PDA

View Full Version : พร 4 ข้อจากท่าน ว.วชิรเมธี



bo0m
22-10-2008, 04:51 PM
1. อย่าเป็นนักจับผิด
คนที่คอยจับผิดคนอื่น แสดงว่า หลงตัวเองว่าเป็นคนดีก
ว่าคนอื่น ไม่เห็นข้อบกพร่องของตนเอง 'กิเลสฟูท่วมหัว ยังไม่รู้
จักตัวอีก' คนที่ชอบจับผิด จิตใจจะหม่นหมอง ไม่มีโอกาส 'จิตป
ระภัสสร' ฉะนั้น จงมองคน มองโลกในแง่ดี'แม้ในสิ่งที่เป็นทุกข์ ถ้ามองเป็น ก็เป็นสุข'

2. อย่ามัวแต่คิดริษยา
'แข่งกันดี ไม่ดีสักคน ผลัดกันดี ได้ดีทุกคน'
คนเราต้องมีพรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
คนที่เราริษยาเป็นการส่วนตัว มีชื่อว่า 'เจ้ากรรมนายเวร' ถ้าเขาสุข เราจะทุกข์ ฉะนั้น เราต้องถอดถอน
ความริษยาออกจากใจเรา เพราะไฟริษยา เป็น 'ไฟสุมขอน' (ไฟเย็น) เราริษยา 1 คน เราก็มีทุกข์ 1 ก้อน
เราสามารถถอดถอนความริษยาออกจากใจเราโดยใช้วิธี 'แผ่เมตตา'
หรือ ซื้อโคมมา แล้วเขียนชื่อคนที่เราริษยา แล้วปล่อยให้ลอยไป

3. อย่าเสียเวลากับความหลัง
90% ของคนที่ทุกข์ เกิดจากการย้ำคิดย้ำทำ 'ปล่อยไม่ลง ปลงไม่เป็น'
มนุษย์ที่สลัดความหลังไม่ออก เหมือนมนุษย์ที่เดินขึ้นเขาพร้อมแบกเครื่องเคราต่างๆ ไว้ที่หลังขึ้นไปด้วย
ความทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้ว จงปล่อยมันซะ 'อย่าปล่อยให้คมมีดแห่งอดีต มากรีดปัจจุบัน'
'อยู่กับปัจจุบันให้เป็น' ให้กายอยู่กับจิต จิตอยู่กับกาย คือมี 'สติ' กำกับตลอดเวลา

4. อย่าพังเพราะไม่รู้จักพอ
'ตัณหา' ที่มีปัญหา คือ ความโลภ ความอยากที่เกินพอดี เหมือนทะเลไม่เคยอิ่มด้วยน้ำ
ไฟไม่เคยอิ่มด้วยเชื้อ ธรรมชาติของตัณหา คือ 'ยิ่งเติมยิ่งไม่เต็ม'
ทุกอย่างต้องดูคุณค่าที่แท้ ไม่ใช่ คุณค่าเทียม เช่น คุณค่าที่แท้ของนาฬิกา คืออะไร
คือ ไว้ดูเวลาไม่ใช่มีไว้ใส่เพื่อความโก้หรู
คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์มือถือ คืออะไร คือไว้สื่อสาร แต่องค์ประกอบอื่นๆ ที่เสริมมาไม่ใช่คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์
เราต้องถามตัวเองว่า 'เกิดมาทำไม' 'คุณค่าที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ตรงไหน
'ตามหา 'แก่น' ของชีวิตให้เจอ
' คำว่า 'พอดี' คือ ถ้า 'พอ' แล้วจะ 'ดี' รู้จัก 'พอ' จะมีชีวิตอย่างมีความสุข'
ใครที่ไม่ได้ไปนั่งฟังการบรรยายธรรมะโดยท่าน ว.วชิรเมธี มีพี่ๆ ที่รู้จักไปนั่งฟังมา ท่านได้ให้พร 4 ข้อ ดังนี้

spicydog
28-11-2008, 07:24 PM
ขอบคุณมากครับที่เอามาเผื่อแผ่
ต้องทำให้สำเร็จ เหอะๆ
แต่ได้ข้อ3นี่ ยากดีแท้ - -"

toonforever
16-12-2008, 12:33 PM
ผมเริ่มตั้งแต่ข้อ 1 เลยชอบจับผิดเพื่อนกันเอง เหอๆ ข้อสองเป็นครั้งคราว ข้อสามนี่ ก็มีบ้าง ข้อสี่ บ่อยๆไป ขอบคุณมากๆครับสำหรับ อนุโมทนาสาธุครับ

nuna
30-06-2009, 02:13 PM
ขอบคุณน่ะ ที่ร่วมแบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้
อยากทำให้ได้ทุกข้อ แต่ข้อสามนี่ยากหน่อย
กายอยู่กับจิต จิตอยู่กับกาย โอเช ๆ จะพยายาม

sakujung
02-07-2009, 04:02 PM
อ่านแล้ว ซึ้ง ใน รสพระธรรม ยิ่งนัก ชีวิต ตอนนี้กำลังเครียดๆเลย

antpzero
02-07-2009, 04:42 PM
เป็นอะไรที่ อ่านแล้ว เข้าใจอะไรมากขึ้นเน้อ
บางทีผมก็เป็นะ ชอบอยู่กับอดีตหนะ

แต่ได้อ่านก็ ดีขึ้น
แต่บางทีบางครั้งอดีตมานก็มาแบบไม่ได้ตั้งตัว
บางครั้งนึกทำอะไรอยู่ก็นึกถึงอดีตขึ้นมา

ก็ถ้าปลงได้ก็จะดีมากๆๆ

ขอบคุณข้อความดีๆๆครับ

keem
02-07-2009, 05:58 PM
รู้สึก "โดน" ครับ
ผมก็ไม่ได้เป็นคนดีเลิศมาก
แต่ก็ไม่ได้เป็นคนไม่ดี<<<อันนี้ผมค่อนข้างมั่นใจกับตัวเอง555

แต่นิสัยบางอย่างผมมันก็น่าจะได้รับการปรับแก้ไข
นิสัยแย่ๆของผม คิดว่าอยู่ใน4ข้อนั้นอย่างแน่ๆ

บางครั้งมันเลยทำให้ผมทุกข์ๆ
ทั้งๆที่เราเกิดมาดีกว่าคนอื่นเป็นล้านๆคน

สรุป อ่านแล้วก็เหมือนคอยเตือนตัวเองว่า

ปลงซะ ปลงซะ ปลงซะ ประมาณนั้นอะครับ

sa_bye
03-09-2009, 10:46 PM
อ่านข้อ 3 แล้ว โดนเลย...โดนใจผมเลย

เพราะทุกวันนี้ ทุกลมหายใจ ทุกการกระทำ การปฏิบัติงาน ยังคงระลึกถึงความหลังที่ฝังใจในอดีตอยู่เสมอ ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะสลัดมันทิ้งได้ คงจะต้องหาทางเพื่อ.."ปลงให้ได้ครับ"

ขอบคุณครับ

momotalo9999
07-09-2009, 10:44 PM
1. อย่าเป็นนักจับผิด
ผมทำแบบนั้นไม่ได้หรอกครับเพราะ
ผมต้องจับผมตัวเอง และแก้ไขเปนประจำ

2. อย่ามัวแต่คิดริษยา
เปนสิ่งที่ดีนะครับเพราะริษยาไปก้อไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น
มีแต่ทรุดลง

3. อย่าเสียเวลากับความหลัง
ความหลังบางสิ่งก้อดีนะครับแต่ถ้าบางสิ่งมันไม่ดี
และผ่านมาแล้วก้อปล่อยผ่านไป

4. อย่าพังเพราะไม่รู้จักพอ
ถ้าพูดตามหลักความเปนจริงนะครับมีคนพักมาเยอะเลยเพราะเรื่อง "แค่นี้"
ดูได้หลายกรณีเช่น นักเล่นหุ้น นักเกรงกำไร ยัน คนเล่นการพนัน

makubax
19-11-2009, 10:14 PM
อ่านแล้วซึ้งจริงๆ แต่เราว่ามันคงยากที่จะไม่มีนั่นแหละ เพราะมนุษย์ก็ต้องอยู่ในสังคมที่คนแตกต่างกัน
ตอนแรกก็ผ้าขาวเหมือนกันทั้งนั้น แต่พอเข้าสังคมก็เริ่มถูกละเลงสี คนที่จะไม่มีข้อพวกนี้ก็คงวางตัวในสังคมยากซักหน่อย
เพราะก็ยอมแพ้คนหมู่มาก สุดท้ายก็คงอยู่ที่จุดยืนของแต่ละคนมากกว่า ทั้งที่พวกนี้แล่ะคือแก่น ดีจริงๆ :)