต้องนั่งคุยกันเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด ซึ่งสองฝ่ายต้องไม่คิดเอาชนะคะคานกัน

ขณะนี้ส.ส.สังกัดพรรค "พีดีเอส" เข้ามาเป็นคนกลาง เชิญฝ่ายต่างๆ จับเข่าคุยกันที่สภาผู้แทนราษฎร และน่าจะได้ข้อยุติ

"เรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นก็เพราะทางการไม่เคยถามเลยว่าเรารับได้หรือไม่ ไม่คิดมาแจ้งและปรึกษากับชุมชนชาวพุทธให้ดีเสียก่อน ก่อนออกใบอนุญาต" นายกาโต ระบุ

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารบุดดาบาร์โต้ว่า เคยปรึกษาสมาคมที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาถึง 3 แห่ง และไม่มีเสียงคัดค้านแต่อย่างใด

"บุดดาบาร์" เริ่มเปิดสาขาแรกในกรุงปารีส แล้วขายแฟรนไชส์เปิดสาขาตามมหานครใหญ่ๆ ทั้งในลอนดอน นิวยอร์ก ดูไบ เซาเปาโล ไคโร

ก่อนงัดข้อกับชาวพุทธก็ปลุกกระแสไม่พอใจมาแล้วครั้งหนึ่ง เนื่องจากที่ตั้งร้าน นี้เป็น "อาคารโบราณ" ซึ่งในอดีตเคยเป็นสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

เดิมทีทางการจาการ์ตารับซื้อเพื่ออนุรักษ์ไว้เป็นมรดกของส่วนรวม กระทั่งปล่อยให้บุดดาบาร์เข้าดำเนินกิจการตั้งแต่ปลายปีก่อน ท่ามกลางข้อครหาเป็น "ธุรกิจมีเส้น" ไม่ต้องคอยสนใจว่าชาวบ้านร้านตลาดจะคิดอย่างไร!

credit : http://www.matichon.co.th/khaosod/vi...MHdNeTB3T1E9PQ

gockkok191
29-04-2009, 06:29 PM
ผมเป็นนักศึกษาในต่างแดน

ในประเทศที่ประชากรส่วนมากไม่นับถือศาสนา

บางทีผมก็ฉงนในใจ และสงสัยว่า เมื่อคนเราไม่นับถือศาสนาแล้ว เราจะใช้อะไรยึดเหนี่ยว

คำตอบของเพื่อนผมคนหนึ่งก็คือ "เชื่อมั่น ในตนเอง"

แต่ด้วยความเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไป ทำให้บางทีอาจมองข้าม "คนอื่น"

ผมไปเที่ยวบ้านของคนในท้องถิ่น ที่เขาเคยไปเที่ยวประเทศไทย และแน่นอนเขาต้องมีของที่ระลึก

มีรูปแกะสลัก และพระพุทธรูป

ซึ่งวางไว้ใต้โต๊ะนั่งเล่น

สิ่งนั้นทำให้ผมรู้สึกใจหายมาก ว่าเขาตั้งใจ หรือ เขาไม่รู้ ว่านั่นคือสิ่งศักดิ์สิทธิที่พุทธศาสนิกชนเคารพนับถือ

เราก็ได้แต่บอกว่า ที่ว่างนี้ไม่เหมาะสมนะ รูปปั้นนี้แสดงถึง god ของชาวพุทธ

เขาก็ได้บอกว่า " นี่ไม่ใช่ god ของคุณหรอก แต่คืองานศิลปะ คือการตกแต่ง "

ทำให้ผมได้กลับไปคิดอีกหลายๆอย่าง

ว่าเขานั้นผิด หรือ เราที่ผิด จากมิจฉาทิฐิ ที่เกิดขึ้น

แต่กระนั้น ถูกผิด ไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่เจตนา

winhell01
29-04-2009, 07:25 PM
เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการของผู้ที่นับถือศาสนาอื่นหรือป่าวครับ
เขาอาจไม่รู้ก้อได้ว่าศาสนาพุทธมีข้อห้ามไม่ให้ดื่มสุรา
ทางที่ดีควรจะศึกษาให้ดีก่อนนะครับ